ขนมหม้อแกงแม่ปิ่น ต้นตำหรับเจ้าแรกแห่งเพชรบุรี

0

ถ้าเอ่ยถึง จ.เพชรบุรีแล้ว ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึงขนมหม้อแกงเป็นอันดับแรก เพราะเป็นขนมที่ขึ้นชื่อในเรื่องความอร่อยจนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำจังหวัดไปแล้วและถือได้ว่าใครที่มาเพชรบุรีแล้วไม่ได้ทานขนมหม้อแกงนั่นก็หมายความว่า มาไม่ถึงเพชรบุรีแล้วล่ะครับ วันนี้ ดูเอเซีย.คอมจะพาเพื่อนๆไปชิมขนมหม้อแกงเมืองเพชรบุรีกัน ว่าแต่ว่าเราจะไปชิมกันที่ไหนดีเพราะในจังหวัดเพชรบุรีนี้มีร้านขายขนมหม้อแกงตั้งหลายเจ้าไปถามร้านไหนเขาก็บอกเป็นเจ้าแรกกันทั้งนั้น เอาเป็นว่าดูเอเซีย.คอมเราตัดสินใจเข้าร้านนี้ล่ะกัน เห็นชื่อไทยๆดี นั่นคือ ร้านขนมหม้อแกงแม่ปิ่นพอมาถึงหน้าร้านก็ได้กลิ่นหอมๆของขนมโชยมาแต่ไกลทำให้ต่อมน้ำลายเริ่มทำงานดูเอเซีย.คอมตรงเข้าไปในร้านทันที บรรยากาศในร้านก็เต็มไปด้วยขนมเยอะเยอะมากมายหลากหลายชนิดแต่ที่เห็นเด่นๆก็คงเป็นขนมหม้อแกง สอบถามจากเจ้าของร้านคือ คุณเมตตา พูลสวัสดิ์ หลานสาวผู้สืบทอดการทำขนมจากรุ่นคุณย่าปิ่นได้เล่าให้ฟังว่าร้านแม่ปิ่นเป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 80 ปีแล้ว ซึ่งสูตรการทำขนมนั้นก็สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยเจ้าของสูตรตัวจริงนั้น คือ คุณย่าปิ่น พูลสวัสดิ์ ซึ่งดูเอเซีย.คอมเราอดสงสัยไม่ได้ว่าคุณย่าปิ่น เขาเป็นใครมาจากไหนแล้วเอาสูตรขนมมาจากไหน ทำไมถึงได้ขายดิบขายดีมาจนถึงทุกวันนี้ เราไปย้อนอดีตกันหน่อยดีกว่าว่าร้านขนมหม้อแกงแม่ปิ่นมีที่มาที่ไปยังไง

ย้อนอดีตไปในสมัยก่อนนู้น… คุณแม่ปิ่น พูลสวัสดิ์ เป็นคนที่มีความรู้และความสามารถในการทำขนมและกับข้าวคาวหวาน ทำเองโดยไม่มีผู้สอน อาศัยโบราณว่า ครูพักลักจำ และก็ทำขนมวุ้นมะพร้าวอ่อน และวุ้นสังขยาขายเพียงสองอย่าง เริ่มจากช่วงท้ายของเทศกาลวันสงกรานต์ในช่วงปีนั้น ผลไม้มีมากทำให้ผู้คนส่วนใหญ่หันไปสนใจผลไม้กันหมด จนทำให้ขนมหวานเลยขายไม่ค่อยออก จึงทำให้แม่ปิ่นต้องหาบขนมไปขายในสถานที่ต่างๆ จนกระทั่งได้มาหยุดพักเหนื่อยที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี จึงได้ขายขนมให้กับข้าราชการและคนในหมู่บ้านละแวกนั้น จนเป็นที่ติดอกติดใจ จากนั้นแม่ปิ่นจึงมาขายขนมที่ศาลากลางจังหวัดเป็นประจำทุกวันหลังจากนั้นมา

จนกระทั่งวันหนึ่ง “คุณหลวง” (ร้อยโท ถวิล ระวังภัย) ข้าราชการผู้ซึ่งเป็นลูกค้าประจำของแม่ปิ่น บอกกับแม่ปิ่นว่าขนมของแม่ปิ่นนั้นอร่อยมากทั้งหอม หวาน มัน แต่ทว่าขนมนั้นเหมือนเดิมอยู่ทุกวัน เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นบ้างไม่ได้หรือ อย่างเช่นขนมหม้อแกง และจะมาซื้อขนมเป็นประจำ แม่ปิ่นนั้นคิดว่าคุณหลวงคงจะเป็นคนเจ้าชู้ ถึงได้มาเซ้าซี้แม่ค้าขายขนมอย่างเธอ เฝ้ามาคะยั้นคะยอให้ทำขนมหม้อแกงให้ได้ แต่เธอก็ปฎิเสธไปโดยให้เหตุผลว่าเธอทำไม่เป็น และถ้าเสียหายขึ้นมาจะขาดทุนเอาได้

เมื่อได้ฟังการขอร้องอยู่บ่อยครั้ง เธอก็เลยรับปากว่าจะลองทำดู แต่จะอร่อยหรือไม่นั้นไม่รับปากแม่ปิ่นหยุดขายขนมไปสี่ห้าวัน ครั้นพอกลับมาขายขนมอีกครั้ง คุณหลวงก็ถามว่า หายไปไหนมาหลายวันหรือว่าขนมที่สั่งให้ทำไหม้หมดแล้ว ถึงไม่มีทุนเลย ไม่ได้มาขายของ คำตอบที่ได้ฟัง กลับไม่เป็นอย่างนั้น เธอบอกว่าขนมที่ทำนั้นหวานหอมมัน อร่อยและนิ่มนวลดี วันแรกเธอทำมาขายเพียงถาดเดียว และเพิ่มขึ้นเป็นสองถาดสามถาดในวันถัดไป แต่นั่นก็ทำให้ขนมของเธอขายหมดอยู่ดี เธอจึงมาไม่ถึงศาลาฯแห่งนี้ เธอเล่าด้วยสีหน้าปลื้มปิติเสมือนเป็นความสำเร็จของอาชีพแม่ค้าขายขนมอย่างเธอ

แต่คุณหลวงก็ยังทักท้วงแม่ปิ่นในฐานะที่ผิดสัญญา และถามหาขนมหม้อแกง เธอจึงยกขนมหม้อแกงจากก้นเข่งมาให้ให้คุณหลวง หลังจากที่ท่านและบรรดาเพื่อนข้าราชการ ได้ชิมก็ต่างชมเชยว่าอร่อยดี และมอบเงินค่าขนมให้แม่ปิ่น แต่เธอไม่รับและกล่าวว่า ขนมหม้อแกงนี้ทำขึ้นได้เพราะบารมีท่านที่เคี่ยวเข็ญให้ทำ ทุกครั้งที่ทำก็ขายหมด เธอจึงถือว่าท่านเป็นแนวทางสร้างความก้าวหน้าให้เธอ ขนมถาดนี้เธอตั้งใจจะมามอบให้จริงๆ พระคุณครั้งนี้มากเกินกว่าราคาขนมถาดนี้เสียอีก คุณหลวงพยายามที่จะให้เงินคาขนมอีกครั้ง และได้อธิบายว่า นี่ไม่ใช่ค่าขนมแต่ให้ไว้ทำทุนต่างหาก ถ้ารับเงินนี้แล้วจะร่ำรวยและมีโชคลาภ ในที่สุดเธอก็ต้องยอมรับเงินนั้นแต่โดยดี คุณหลวงยังบอกอีกว่า วันข้างหน้าเธอจะไม่จนเพราะเธอเป็นคนกตัญญูรู้บุญคุณจากนั้นมาขนมของแม่ปิ่นก็ลือเลื่องในหมู่ข้าราชการและชาวบ้านที่เคยซื้อทำให้ขนมขายดิบขายดีและมีซื่อเสียงสืบทอดกันมาตราบจนรุ่นลูกรุ่นหลาน

คุณเมตตา พูลสวัสดิ์ หลานสาวผู้สืบทอดการทำขนมจากรุ่นคุณย่าปิ่นได้เล่าให้ฟังว่าในยุคแรกของการทำขนมหม้อแกงนั้นคุณย่าเริ่มใช้เตาที่ทำจากถังน้ำมัน มาดัดแปลงใส่ถ่านทั้งด้านบนและล่างเว้นช่องตรงกลางถังไว้สำหรับใส่ถาดขนมที่จะอบ เมื่อทำเสร็จจึงได้มีโอกาสนำขนมหม้อแกงขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอนันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ที่เสด็จประพาสเมืองเพชรบุรีพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ณ พระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ บนพระนครคีรี (เขาวัง) จำนวน4ถาด ซึ่งนับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น และถือว่าเป็นเกียรติประวัติต่อ ครอบครัวพูลสวัสดิ์ เป็นอย่างยิ่ง จากนั้นต่อมาก็พัฒนาจากเตาแบบเดิม มาเป็นเตาอิฐมอญฉาบปูน ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นเตาอบขนมขนาดใหญ่ที่สามารถอบขนมหม้อแกงได้ทีละมากๆ อย่างทุกวันนี้

60 กว่าปีที่ผ่านมา นางปิ่น พูลสวัสดิ์ หรือแม่ปิ่น ชาวเมืองเพชร ผู้ที่มีฝีมือในการทำขนมหวาน ได้ดัดแปลงพัฒนาสูตรขนมหม้อแกงอย่างต่อเนื่องให้มีรสชาติที่เข้มข้นขึ้นและอร่อยน่ารับประทานยิ่งขึ้นซึ่งถือได้ว่าเป็นเจ้าแรกในเพชรบุรีเลยก็ว่าได้ จนชื่อเสียงของ ขนมหม้อแกงแม่ปิ่น เป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างแพร่หลาย ถึงแม้แม่ปิ่นจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตามแต่ ทุกวันนี้ชื่อเสียงและสูตรการทำขนมหม้อแกงของแม่ปิ่นนั้นยังคงสืบทอดต่อๆ กันมาจากรุ่นลูกสู่รุ่นหลานและจะยังคงสืบทอดต่อกันไปเรื่อยๆไม่รู้จบ เพราะว่าสูตรการทำขนมหม้อแกงที่แม่ปิ่นให้ไว้นั้นเป็นเสมือนของมีค่ายิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทองเสียอีก  

ขั้นตอนในการทำขนมหม้อแกง การเตรียมวัตถุดิบ ร้านแม่ปิ่น ก็พิถีพิถันในการทำทุกขั้นตอน เริ่มจากเลือกวัตถุดิบ ไข่ที่นำมาทำต้องทำความสะอาดเปลือกไข่ทั้งหมดก่อน เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกเจือปน มะพร้าวต้องเป็นมะพร้าวจาก ทับสะแก ประจวบคีรีขันธ์ เพราะมีเนื้อหนาและมัน น้ำตาลต้องเป็นน้ำตาลจากต้นตาลโตนดเมืองเพชร เพราะตาลโตนดให้รสชาติหอมหวนนุ่มนวล ไม่หวานแหลมเหมือนน้ำตาลจากอ้อย แม้ว่าตาลโตนดจะมีราคาสูงกว่าก็ตามและสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือส่วนผสมทุกชนิดที่จะนำมาทำ ต้องชั่ง ตวง ตามอัตราส่วนทั้งหมดตามสูตร ก่อนที่จะนำส่วนผสมทุกอย่างมาผสมกัน ใช้เวลาอบประมาณ 45 นาที จะได้ขนมหม้อแกงที่หอมอร่อยมาให้เราได้ลิ้มรสกัน

เล่าประวัติมาก็มากแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาสำคัญแล้วครับนั่นคือการ ชิม นั่นเอง ดูเอเซีย.คอม เราเลือกที่จะชิมขนมหม้อแกงสูตรดั้งเดิมของร้าน  อืม……ชิมแล้วต้องขอบอกเลยว่าอร้อยอร่อยมากๆสุดยอดเลยครับ ทั้งหอม และก็ไม่หวานบาดคอ ต้องยกนิ้วโป้งให้เลยครับ นอกจากขนมหม้อแกงสูตรดั้งเดิมแล้ว ที่นี่ยังพัฒนาสูตรใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ เช่น ขนมหม้อแกงเม็ดบัว ขนมหม้อแกงเผือก และร้านแม่ปิ่นยังมีขนมอีกหลายชนิดเช่น ขนมชั้น ซึ่งก็มีต่างสี เช่น ใบเตย มะลิ กาแฟ ดอกอัญชัญทองหยอด ทองหยิบ ฝอยทอง เม็ดขนุนไส้เผือกและไส้ถั่ว บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน(ชอบมากๆ อิอิ) เผือกและถั่วกวน ลูกตาลเชื่อม สาเกเชื่อม ฟักเชื่อม มะตูมเชื่อม ฝอยทองแห้ง ฯลฯ มากมายหลายอย่างเต็มร้านไปหมดเลยครับ

ร้านแม่ปิ่น เปิดทุกวัน ตั่งแต่เวลา 07.00-21.00 นาฬิกา ตั้งอยู่บ้านเลที่22 ถนนมาตยาวงษ์ ตำบลท่าราบ อำเภอเมืองฯ จังหวัดเพชรบุรี 76000

ติดต่อสอบถามโทร (032) 425568 , 425425 มือถือ 081-8076479

หากว่าเพื่อนๆคนไหนได้มีโอกาสได้มาเที่ยวที่ เพชรบุรี หรือผ่านไปผ่านมาก็อย่าพลาดนะครับที่จะแวะมาดูมาชิมหรือซื้อติดไม้ติดมือไปฝากครอบครับหรือฝากเพื่อนๆเพราะร้านขนมหม้อแกงแม่ปิ่นถือได้ว่าเป็นเจ้าแรกในเพชรบุรีเลยก็ว่าได้ ดูจากประสบการณ์ในการทำขนมที่มีมากว่า 80 ปียิ่งเป็นเครื่องการันตีได้ว่าร้านนี้เป็นร้านที่สืบทอดการทำขนมมาเก่าแก่จริงๆและที่สำคัญรสชาติของขนมที่นี่โดยเฉพาะขนมหม้อแกงอร่อยเด็ดเหนือคำบรรยายจริงๆ

การเดินทางมาร้านก็ไม่ยากเลย  เริ่มจากหน้าเขาวังขับมาเรื่อย ๆ ผ่านวิทยาลัยอาชีวศึกษาเพชรบุรี เจอสี่แยกตรงไปอีก จะผ่านศาลากลาง จะเจอสี่แยกอีกครั้ง ซ้ายมือจะเป็นที่ทำการไปรษณีย์ครับ ตรงอีกจะผ่านจวนผู้ว่า ขึ้นสะพาน เค้าเรียกกันว่าสะพานดำ..พอหลุดจากสะพานมาสักพัก ก็เลี้ยวขวาเข้ามาถนนมาตยาวงษ์พอเหลียวขวาปุ๊บ ก็จะเจอร้านขนมหม้อแกงแม่ปิ่นเลยครับ ร้านไม้สักสองคูหา ขนมในร้านนี้ทำกันสด ๆ หลังบ้านเลย เข้าไปในร้านเนี่ย ห๊อม หอม ตะหลบอบอวน ไปด้วยกลิ่นของขนมสด ๆ…โอ้ย ขนาดบรรยายายเองเนี่ย ยังกลืนน้ำเลยเลยอะ ราคาของหนมหม้อแกงก็จะไม่ใช่ สามถาดร้อย เหมือนตามข้างทางถนนเพชรเกษมนะครับ ข้อแตกต่างระหว่าง ขนมหม้อแกงร้านนี้กับร้านอื่น ๆ คือ เป็นขนมหม้อแกงจริงต้นตำหรับจริง ๆ เก็บได้นานครับรับรองได้ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

เชิญแสดงความคิดเห็น