นั่งรถไฟเที่ยว หนองคาย

0

นั่งรถไฟเยือนดินแดนพญานาค จ.หนองคายทริปนี้ดูเอเซีย.คอม จะพาเพื่อนๆไปนั่งรถไฟชิวชิวกันโดยเริ่มทริปที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ขบวนด่วนสาย 69  กรุงเทพ-หนองคาย เวลา20.00 น. ถือว่านอนหลับกันกันเพลินเปลี่ยนบรรยากาศกันเลยทีเดียว เช้ามาตื่นมาเยือนแดนอีสาน ชมความงามริมแม่น้ำโขงกันแบบจุใจกันไปเลยแต่หน้าที่เก่าเวลาเดิม จังหวัดหนองคายนอกจากจะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวในเรื่องเทศกาลบั้งไฟพญานาคแล้ว สิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันน่าจะอยู่ที่พระธาตุที่ดูเอเซีย.คอมจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวชมเลย เพราะว่าพระธาตุแห่งนี้เป็นพระธาตุที่เก่าแก่และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาวหนองคาย ทั้งยังมีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย เล่ามาถึงขนาดนี้แล้ว ไปดูไปชมความงดงามและความศักดิ์สิทธิ์กันเลยดีกว่าที่ วัดพระธาตุบังพวน จังหวัดหนองคาย

พระธาตุบังพวน  เป็นพระธาตุเจดีย์ที่เก่าแก่และสำคัญยิ่งของจังหวัดหนองคาย  และเป็นพระธาตุที่สำคัญองค์หนึ่งของภาคอีสาน ประดิษฐานอยู่ ณ บ้านพระธาตุบังพวน  ตำบลพระธาตุบังพวน  อำเภอเมือง  จังหวัดหนองคาย ตามตำนานอุรังคธาตุกล่าวว่า  พระยาสุวรรณภิงคาร เจ้าเมืองหนองหาน สกลนคร  พระยาคำแดง เจ้าเมืองหนองหารน้อย อุดรธานี  พระยาจุลณี พรหมทัต เจ้าเมืองจุลณี (ลาวเหนือ) พระยาอินทปัตนคร เจ้าเมืองอินทปัตนนนคร (เขมร) และพระยานันทเสน เจ้าเมืองศรีโคตรบูรณ์หลวง (ตรงข้ามนครพนม) ได้ร่วมกันอุปถัมภ์ พระมหากัสสเถระ พร้อมด้วยพระอรหันต์ อีก 500 องค์  ทำการก่อสร้างพระธาตุพนม แล้วเสร็จ  และได้บรรลุพระอรหันต์ด้วยกันทั้งหมด  ต่อมาได้เดินทางไปสู่แดนพุทธภูมิ  เพื่อไปอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า 45 พระองค์  นำมาประดิษฐานไว้ ณ สถานที่ 4 แห่งคือ  บริเวณเมืองหนองคาย และเมืองเวียงจันทน์  หนึ่งในสี่แห่งนั้น คือพระธาตุบังพวน ซึ่งได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาพักที่ร่มไม้ปาแป้ง (ไม้โพธิ) ณ ภูเขาหลวง อันเป็นที่ตั้งพระเจดีย์ พระธาตุบังพวนปัจจุบัน

จากการสำรวจทางโบราณคดีพบว่า  พระธาตุบังพวนได้มีการก่อสร้างสืบเนื่องกันมาสามสมัย คือ ฐานเดิมสร้างด้วยศิลาแลง  ชั้นที่สองสร้างด้วยอิฐครอบชั้นแรก  และต่อมาได้มีการก่อสร้างให้มีขนาดสูงใหญ่ขึ้น  จากจารึกที่ฐานพระพุทธรูปที่ขุดได้ 4 องค์ ในจำนวนทั้งหมด 6 องค์ ระบุศักราชที่สร้างไว้  ซึ่งตรงกับ  พ.ศ. 2118  พ.ศ. 2150  พ.ศ. 2158 และ พ.ศ. 2167  และข้อความในจารึกเมื่อ พ.ศ. 2167  มีประวัติในการสร้าง โดยได้กล่าวถึงพระเจ้าโพธิสาลราช  ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้าง มีราชธานีอยู่ที่นครเชียงทอง  ซึ่งก็ตรงกับรูปแบบการก่อสร้างโบราณสถานในบริเวณวัดพระธาตุบังพวน  ที่แสดงถึงอิทธิพลของอาณาจักรล้านช้าง

หลังจากที่นมัสการพระธาตุบังพวนเพื่อความเป็นสิริมงคลกันไปแล้ว อีก 1 สถานที่ที่ดูเอเซีย.คอมจะไปไปช็อปปิ้งกันนั่นก็คือ ตลาดอินโดจีน หรือที่เรียกกันว่าตลาดท่าเสด็จ ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตลาดแห่งนี้น่าจะเป็นที่ถูกใจสำหรับขาช็อปทั้งหลายเลย เพราะว่ามีสินค้าราคาถูกมากมายให้เลือกสรรกัน สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าจากจีน เวียดนาม ลาว รวมทั้งไทยด้วย ประเภทผ้าทอทั้งผ้าไหม ผ้าฝ้าย เครื่องเงิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่น ขนม อาหารแปรรูป นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารริมแม่น้ำโขง ทั้งอาหารเวียดนามและอาหารปลาจากแม่น้ำโขงให้เลือกชิม ดูเอเซีย.คอมก็ได้ทีช็อปปิ้งซื้อของฝากกลับกันและอีกหนึ่งวัดดังที่ดูเอเซีย.คิมจะพาไปนมัสการก็คือ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ วัดโพธิ์ชัย วัดที่ประดิษฐาน หลวงพ่อพระใส หลวงพ่อชื่อดังในแดนอีสาน วัดโพธิ์ชัย เดิมชื่อ วัดผีผิว วัดนี้ใช้เป็นที่เผาผีหรือเผาศพ และมีผีดุ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นวัดโพธิ์ชัย ใน สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใส ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัยสมัยเชียงแสน หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย “หลวงพ่อเกวียนหัก” จ.หนองคาย เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมือง ประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย ซึ่งมีฐานะเป็นวัดอารามหลวง ตั้งอยู่ที่ถนนโพธิ์ชัย ในเขตเทศบาลเมือง ห่างจากตัวเมืองหนองคายไปประมาณ 2 กิโลเมตร ตามทาง หลวงหมายเลข 212 ทางไป อ.โพนพิสัย เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก หน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว ส่วนสูงจากพระชงฆ์เบื้อล่างถึงยอดพระเกศ ๔ คืบ ๑ นิ้วของช่างไม้ วัดโพธิ์ชัยจะตั้งอยู่ที่ถนนโพธิ์ชัย ในเขตเทศบาลเมือง ห่างจากตัวเมืองหนองคายไปประมาณ 2 กิโลเมตร ตามทาง หลวงหมายเลข 212 ทางไป อ.โพนพิสัย

ทริปรถไฟนี้ถือว่าอิ่มบุญกันเลยทีเดียว ทริปรถไฟหน้าดูเอเซีย.คอมจะพาไปไปเที่ยวที่ไหนต่ออย่าลืมติดตามกันนะคะ ดูเอเซีย.คอม 

เชิญแสดงความคิดเห็น