ดินแดนไดโนเสาร์ มหกรรมครอบครัวท่องเที่ยว-ถ่ายภาพ รวมพลคนรักไดโนเสาร์

0

ก้าวสู่ดินแดนไดโนเสาร์ บนแผ่นดินมหรรศจรรย์ของเมืองไทย  กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-ขอนแก่น-กาฬสินธุ์  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับนิตยสาร Phototech จัดทริปท่องเที่ยวและถ่ายภาพ  รวมพลคนรักไดโนเสาร์  ในดินแดนอีสานตอนบน นครราชสีมา ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ 3 วัน 2 คืนดูเอเซีย.คอม จึงได้ไปสัมผัสในดินแดนไดโนเสาร์และเก็บภาพบรรยากาศความสนุกสนานในทริปนี้มาฝากเพื่อนๆกันด้วย

ทริปท่องเที่ยว-ถ่ายภาพ  รวมพลคนรักไดโนเสาร์  ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งนัดรวมพลกันที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานใหญ่  ในเวลา 06.00 น.เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม  เมื่อทุกคนมาถึงพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว ก็ถ่ายรูปรวมหมู่เรียกความสนุกสนาน จากนั้นก็เตรียมตัวขึ้นรถโค้ช และปล่อยขบวนรถในเวลา 07.30 เพื่อมุ่งหน้าสู่ดินแดนไดโนเสาร์กันเลย

เมื่อมาถึงบริเวณเหนือเขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา หลายคนท้องเริ่มร้องกันแล้ว  เราจึงแวะพักรับประทานอาหารกลางวัน แบบปิกนิก  ได้ทั้งบรรยากาศและความอร่อยกันเลยทีเดียว  เมื่ออิ่มกันแล้วก็ออกเดินทางกันต่อเพื่อไปเพื่อสักการะมหาวิหารอุทยานลานบุญ องค์สมเด็จพุฒาจาร์(โต พรหมรังสี) องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ตามแนวคิดของ คุณสรพงศ์  ชาตรี  จากนั้นออกเดินทางเข้าสู่ประตูดินแดนไดโนเสาร์ จ.นครราชสีมา

ก่อนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า กับบรรยากาศตอนเย็นๆ ชาวคาราวานก็ได้แวะชมความอลังการของปราสาทหินพิมาย  ศาสนสถานที่งดงาม ปราสาทหินพิมายนั้นเป็นเมืองภายใต้การปกครองของขอม ดังนั้นปราสาทจึงหันหน้าไปยังทิศใต้ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของอนาจักรขอม ปราสาทแห่งนี้มีอายุราว 1000 ปีมาแล้ว เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความละเอียดอ่อนช้อย และงดงามมาก

หลังจากเพลิดเพลิน และเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางตลอดทั้งวัน เดินทางต่ออีกนิดสู่ที่พัก ณ โรงแรมริวปาว จ.กาฬสินธุ์  ก่อนที่จะมาร่วมรับประทานอาหารเย็น และสนุกสนานกับกิจกรรมพิเศษประจำค่ำคืน คืนนี้เราได้รับเกียติจาก อ.ธวัช  มะลิลา  มาแนะนำเทคนิคการถ่ายภาพสวยๆ  ซึ่งได้รับความสนใจจากทุกคนโดยเฉพาะน้องๆ หนูๆ ที่มากับครอบครัว   หลังจากเสร็จกิจกรรมก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน เตรียมพลังไว้วันรุ่งขึ้น

วันที2   07.00 ทุกคนพร้อมกันที่ห้องรับประทานอาหารของโรงแรม เพื่อทานอาหารเช้ากันแบบอิ่มหนำสำราญ แล้วเตรียมตัวออกเดินทางไปขุดค้นรอยไดโนเสาร์กันได้เลย  สถานที่แรกที่เราจะไปกันก็คือพิพิธภัณฑ์สิรินธร และแหล่งขุดค้นไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว ที่นี่มีซากฟอสซิลไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ที่สุดของเมืองไทย ซึ่งมีอายุประมาณ 130 ล้านปีเลยทีเดียว
ซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์ที่ภูกุ้มข้าว อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พบโดยพระครูวิจิตรสหัสคุณ เจ้าอาวาสวัดสักกะวัน ในปีพ.ศ. 2537 และได้เริ่มทำการขุดค้นอย่างเป็นระบบ โดยคณะสำรวจไดโนเสาร์จากกรมทรัพยากรธรณี ตั้งแต่ปลายปีพ.ศ. 2537 พบว่า ภูกุ้มข้าว ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัด กาฬสินธุ์ เป็นแหล่งไดโนเสาร์กินพืชที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย

โดยพบกระดูกไดโนเสาร์เกือบทั้งตัว กองรวมอยู่กับกระดูกไดโนเสาร์กินพืชอีกชนิดหนึ่ง กระดูกทั้งหมดอยู่ในชั้นหินที่วางตัวอยู่บนไหล่เขาของภูกุ้มข้าว   ปัจจุบันกรมทรัพยากรธรณีได้ขุดค้นซากไดโนเสาร์พบกระดูกมากกว่า 700 ชิ้น เป็นกลุ่มของกระดูกส่วนขา สะโพก ซี่โครง คอ และหางของไดโนเสาร์กินพืชไม่น้อยกว่า 7 ตัว นอกจากนี้ยังพบฟันของไดโนเสาร์ทั้งกินพืช และกินเนื้ออีกอย่างละ 2 ชนิด จากลักษณะของกระดูกพบว่าเป็นไดโนเสาร์กินพืชสกุลภูเวียง (Phuwiangosaurus sirindhornae ) 1 ชนิด และเป็นไดโนเสาร์กินพืชชนิดใหม่อีก 1 ชนิด คาดว่าอาจเป็นไดโนเสาร์สกุลและชนิดใหม่ของโลกซึ่งมี รูปร่างคล้ายลอม

ลักษณะของซากดึกดำบรรพ์  เป็นแหล่งไดโนเสาร์กินพืชที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย โดยพบกระดูกไดโนเสาร์เกือบทั้งตัว มากกว่า 650 ชิ้น เป็นกระดูกส่วนขา ซี่โครง คอ และหางของไดโนเสาร์กินพืชไม่น้อยกว่า 7 ตัว นอกจากนี้ยังพบฟันของไดโนเสาร์กินพืชและกินเนื้ออีกอย่างละ 2 ชนิด เป็นกระดูกของไดโนเสาร์กินพืช “ ภูเวียงโกซอรัส สิรนธรเน (Phuwiagosaurus sirindhornae)” และไดโนเสาร์กินพืชชนิดใหม่อีก 1 ชนิด ซึ่งกำลังศึกษาวิจัยขั้นรายละเอียดอยู่

อาหารกลางวันมื้อนี้เราทานกันที่ห้องอาหารของพิพิธภัณฑ์ ก่อนที่เดินทางกันต่อเพื่อไปชมรอยเท้าไดโนเสาร์ ที่ วนอุทยานภูแฝก อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์  เมื่อมาถึงทางเข้าอุทยาน ทุกคนต่างก็แปลกใจว่าทำไมถึงต้องลงจากรถ แล้วมีรถสองแถว 3 คัน จอดอยู่ข้างหน้า   แน่นอนครับ ว่าเราจะต้องนั่งรถสองแถวเข้าไปภายในอุทยานอีก 4 กม.ามาถึงภายในอุทยานจะรู้สึกเงียบสงบ และได้รับร้อยยิ้มจากชาวบ้านริมสองข้าทาง  พอลงจากรถก็ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ และเดินลุยไปดูรอยเท้าไดโนเสาร์กันเลย  เดินมาอีกไม่กี่เมตรเราก้อได้พบกับรอยเท้าไดโนเสาร์ของจริง สถานที่จริง ทุกคนต่างก็เก็บภาพ เตรียมไปอวดเพื่อนๆกัน  รอยเท้านี้เป็นรอยเท้าของ เทอร์โรพอต ที่เห็นชัดที่สุด ไดโนกินเนื้ออายุ 140 ล้านปี มีการค้นพบทั้งหมด 21รอย ที่เห็นชัด 7 รอย  หลังจากที่ได้ฟังคำแนะนำเรื่องการถ่ายภาพกันมาแล้ว วันนี้ทุกคนต่างแสดงความสามารถกันเต็มที่เพื่อที่จะนำภาพที่คิดว่าถ่ายดีที่สุดมาประกวดในค่ำคืนนี้
จากนั้นคาราวานก็ได้เดินทางสู่ที่พักในคืนนี้ ณ โรงแรมราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล จ.ขอนแก่น และร่วมรับประทานอาหารค่ำพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม พร้อมส่งภาพถ่ายประกวดชิงรางวัล  เมื่ออิ่มหนำสำราญกันแล้ว กิจกรรมสนุกสนานยามค่ำคืนก็เริ่มขึ้น ทุกเพศ ทุกวัยต่างก็มีส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ ก่อนที่กรรมการจะคัดเลือกภาพ
ทุกคนต่างลุ้นว่าภาพที่ตนเองส่งเข้าประกวดจะได้ผ่านเข้ารอบหรือไม่   เมื่อถึงเวลาประกาศผล เป็นที่น่าแปลกใจว่าภาพที่ได้รับรางวัลส่วนใหญ่จะเป็นผลงานของเยาวชนทั้งนั้น ในที่สุดก็เสร็จสิ้นกิจกรรมในคืนนี้ ทุกคนต่างก็ไปพักผ่อน นอนหลับฝันดี รอรับอรุณรุ่งของวันพรุ่งนี้

วันที่3  วันสุดท้ายของทริปนี้ ทุกคนต่างมีรอยยิ้มที่สดใส กับบรรยากาศรอบๆโรงแรม ที่มีทั้งสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก และดอกไม้นานาพันธุ์  หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางสู่พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน จ.นครราชสีมา
เมื่อถึงด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ เราจะเห็นว่าสวนหย่อมบริเวณรอบๆ ต่างก็มีไม้กลายเป็นหิน และเมื่อเข้าไปภายในก่อนที่จะไปเยี่ยมชมไม้กลายเป็นหิน  เจ้าหน้าที่ก็เชิญทุกคนเข้าไปในห้อง คล้ายโรงภาพยนตร์ เพื่อที่จะรับชมวีดิทัศน์ เรื่องการกำเนิดของโลก  หลังจากนั้นก็เยี่ยมชมไม้กลายเป็นหินหลากหลายสายพันธุ์  พร้อมทั้งเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่น่าตื่นเต้น สมจริง มีหุ่นจำลองไดโนเสาร์ที่เคลื่อนไหวได้ และพิพิธภัณฑ์ช้าง ที่มีทั้งฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์ และฟอสซิลสัตว์อื่นๆ เช่น เต่ายักษ์ ตะโขง ม้าโบราณ ยีราฟคอสั้น
พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินมีพื้นที่ 80 ไร่ ภายใต้งบประมาณการก่อสร้าง 150 ล้านบาท โดยการสนับสนุน ผลักดันหรืออนุมัติโดย ฯ พณ ฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ในสมัยที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ โดยการประสานงานจากนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รวมทั้งการสนับสนุนจากจังหวัดนครราชสีมา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา องค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานโยธาธิการจังหวัด กองทัพภาคที่ 2 ศูนย์ รพช. องค์การบริหารส่วนตำบลสุรนารี เป็นต้น
ทั้งนี้ด้วยพระมาหากรุณาธิคุณ แห่งสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระองค์ได้ทรงให้การสนับสนุน และสนพระทัย นับแต่การเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการไม้กลายเป็นหิน ที่จัดแสดงโดยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2540 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เพราะพระองค์ทรงตระหนักในคุณค่า และปรารถนาให้มีการอนุรักษ์ไม้กลายเป็นหิน รวมทั้งทรงติดตามการดำเนินงานโครงการนี้ตลอดมา

พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน ประกอบด้วย การจัดแสดงสามส่วนด้วยกัน คือ 

  1. พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน
  2. พิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์
  3. พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์

มื้อกลางวันของวันนี้เราแวะทานตำรับอีสานกันที่ ร้านส้มตำพันล้าน ที่ขึ้นชื่อของภาคอีสาน  ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ  แวะซื้อของฝากพื้นเมืองแบบอีสานระหว่างทางฝากคนทางบ้าน พร้อมมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ เป็นอันจบสิ้นทริปการเดินทางแสนสนุกในครั้ง
สำหรับทริปนี้ “รวมพลคนรักไดโนเสาร์”ทุกคนต่างก็ได้ทั้งความรู้ ความสนุกสนานตื่นเต้นอย่างครบครันสำหรับในทริปต่อไป เราจะไปที่ไหนนั้น เพื่อนๆดูเอเซียอย่างลืมติดตามชมบรรยากาศการเดินทางในทริปต่อๆไปของเราได้..ดูเอเซียจะนำภาพบรรยากาศสถานที่สวยงามต่างๆมาฝากกันนะครับ

เชิญแสดงความคิดเห็น