ถ้าจะพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆภายในจังหวัดกระบี่ หลายคนคงนึกถึง เกาะพีพี ทะเลแหวก อ่าวนาง สุสานหอย หมู่เกาะปอดะ แล้วอีกมากมาย วันนี้ดูเอเซียจะขอแนะนำอีกหนึ่งที่ให้ได้ไปเที่ยวกันทั้งมีทั้งความหลากหลายทางระบบนิเวศและความงดงามทางธรรมชาติสถานที่
ที่เราจะไปกันก็คือ ป่าพรุท่าปอม คลองสองน้ำ ท่าปอมคลองสองน้ำ จากกระบี่ใช้เส้นทางกระบี่-อ่าวลึกระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตรก็จะถึงบริเวณ อบต.เขาครามเลี้ยวซ้ายตรงสามแยกที่ป้อมตำรวจ มีป้ายบอกทางเข้าสู่ท่าปอมคลองสองน้ำ มีป้ายบอกทางเป็นระยะจนถึงบริเวณลานจอดรถ ซึ่งเป็นลานจอดรถของเอกชนที่ดัดแปลงสวนปาล์มและสวนผลไม้มาให้บริการอย่างร่มรื่น ค่าจอดรถคันละ 20 บาท เดินลงมาอีกราว 100 เมตร ก็จะถึงริมคลอง ซึ่งประวัติความเป็นมาของคลองท่าปอมหรือคลองสองน้ำนี้ เล่าสืบกันมาว่า แต่เดิมชาวบ้านถือว่าผืนป่าบริเวณคลองสองน้ำนี้เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ค่อยมีใครกล้ากล้ำกรายเข้าไปกระทั่งมีชาวบ้านที่มีความแก่กล้า มีวิชาอาคมเข้ามาบุกเบิกทำไร่ทำสวนและอาศัยอยู่ในความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า
ต่อมาก็เริ่มมีชาวบ้านตามเข้ามาอาศัยอยู่จนเป็นชุมชน แต่ชาวบ้านก็ยังคงถือว่าคลองสองน้ำและผืนป่ารอบข้างเป็นผืนป่าและแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จึงช่วยกันดูแลรักษาไว้เป็นป่าของชุมชน ความงดงามเป็นธรรมชาติของคลองท่าปอมทำให้เริ่มมีผู้คนเข้าไปเที่ยวชม กระทั่ง อบต.เขาคราม จังหวัดกระบี่ ได้เข้ามาดูแลจัดการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก ททท.จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง 700 เมตร ลักษณะเป็นสะพานไม้ที่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ทอดยาวเป็นวงรอบไปเหนือผืนป่าพรุและป่าชายเลน เพื่อจำกัดให้ผู้คนไม่เข้าไปเหยียบย่ำในผืนป่าพรุและป่าชายเลนบริเวณนั้น จัดเจ้าหน้าที่คอยควบคุมดูแลไม่ให้นักท่องเที่ยวนำอาหารเข้าไปกิน และไม่ทิ้งขยะ
บนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาตินี้ยกระดับขึ้นมาราว 2 เมตรจากพื้นดิน ทำให้เป็นระดับที่สามารถมองเห็นเรือนยอดของไม้พุ่มที่แรกเข้าไปส่วนใหญ่จะเป็นไม้ป่าชายเลนอย่างโกงกางที่มีรากค้ำยันให้เห็นอย่างเด่นชัดทางด้านขวามือ ในขณะที่ลึกเข้าไปทางด้านซ้าย เป็นพื้นที่ของป่าพรุ ซึ่งเป็นพรุน้ำจืดที่มีไม้เด่นๆที่สามารถพบเห็นได้อย่างชมพู่น้ำ เสม็ด ตังหน และพืชวงศ์ปาล์มอย่าง หวาย หมาก ระกำหลุมพี หลาวชะโอน เป็นต้น
ป่าทั้งสองประเภทต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เพราะต้องทนทานให้หยัดยืนอยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและในน้ำเค็มของสภาพภูมิประเทศที่มีลักษณะเฉพาะเช่นนี้ มองลงไปในน้ำใสจะเห็นฝูงปลาขนาดเล็กว่ายเวียนกันไปมาปลาเหล่านี้ก็มีความเป็นสุดยอดของชีวิตที่สามารถจะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมพิเศษเช่นนี้ได้ โดยเฉพาะในช่วงรอยต่อของน้ำขึ้นและน้ำลง ซึ่งน้ำในคลองสายเดียวกันที่เดียวกัน แต่บางช่วงเวลากลายเป็นน้ำจืดสนิท บางช่วงเวลาที่ไม่นานนักกลับกลายเป็นน้ำกร่อย น้ำเค็มทั้งปลาน้ำ จืดในคลองลึกด้านบน กับปลาทะเลน้ำเค็มอย่างปลากระบอกและปลาอีกหลายชนิดที่ว่ายตามน้ำกร่อยเข้ามา ก็ต้องเลือกจัดสรรเวลาให้ดี หากมัวหลงระเริงว่ายเล่นจนเพลิน ปลาทะเลอาจจะต้องกลายเป็นปลาน้ำจืด ปลาน้ำจืดอาจจะต้องกลายเป็นปลาเค็มไปก็ได้
สิ่งที่งดงามอย่างหนึ่งริมสายธารใสไหลเย็นของคลองท่าปอมก็คือ รากไม้ที่คดเคี้ยว แตกแขนงงดงาม เพราะไม้เหล่านี้ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่ในสภาพดินเลนดินชุ่มน้ำ ง่ายต่อการโค่นล้ม จึงต้องมีรากที่แผ่กว้างเป็นฐานยึดเกาะค้ำยัน รากไม้เหล่านี้ช่วยสร้างริมสองฝั่งคลองท่าปอมให้งดงามยิ่งหากสำรวจลึกทวนสายน้ำท่าปอมขึ้นไป ซึ่งบริเวณนี้เป็นเขตหวงห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวล่วงล้ำเข้าไป ราว 250 เมตร จะพบสระน้ำสีไพลินงดงามใสวาวอยู่ในท่ามกลางป่าเขียวขจี ชาวบ้านเรียกสระน้ำกลางป่าลึกนี้ว่า แอ่งท่าปอม หรือบางคนก็เรียกสระมรกตเป็นอ่างน้ำที่เกิดจากทางน้ำใต้ไหลพุขึ้นมา และหากเดินขึ้นไปอีกราว500 เมตร ก็จะพบอ่างน้ำลักษณะเดียวกันอีกอ่างซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า สระน้ำช่องพระแก้ว ซึ่งเป็นน้ำที่เกิดจากธารน้ำใต้ดินเช่นกัน สระน้ำทั้งสองมีเส้นทางไหลใต้ดินเชื่อมต่อถึงกัน ก่อนที่จะไหลออกมาเป็นสายธารคลองท่าปอมทั้งสาย ฉะนั้นน้ำในคลองท่าปอมจึงมีความเย็นและใสอยู่ตลอดเวลา
สำหรับทริปนี้ดูเอเซีย.คอมได้พาเพื่อนๆมาชมความน่าอัศจรรย์ทางระบบนิเวศ ทีน่าเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง แล้วยังมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีความงามให้ได้ชื่นชมและเรียนรู้ ดังนั้นเราควรจะช่วยกันดูแลรักษาให้ยาวนาน อย่าทิ้งสิ่งใดหรือนำสิ่งใดออกมาจากธรรมชาตินอกจาก ความทรงจำดีๆและภาพถ่ายเพียงเท่านั้น เพื่อจะได้มีธรรมชาติที่สวยงามไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชมกันต่อไป…
ขอบคุณภาพ ท่าปอม คลองสองน้ำ จ. กระบี่