ทริปนี้ดูเอเซียพาเพื่อน ๆ เดินเท้าเข้าชมน้ำตกขุนกรณ์ที่จังหวัดเชียงรายครับ จะว่าไปแล้วจังหวัดเชียงรายนับว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวิติศาสตร์ หรือแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็น UNSEEN THAILAND ทั้งนั้น และทริปนี้ดูเอเซียก็จะพาเพื่อน ๆ เดินเท้าเข้าชมวนอุทยานน้ำตกขุนกรณ์ จังหวัดเชียงรายครับ
อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 33 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยรถสองแถวประจำทางสาย เชียงราย-บ้านปางริมกรณ์ หรือโดยรถยนต์ส่วนตัวก็ได้ มาตามทางหลวงหมายเลข 1 ประมาณ 13 กิโลเมตรถึงบ้านร่องขุ่น ให้เลี้ยวขวาไปตาม ทางหลวงหมายเลข 1208 ประมาณ 5 กิโลเมตร จนถึงสามแยกบ้านใหม่เลี้ยวขวาเข้าน้ำตกขุนกรณ์ตามทางหลวงหมายเลข 1208 ประมาณ 12 กิโลเมตร ก็จะถึงวนอุทยานน้ำตกขุนกรณ์วนอุทยานน้ำตกขุนกรณ์
ได้รับการขนานนามว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดและตัวน้ำตกสูงที่สุดในจังหวัดเชียงราย ซึ่งตัวน้ำตกสูงกว่า 70 เมตร น้ำตกใสสะอาดปราศจากตะกอนหินปูน มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เดิมชาวบ้านเรียกว่าน้ำตกตาดหมอก ซึ่งคำว่า “ตาด” ในภาษาลาวหมายถึงน้ำตก และคำว่า “หมอก” ก็อาจจะมาจากละอองน้ำที่เกิดจากการไหลของน้ำตกสู่พื้นในระยะทางที่สูงมากครับ
วนอุทยานน้ำตกขุนกรณ์ ตั้งอยู่ตำบลแม่กรณ์และตำบลห้วยชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ลาวฝั่งซ้ายและป่าแม่กกฝั่งขวา มีเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ กรมป่าไม้ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2525 สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหุบเขาล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชัน ตอนบนยอดเขาซึ่งเป็นจุดสูงสุดและเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของน้ำแม่กรณ์ ซึ่งประกอบด้วยห้วยต่างๆ คือ ห้วยแม่กรณ์ ห้วยแม่มอญ ห้วยย่าดี ห้วยเลาอ้าย ไหลรวมกันเป็นน้ำแม่กรณ์ตลอดทางเดินเข้าชมน้ำตก จะมีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ขึ้นให้เห็นอยู่มากมายครับ เช่น ไม้ขนาดใหญ่ ไม้คลุมดิน เฟิร์น กล้วยไม้ ส่วนสภาพป่าก็สมบูรณ์มาก เป็นป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขาและป่าเต็งรัง ส่วนพันธุ์ไม้ที่พบตลอดทางเดินเข้าชมน้ำตกขุนกรณ์ก็มีมากมาย มีทั้งพันธุ์ไม้ที่หายาก และพันธุ์ไม้ที่พบทั่วไป อย่างเช่น ตะเคียนทอง ยมหอม แดงดง มะม่วงป่า จำปีป่า กระบก ซ้อ บุนนาค ปอทอง อ้ายาง ส่วนพันธุ์ไม้พื้นล่าง ก็ได้แก่ หวาย ต๋าว ไผ่หก ไผ่เหี้ย ไผ่ไร่ ไผ่ซาง กล้วยป่า และเฟิร์นชนิดต่างๆ บอกได้เลยว่าทริปนี้คุ้มค่าจริง ๆ ครับ
ระหว่างสองข้างทางเดิน จะได้ยินเสียงน้ำไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่ เสียงนกที่หวีดร้องเหมือนเป็นคำเชื้อเชิญแขกผู้มาเยือน เสียงแมลงต่าง ๆ ที่คอยเวียนวนอยู่รอบ ๆ ตัว คอยช่วยเสริมให้บรรยากาศเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบสัมผัสธรรมชาติ ทางวนอุทยานน้ำตกขุนกรณ์ ก็มีเส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติ เพื่อให้ได้ศึกษาธรรมชาติ โดยมีจุดที่น่าสนใจให้ศึกษาตลอดเส้นทางไม่ว่าจะเป็น กล้วยไม้หายาก รอยต่อป่า จุดเริ่มต้นของสายธาร หากเพื่อน ๆ ได้เข้าไปสัมผัสอย่างใกล้ชิดแล้ว เพื่อน ๆ จะได้รู้จักและเห็นความสำคัญของธรรมชาติมากยิ่งขึ้นตลอดทางเดินขึ้นสู่ตัวน้ำตกขุนกรณ์ จากจุดเริ่มต้นตรงลานจอดรถบริเวณที่ทำการวนอุทยานถึงตัวน้ำตก รวมระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 700-1,500 เมตร ช่วงต้นๆ ของทางเดินเป็นลักษณะการเดินทวนน้ำขึ้นไป เพราะทางเดินจะขนานไปกับทางน้ำที่ไหลมาจากตัวน้ำตก มีสะพานไม้ไผ่ทั้งน้อยและใหญ่ ให้เดินข้ามเพื่อเพิ่มความท้าทายให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
เมื่อถึงช่วงทางแคบ ซึ่งเป็นระยะทางเกินกว่าครึ่งของทางเดินขึ้นน้ำตก ตลอดทางเดินเพื่อนๆ ก็จะได้ออกกำลังกายไปในตัวครับ เพราะมีทั้งทางลอดซุ้มไม้ไผ่ลำโต มีต้นไม้ใหญ่ ( ต้นกล้วยป่า ) สูงลิ่วชนิดที่แหงนมองขึ้นฟ้า ต้นไม้เหล่านี้ต่างแข่งกันแทงยอดจากความชื้นบนผิวดินเพื่อรับแสงแดด เดินต่อเข้าไปอีกนิด เริ่มหวาดเสียวนิดหน่อยครับเพราะทางเริ่มชันทำให้ธารน้ำที่แนบขนานทางเดินกลายเป็นหุบผา และหากตั้งใจฟังดีๆ จะได้ยินเสียงน้ำตกกระทบหน้าผาอยู่ไม่ไกล ยิ่งเดินลึกเข้าไปยิ่งสัมผัสได้ถึงละอองน้ำที่ถูกพัดพามาหลังตกกระทบลานหิน ด้านล่างพอไปถึงน้ำตก ความเหนื่อยล้าถูกสลัดทิ้งไปจนหมด เพราะสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้าก็คือ น้ำตกที่มีความสูงลิ่ว ตกลงมาจากต้นน้ำที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา ด้วยความสูงของตัวน้ำตกทำให้ละอองน้ำสาดซัดเข้ามาประหนึ่งราวกับสายฝน ดูเอเซียเปียกไปทั้งตัวด้วยละอองน้ำ และสิ่งที่ต้องทำให้สายตาทั้งคู่อยู่นิ่งกับภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้าก็คือ สายรุ้ง มันสวยงามมาก ๆ ครับ มันอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อมมือแตะเท่านั้นเองครับ
สิ่งที่เห็นราวกับฝันที่ใครหลายคนต่างก็ฝันถึง แต่จะมีใครสักกี่คนที่สามารถแตะถึงฝันนั้นได้ครับ ท้ายนี้ดูเอเซียอยากจะฝากเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวว่า สวรรค์อยู่ในเมืองไทย ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศ และสวรรค์จะคงอยู่กับเรา หากเราไม่คุกคาม และรักษาไว้ให้คงอยู่ครับ