หน้าแรก Tick&Trips แอ่ว “เจียงฮาย” เที่ยวหลายอารมณ์ ชมดอกซากุระบาน ที่ “ดอยแม่สลอง”

แอ่ว “เจียงฮาย” เที่ยวหลายอารมณ์ ชมดอกซากุระบาน ที่ “ดอยแม่สลอง”

0

“ไปไปเต๊อะไปแอ่ว ไปเต๊อะไปแอ่ว จังหวัดเจียงฮาย ข้าเจ้าจะปาไปไหว้ป้อขุนเม็งราย ตี้เคารพเชิดชู ขอพรหื้อทุกคนทุกผู้ มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายใจ”

       ดอยแม่สลอง ในวันซากุระเบ่งบาน

       “ตะลอนเที่ยว” ฮัมบทเพลง “สาวเจียงฮาย” อยู่ในใจอย่างสบายอารมณ์ ขณะที่เจ้านกเหล็กยักษ์ของสายการบินนกแอร์ กำลังพาเครื่องลงยังสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ. เชียงราย ซึ่งเป็นจุดหมายของการออกตะลอนเที่ยวแบบขอหนีลมร้อนจากเมืองกรุง มาสัมผัสกับอากาศเย็นสบายทางภาคเหนือที่ยังพอมีลมหนาวหลงเหลืออยู่

จุดชมวิวไร่ชาและซากุระริมทางบนดอยแม่สลอง

       ในทริปนี้ของการแอ่วเชียงรายเราขอเลือกเที่ยวตามแคมเปญของททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) ที่ว่า “เที่ยวหัวใจใหม่ เมืองไทยยั่งยืน” โดยพาใจดวงน้อยที่รักการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ เที่ยวแบบใส่ใจ ไม่ทำลายทรัพยากรทางการท่องเที่ยว มาเที่ยวท่องไปสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันโด่งดังของจ.เชียงราย ซึ่งมีความหลากหลายให้เลือกเที่ยวได้ตามอำเภอใจ แบบหลากหลายอารมณ์ของการท่องเที่ยว

อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช

       ว่าแล้วจะรอช้าอยู่ใย แบกกระเป๋าพร้อมกล้องคู่ใจ ออกตะลุยเชียงรายกันดีกว่า เปิดทริปด้วยการมากราบสักการะองค์พ่อขุนเม็งรายกันที่ “อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช” ตั้งอยู่กลางตัวเมืองเชียงรายบริเวณห้าแยกพ่อขุน อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายนี้ทาง จ.เชียงรายสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระองค์ท่าน ที่เป็นผู้สร้างเมืองเชียงรายขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 1805 และเมืองเชียงรายก็เจริญรุ่งเรืองเรื่อยมาสืบมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งในปีนี้ทางจังหวัดได้ร่วมมือกับหน่วยงานหลายภาคส่วนจัดกิจกรรมฉลองเชียงราย 750 ปีไปอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

พระเจ้าล้านทอง พระศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเชียงรายเคารพนับถือมาก

       อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย พระรูปของพระองค์หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ดูสง่างาม ฉลองพระองค์ด้วยเครื่องทรงพระมหากษัตริย์ล้านนาโบราณ ประทับยืนบนฐานสูงประมาณ 3 ม. ทรงถือดาบด้วยพระหัตถ์ซ้ายแนบกับพระเพลา ทรงสวมมาลัยพระกร และธำมรงค์ที่พระหัตถ์ขวาตรงนิ้วนางและนิ้วก้อย ที่พระหัตถ์ซ้ายตรงนิ้วชี้และทรงฉลองพระบาท อีกทั้งยังมีตุงหลวงเฉลิมพระเกียรติประดับอยู่ทางด้านหลังอนุสาวรีย์งดงามตาเป็นยิ่งนัก

พระเจดีย์ ที่ค้นพบพระแก้วมรกต

       เสร็จจากสักการะพ่อขุนเม็งรายแล้ว เราไปเที่ยวแบบอิ่มบุญกันต่อที่ “วัดพระแก้ว” เป็นวัดสำคัญที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงราย เดิมชื่อวัดป่าญะ หรือป่าเยียะ หมายถึง ไม้ไผ่พันธุ์พื้นเมืองชนิดหนึ่ง แต่เมื่อ พ.ศ. 1977ได้พบพระแก้วมรกตเป็นครั้งแรกที่พระเจดีย์หลังพระอุโบสถ จึงได้ชื่อใหม่ว่าวัดพระแก้ว และได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงเมื่อ พ.ศ. 2521

เดินเข้าวัดพระแก้วแล้วรู้สึกจิตใจสงบร่มเย็นจริงๆ ภายในวัดร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีสิ่งน่าสนใจให้ชมหลายที่ มีพระอุโบสถที่งดงามทรงเชียงแสน ภายในมีพระเจ้าล้านทองเป็นพระประธาน เป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยสกุลศิลปปาละวะ ที่มีความสวยงามมากที่สุดในประเทศไทย ชาวเชียงรายเคารพนับถือมาก

พระหยกเชียงราย ที่ชาวเชียงรายให้ความสักการะ

       มีพระเจดีย์สีทองเหลืองอร่าม ที่มีความสำคัญตรงที่เป็นที่ค้นพบพระแก้วมรกตอันศักดิ์สิทธิ์ และมีหอพระหยก เป็นอาคารทรงล้านนาโบราณ เป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธรตนากร นวุติวัสสานุสรณ์มงคล” หรือ “พระหยกเชียงราย” มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จย่ามีพระชนมายุครบ 90 พรรษา เป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากหินหยก ปางสมาธิราบ เครื่องทรงสร้างด้วยอัญมณีและทองคำ แบบเครื่องทรงพระพุทธรูปแบบเชียงแสน มีความงดงามเป็นอย่างมาก

ทิวทัศน์ในไร่บุญรอด

       นอกจากนี้ยังมีโฮงหลวงแสงแก้ว เป็นอาคารทรงล้านนาประยุกต์ ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงพระพุทธรูปสำคัญ รวมทั้งศิลปวัฒนธรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาในรูปแบบที่ทันสมัยให้ได้ชม เราใช้เวลาอยู่ที่วัดพักใหญ่ ได้ไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และทำบุญจนอิ่มใจแล้วก็ออกเดินทางไปเที่ยวกันที่ “ไร่บุญรอด” สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ล่าสุดของเชียงรายที่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ไร่บุญรอดมีรถรางพาทัวร์ชมไร่และมีไกด์คอยอธิบายจุดเที่ยวต่างๆ ภายในไร่ที่มีเนื้อที่กว่า 8,000 ไร่ มีพืชผลทางเกษตรที่ปลูกไว้ให้ได้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทุ่งข้าวบาร์เลย์ ไร่กาแฟ ไร่ชา ทุ่งข้าวญี่ปุ่น แปลงพืชผักอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอรี่ พุทรา มะเฟือง เป็นต้น

 

สวนสายรุ้งในไร่บุญรอด

       อีกทั้งยังมีจุดพักให้ได้ลงไปถ่ายรูปในสวนไม้ดอกไม้ประดับที่มีการพ่นละอองน้ำตัดกับแสงแดดจนเกิดเป็นรุ้งกินน้ำดูสวยงาม จนใครหลายคนเรียกที่นี่ว่า“สวนสายรุ้ง” นอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอาหารภูภิรมย์ที่มีจุดชมวิว 360 องศา ให้ได้แวะถ่ายรูปและอิ่มอร่อยกับอาหารเลิศรสกันได้ และมีร้านกาแฟสดจากไร่ ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากไร่ ให้ได้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันไป

เราเที่ยวชมไร่จนทั่วและแวะซื้อของฝากติดมือมานิดหน่อย ก่อนที่จะมุ่งหน้าไป “ดอยแม่สลอง” ที่ตั้งของชุมชนชาวจีนยูนนาน(จีนฮ่อ)จากกองพล 93 ที่อพยพเข้ามาอยู่บนดอยแม่สลองตั้งแต่พ.ศ. 2504 ชุมชนบนดอยแม่สลองจึงมีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบชาวจีนแถบมณฑลยูนนานให้ได้เห็นและสัมผัสกัน โดยเฉพาะที่หมู่บ้านสันติคีรี

ดอกซากุระเมืองไทย หรือนางพญาเสือโคร่ง

       บนดอยแม่สลองมีที่เที่ยวให้เลือกเที่ยวหลายที่ แต่ที่เป็นไฮไลท์ในช่วงหน้าหนาวนี้ก็ต้องไม่พลาดที่จะมาชื่นชมกับความสวยงามของ ดอกซากุระเมืองไทย หรือนางพญาเสือโคร่ง ที่ออกดอกสีชมพูบานชูช่อไปทั่วทั้งต้นอยู่ตามริมทางขึ้นดอย เราได้ถ่ายรูปและชื่นชมความงามของดอกซากุระจนหนำใจแล้ว ก็ขึ้นไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์กันที่ “อนุสรณ์สถานอดีตทหารจีนคณะชาติ” สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงประวัติศาสตร์ว่าที่บ้านสันติคีรีเป็นหมู่บ้านของอดีตทหารจีนคณะชาติ (ทจช.ก๊กมินตั๋ง) กองพล 93 ได้ช่วยราชการไทยต่อสู้และปราบปรามคอมมิวนิสต์ในพื้นที่ดอยหลวง ดอยขาว และดอยผาหม่น จ.เชียงราย

อนุสรณ์สถานอดีตทหารจีนคณะชาติ

       ด้านหน้าอนุสรณ์ฯ มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่โดดเด่นด้วยประติมากรรมรูปมือทองคำถือดอกบัว และด้านหลังเป็นอาคารสถาปัตยกรรมจีน ข้างในจัดเป็นพิพิธภัณฑ์รวบรวมข้อมูล ประวัติความเป็นมาของชุมชนแม่สลอง ประวัติของคณะทหารจีนคณะชาติ ความเหนื่อยยาก การตั้งรกรากอยู่ในประเทศไทย มีภาพถ่ายประวัติศาสตร์ความเป็นมา รูปภาพ และสิ่งสำคัญต่างๆ บนดอยแม่สลองที่ได้เกิดขึ้นในอดีต และมีห้องสมุดที่เก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้เป็นหลักฐานอ้างอิง ให้ได้ศึกษากัน

ซากุระต้นนี้เนื้อหอมเป็นพิเศษ

       การได้เดินชมอนุสรณ์ฯ จนทั่วทำให้เราซาบซึ้งถึงการต่อสู้ของชาวจีนได้เป็นอย่างดี และก่อนที่จะลงจากดอยแม่สลองเราก็แวะไปเที่ยวชมไร่ชา ซึ่งที่บ้านสันติคีรีเป็นหมู่บ้านที่มีการปลูกชากันมาก ภาพของไร่ชาหลายพันไร่ที่มีต้นชาขึ้นเขียวชอุ่ม ดูแล้วสร้างความสดชื่นเสียจริงเชียว และใช่ว่าจะแค่ดูเท่านั้น เพราะว่าจะมีร้านขายผลิตภัณฑ์จากชาคุณภาพดีให้ได้เลือกชิม เลือกซื้อหากันอีกด้วย และนอกจากชาแล้วบนดอยแม่สลองก็มีร้านขายสินค้าพื้นเมืองหลากหลายทั้ง ลูกท้อ บ๊วย เครื่องยาจากเมืองจีน เสื้อผ้าและเครื่องประดับจากชาวเขา ให้ได้เลือกชอปกัน

บนดอยแม่สลองมีสินค้าพื้นเมืองให้เลือกซื้อมากมาย

       เราต้องรีบลงจากดอยแม่สลองกันแล้ว ก่อนที่เงินในกระเป๋าจะร่อยหรอไปมากกว่านี้ เพราะมีอีก 1 ดอยคอยให้ไปเที่ยวอยู่ นั่นคือ “ดอยตุง” เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและมีชื่อเสียงมากด้านความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาวของจ.เชียงราย ซึ่งเมื่ออดีตดอยแห่งนี้เป็นเพียงภูเขาหัวโล้น กระทั่งสมเด็จย่าได้เสด็จมาและทรงมีพระราชดำรัสว่า “ฉันจะปลูกป่าบนดอยตุง” รัฐบาลจึงได้เริ่มจัดทำโครงการพัฒนาดอยตุงขึ้นปลูกป่าคืนความสมบูรณ์กลับคืนสู่ธรรมชาติ ทำให้จากเขาหัวโล้นกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดของเชียงราย และมีสถานที่เที่ยวอยู่ 3 แห่งที่ไม่ควรพลาดต้องเข้าไปเที่ยวชมกันให้ได้

ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง

       สถานที่แรกคือ หอแห่งแรงบันดาลใจ เดิมทีเป็นหอพระราชประวัติสมเด็จย่า แต่ปัจจุบันปรับปรุงเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการถาวร รวบรวมเรื่องราวของ “ราชสกุลมหิดล” ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้กัน สร้างความร่มเย็นเป็นสุขของแผ่นดินไทยให้คนในชาติทำความดี เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ภายในแบ่งเป็น 7 ห้อง จัดแสดงเรื่องราวต่างๆ ของสมเด็จย่า ในหลวง และสมเด็จพระพี่นางฯ ผ่านสื่อมัลติมีเดียอันทันสมัย ดูแล้วซาบซึ้งตรึงใจถึงน้ำพระทัยที่ทั้ง 3 พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยที่รักยิ่ง

ดอกไม้นานาพรรณในสวนแม่ฟ้าหลวง

       จากนั้นออกจากหอแห่งแรงบันดาลใจ เพื่อเดินเข้าไปชมสวนแม่ฟ้าหลวง ที่มีพื้นที่กว้างขวาง ภายในจัดสรรพื้นที่ได้อย่างสวยงาม มีต้นไม้และดอกไม้เมืองหนาวนานาพรรณ อาทิ ดอกซัลเวีย พิทูเนีย บีโกเนีย กุหลาบ กล้วยไม้ ไม้มงคลต่างๆ ฯลฯ กลางสวนมีไฮไลท์เป็นประติมากรรมที่มีชื่อว่า “ความต่อเนื่อง” (Continuity) ผลงานของนางมิวเซียม ยิบอินซอย เป็นรูปหล่อสัมฤทธิ์แสดงความต่อเนื่องโดยเด็กๆ 17 คน ต่อตัวขึ้นไปในอากาศ สื่อความหมายถึงการทำงานใดๆ จะสำเร็จได้ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ดูแล้วก็ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานและดำเนินชีวิตให้กับเราเป็นยิ่งนัก

สินค้าหลากหลายชนิดที่มีขายในตลาดท่าขี้เหล็ก

       ชมดอกไม้สวยๆ กันจนอิ่มสุขแล้ว ก็ไปชมพระตำหนักดอยตุงกันต่อ ที่นี่เป็นเสมือนบ้านหลักแรกของสมเด็จย่า ที่พระองค์สร้างขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่งดงามโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาผสมผสานกับบ้านพื้นเมืองของสวิตเซอร์แลนด์ ตัวพระตำหนักมีสองชั้น มีสิ่งที่โดดเด่น คือ กาแล และไม้แกะสลักเป็นเชิงชายลายเมฆไหลที่ดูแล้วช่างอ่อนช้อยงดงาม ภายในพระตำหนักมีห้องต่างๆ มากมายให้ได้เดินชม มีจุดที่น่าสนใจอย่างเพดานห้องโถงที่ทำเป็นเพดานดาวอันงดงาม และบริเวณด้านหลังพระตำหนักมีระเบียงยื่นออกไป ปลูกไม้ดอกสีสันสวยสด และตรงนี้สามารถชมทัศนียภาพของดอยตุงได้อย่างสวยงาม

”ตะลอนเที่ยว” อยู่บนดอยตุงนานมากโขแล้ว ก็ได้เวลาที่จะไปปิดทริปเที่ยวด้วยการไปชอปปิ้งละลายทรัพย์กันที่ “ตลาดแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก” ซึ่งแม่สายเป็น อ.เหนือสุดของประเทศไทย ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็กของพม่า ตลาดแม่สายเป็นตลาดการค้าชายแดนที่มีชื่อเสียงมานาน มีด่านพรมแดนที่แค่ทำหนังสือผ่านแดนแป๊บเดียว ชาวไทยอย่างเราก็สามารถข้ามไปเที่ยวยังประเทศพม่าได้อย่างง่ายดาย เพื่อไปชอปปิ้งยังตลาดท่าขี้เหล็กที่มีสินค้ามากหลายให้ได้เลือกซื้อหา ไม่ว่าจะ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ซีดีเพลงและหนังที่ขายดีมาก สินค้าอุปโภคและบริโภคมากมายที่ส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน มีราคาถูก แต่ก็มักไม่ใช่ของแท้และมีคุณภาพต่ำสักหน่อย เรียกว่าก็ต้องดูกันให้ดีๆ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย และอย่ามัวแต่ชอปเพลินจนเงินหมดกระเป๋าได้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ด่านพรมแดนแม่สายที่จะข้ามไปท่าขี้เหล็กของพม่า

       และแล้วการมาเที่ยวเชียงรายของเราในทริปนี้ก็เป็นอันจบลงด้วยความสุขสันต์ ซึ่งเราขอเก็บภาพและความทรงจำเหล่านี้ไว้ในห้วงหัวใจ คราวหน้าฟ้าใหม่ จะขอปิ๊กมาแอ่วเจียงฮายกันอีกเน้อ

ขอขอบคุณข้อมูล http://www.manager.co.th

ร่วมแสดงความคิดเห็น