เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปล่องแก่ง!!

0

เข้าสู่หน้าฝนคราใด ดูเหมือนว่า “การล่องแก่ง” จะเป็นกิจกรรมในอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวแนวแอดเวนเจอร์ทั้งหลาย เลือกที่จะไปผจญภัยกัน วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนลงล่องแก่งมาฝาก

           แม้จะไม่ได้ไปเดินเฉิดฉายอยู่ตามห้างสรรพสินค้า แต่การแต่งกายเพื่อล่องแก่ง ก็เป็นสิ่งสำคัญ เริ่มตั้งแต่เสื้อผ้า ควรเลือกเสื้อผ้าที่แห้งไว อย่างเสื้อหรือกางเกงที่ทำจากผ้าร่ม หรือผ้าที่ไม่อุ้มน้ำ มีสีทึบ เนื่องจากในบางลำน้ำนั้น น้ำไม่ได้ใสกิ๊กเหมือนกับหน้าเด็กหนุ่มเกาหลี หากใส่สีขาว สีครีม เมื่อขึ้นมาจากการล่องแก่ง เสื้อผ้าอาจเปลี่ยนสี ซักอย่างไรก็ไม่ขาวสะอาดได้เหมือนเก่า

ตามมาด้วยรองเท้า การล่องแก่งอาจจะต้องพบเจอกับอุปสรรคกลางทางมากมาย เดาไม่ได้ว่าเรือจะล่มตอนไหน หรืออาจต้องลงจากเรือเพื่อช่วยกันลากเรือให้พ้นโขดหิน ดังนั้น การใส่รองเท้าจึงถือเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันอันตรายจากการถูกหินบาด หรือเหยียบสิ่งมีคมที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งในการเลือกรองเท้า ควรเลือกใส่รองเท้ายาง ที่มีสายรัดส้น หรือมีเชือกผูก เนื่องจากรองเท้าจะไม่ลอยหนีไปช่วงทีเผลอ ดูแลความสะอาดได้ง่าย และแห้งไว

อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่ต้องพกของมีค่าติดกายไปด้วยทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น กล้องถ่ายรูป สำหรับเก็บบรรยากาศสวยๆ ริมทาง โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ ฯลฯ นั่นก็คือ กระเป๋ากันน้ำ ที่หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้า หรือ ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เดินป่าทั่วไป มีให้เลือกหลายสี หลายขนาด

สุดท้าย…ขอเตือนผู้ที่ต้องพึ่งพาแว่นตา และคอนแทคเลนส์ สำหรับผู้ที่ต้องใส่แว่นตา ควรใส่อุปกรณ์เสริมอย่างสายคล้องคอทุกครั้ง รูดสายให้กระชับ อย่าแน่นจนเกินไป เพื่อป้องกันแว่นตาตกน้ำ ส่วนผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ แนะนำให้ถอดออกก่อน เนื่องจากอาจมีน้ำสกปรกไหลเข้าตา ทำให้ระคายเคือง และอักเสบได้

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระดับความยากง่ายของสายน้ำ

ระดับความยากง่ายของแก่งตามมาตรฐาน “American Whitewater Affiliation” สามารถแบ่งออกได้เป็น 6 ระดับ คือ…

ระดับ 1 : ง่ายมาก (Easy) หรือง๊าย..ง่าย เพราะ ตลอดทั้งสายน้ำ จะมีอุปสรรคกีดขวางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจน และสามารถหลบหลีกได้ง่าย แบบไม่ต้องลุ้นมากนัก

ระดับ 2 : ธรรมดา (Novice) ลักษณะของลำน้ำจะมีแก่งที่ทอดตัวตรงไปข้างหน้า มีช่องหรือเส้นทางที่กว้างพอที่จะให้เรือยางผ่านไปได้อย่างสบายๆ โดยไม่จำเป็นต้องสำรวจแก่งก่อน อาจมีอุปสรรคบ้าง แต่ก็ไม่หนักหนา สามารถหลบผ่านได้ง่ายๆ

ระดับ 3 : ปานกลาง (Intermediate) ลักษณะของลำน้ำเริ่มมีแก่ง พร้อมคลื่นขนาดกลางที่หลบหลีกได้ยากขึ้น ซึ่งกระแสน้ำสามารถซัดเข้าในเรือยางได้ ในเรื่องของอุปสรรคระหว่างทาง มีความซับซ้อน และมีกระแสน้ำเชี่ยวขึ้น บางช่วงอาจต้องบังคับเรือยางให้ผ่านช่องทางที่เฉพาะเจาะจง อาจมีคลื่นลูกใหญ่ หรือไม้ล้มขวางลำน้ำให้เห็น แต่ก็ไม่ยากเกินจะผ่านไปได้อย่างปลอดภัย

ระดับ 4 : ยาก (Advanced) ความรุนแรงของกระแสน้ำตามแก่งต่างๆ มีมากขึ้น แต่ยังพอคาดการณ์ได้ว่าจะเจอกับอะไรบ้าง ซึ่งการบังคับเรือยาง ต้องเป็นไปอย่างแม่นยำมากๆ ทั้งนี้ ต้องดูจากลักษณะของแม่น้ำและสภาพแวดล้อมอื่นๆ ประกอบกัน อาทิ การบังคับเรือยางให้ผ่านช่องทางเล็กๆ หรืออาจต้องเผชิญกับคลื่นขนาดใหญ่

สำหรับแก่งในระดับความยากที่ 4 นี้เริ่มมีระดับความอันตรายที่เราต้องพยายามหาทางป้องกัน และมีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บจากการลอยตัวอยู่ในน้ำ อีกทั้ง ภาวะของน้ำอาจทำให้ยากต่อการช่วยเหลือตัวเองหากตกน้ำ ซึ่งการตรวจสอบแก่งนั้นๆ ก่อนจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ

ระดับ 5 : ยากมาก (Expert) เป็นระดับที่จะต้องเผชิญกับอุปสรรคในกระแสน้ำระยะยาว หรือในระดับที่อันตราย เรืออาจทิ้งตัวลงกระแทกคลื่น หรือโพรงน้ำม้วนขนาดใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางจังหวะอาจมีต้องกระโจนลงสู่ผาน้ำตก ซึ่งหากกระแสน้ำไหลเชี่ยวขนาดนี้ การลอยตัวอยู่ในน้ำถือเป็นเรื่องที่อันตราย อีกทั้ง การให้ความช่วยเหลือสมาชิกที่ตกน้ำ ก็ค่อนข้างทำด้วยความยากลำบาก ดังนั้น การล่องแก่งในระดับนี้ จึงต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับความปลอดภัย อย่าง หมวกกันน็อก เสื้อชูชีพ ให้ครบถ้วน รวมถึงทีมงานที่มีประสบการณ์

ระดับ 6 : อันตราย (Extreme) ถือเป็นระดับความยากขั้นสุดท้าย หรือย๊าก..ยาก และอันตรายเกินกว่าที่จะลงล่องแก่งได้ แม้จะผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้น การล่องแก่ง ควรกระทำอย่างระมัดระวัง และรอบคอบที่สุด ถ้าไม่มั่นใจ อย่าริล่องจะดีกว่า

สำหรับสัปดาห์หน้าจะเป็นเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับคำสั่งต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการล่องแก่ง คนที่มีโปรแกรมจะไปล่องในช่วงหน้าฝนนี้ ต้องไม่พลาดนะจ๊ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เดลินิวส์ และ http://travel.kapook.com

ร่วมแสดงความคิดเห็น