เรื่อง….. ชมความยิ่งใหญ่น้ำตกทีลอซูในยามหน้าฝน ป่าอุ้มผาง มีศักยภาพเชิงท่องเที่ยวเมื่อชื่อเสียงของน้ำตกทีลอซูได้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วไปจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ้งของเมืองไทย โดยมีเส้นทางท่องเที่ยงที่น่าสนใจเป็นพิเศษ อย่างเช่นการล่องแก่งแม่กลองชมน้ำตกทีลอจ่อ สัมผัสธารน้ำร้อน ผจญภัยบนสายน้ำที่ท้าทาย รวมถึงทิวทัศน์สภาพริมแม่น้ำ พร้อมกับผนวกเอาความสุดยอดของน้ำตกทีลอซูไว้ด้วยกัน
การล่องแก่งแม่กลองเดิมทีเป็นรูปแบบการล่องด้วยแพไม้ไผ่ จนกระทั่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ต่อมาก็มีการหวั่นวิตกว่าไม้ไผ่ในป่าอุ้มผางจะหมดไป จึงมีการนำแพเก่ามาหมุนเวียนใช้ก็สามารถลดการตัดไผ่มาทำแพได้ไม่น้อยเลยเรือยางจึงเข้ามาทดแทนการใช้แพไม้ไผ่ ถึงแม้ว่าจะมีราคาสูง แต่ระยะยาวสามารถให้ความคุ้มทุนได้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจึงหันมาใช้เรือยางมากขึ้น จนสามารถทดแทนแพไม้ไผ่ได้แทบร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนเริ่มต้นการล่องแก่งในบริเวณตัวเมืองอุ้มผาง จากลำห้วยอุ้มผาง ที่ไหลผ่านตัวเมือง เพียงไม่ถึงกิโลเมตรก็มาสิ้นสุดห้วยอุ้มผาง สายน้ำอุ้มผางมาชนกับลำน้ำแม่กลองที่มีขนาดกว้างใหญ่กว่า กระแสน้ำไหลเชี่ยวกว่า จึงสร้างความตื่นเต้นกับนักท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อยสายน้ำแม่กลองที่แลดูว่าไหลเชี่ยว มีพลิ้วน้ำที่เกิดจากแก่งเล็กๆ เรือยางสามารถแล่นผ่านไปอย่างง่ายดาย สองฟากฝั่งลำน้ำก็ดูตื่นตามากยิ่งขึ้นประกอบด้วยแนวหน้าผาสูงชันที่อิงแอบชิดกับลำน้ำ ถ้ำผาโหว่ ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เพราะเป็นปล่องถ้ำบนหน้าผาสูง
จนกระทั่งมาถึงแนวหน้าผาสูงใหญ่ทางด้านซ้ายมือ ที่มองเห็นสายน้ำสีขาว ไหลตกลงมาจากยอดผาสูง ดูราวกับว่าเป็นม่านสายฝน ที่แห่งนี้คือ น้ำตกทีลอจ่อ มีลักษณะเป็นม่านสายฝนตกจากยอดหน้าผาหินปูน ตามผนังผามีลักษณะเป็นหินงอกหินย้อย ประกอบด้วยมอสเฟิร์นเขียวขจี ที่บ่งบอกถึงความชุ่มชื้นที่เกิดขึ้นตลอดปี
นักท่องเที่ยวทุกคนต่างตื่นตาตื่นใจกับความยิ่งใหญ่ของเพิงผา และความสวยงามของน้ำตกทีลอจ่อที่ไหลตกทิ้งลงสู่ลำน้ำแม่กลอง ชั้นหินด้านล่างจะประกอบด้วยมอสเฟิร์นที่ขึ้นคลุมราวกับผืนพรม น้ำตกแห่งนี้แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกจะเป็นตอนบนที่นั่งรถเข้าไปและเดินลงไปเล็กน้อยก็พบม่านหน้าผาหินปูนที่สวยงาม และช่วงตอนล่างที่สายน้ำตกไหลตกลงแม่น้ำต่อจากนั้นเรายังมีแนวเพิงผาสวยงามแปลกตา ที่เราต้องล่องเรือลอดผ่าน มีม่านรากไม้ห้อยระย้า มีสายน้ำไหลตกลงมาราวกับสายฝนเช่นกันจนกระทั่งมาถึง ธารน้ำร้อน จะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ริมลำน้ำแม่กลองด้านซ้ายมือ จอดเรือแวะเข้าชม สามารถสัมผัสธารน้ำร้อนโดยการลงไปนอนแช่ได้เลย ความร้อนขนาดปานกลาง หรือฝั่งตรงข้ามบริเวณริมหาดก็ยังพบตาน้ำที่ผุดพรายขึ้นมาจากใต้น้ำ ก็เป็นตาน้ำร้อนอีกจุดหนึ่ง ถ้าเราไปยืนตรงตาน้ำพอดีก็สัมผัสถึงความร้อนได้ทันทีเลย
ผ่านธารน้ำร้อนมาไม่ไกลนัก เราก็พบกับความตื่นเต้นของ แก่งตะโค๊ะบิ๊ กลางสายน้ำที่มีระดับความยากประมาณระดับ เพราะเป็นคลื่นแก่งที่เกิดจากหินใต้น้ำ พร้อมกับเป็นจังหวะหักเลี้ยวด้วย บางจังหวะที่ให้ความตื่นเต้นในช่วงการล่องแก่ง ส่วนใหญ่จะเป็นการชมทิวทัศน์แมกไม้ เพิงผา หมู่นกที่พบทั้งนกกระเต็น นกจาบคา นกเด้าดิน นกกางเขนน้ำ หรือเหยี่ยว บางโอกาสก็ได้พบฝูงลิงบ้าง
ตลอดการล่องแก่งแม่กลอง ที่มีธรรมชาติที่ตระการตาของเพิงผาสูงใหญ่ ทอดตัวเป็นแนวยามเลียบเลาะไปตามสายน้ำ ซึ่งประกอบด้วยหน้าผาที่สวยงาม ดังเช่น ผาเลือด ผาผึ้ง ผาบ่อง ผาขาว ตลอดสายน้ำตกเล็กที่เกิดจากห้วยมู่ทู่ลู่ ที่ไหลมาบรรจบกับแม่กลองทางด้านขวามือ จนกระทั่งมาสิ้นสุดการล่องเรือยางที่ ท่าทราย เป็นจุดที่รถจะเข้ามารับกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อเดินทางเข้าไปยังน้ำตกทีลอซู ซึ่งมีระยะทางประมาณ 11 กม. ถ้าหากเป็นหน้าฝน รถยนต์ไม่สามารถเข้ามาได้นักท่องเที่ยวก็ต้องเดินเท้าไปยังน้ำตกที่ใช้เวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
กรณีถ้าเราล่องเรือยางต่อไปก็จะผ่านเพิงผาน้อยใหญ่อีกหลายแห่ง รวมถึงแก่งที้น่าสนใจอย่างเช่น แก่งมอแกโด้ และ แก่งกีด จนกระทั่งไปสิ้นสุดการล่องที่สบห้วยแม่ละมุ้ง ก็มีรถเข้ามารับได้ หรือจะล่องไปยังบ้านปะละทะอีกจุดหนึ่งได้ก็ต้องใช้เวลาร่วมชั่วโมง บริเวณที่พักที่น้ำตกทีลอซูจะมีลานกางเต็นท์ที่ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางได้จัดพื้นที่ไว้ให้ มีห้องสุขาพอสะดวกใช้ สำหรับการอาบน้ำต้องอาศัยลำห้วยเป็นหลัก สำหรับการพักค้างแรมที่แห่งนี้จะมีเฉพาะเต็นท์พักเท่านั้น
การเดินทางเข้าไปชมน้ำตกทีลอซูที่อยู่ห่างจากพักประมาณ 1 กิโลเมตร จะมีกฎความสะอาดด้วยการห้ามนำอาหาร เครื่องดื่ม ขนมทุกอย่างเข้าไป เพราะต้องการลดการทิ้งขยะในบริเวณน้ำตก
น้ำตกทีลอซู เกิดจากห้วยกล้อทอที่มาจากบ้านกล้อทอหรือบ้านแม่จัน ที่มาของสายน้ำแห่งนี้ได้ไหลออกมาจากถ้ำที่ไม่มีใครทราบว่ามีต้นน้ำจริงๆ นั้นมาจากไหน แต่พอคาดเดาว่ามาจากเขตพม่า ผ่านหมู่บ้านแล้วผ่านแนวป่าทึบด้านเหนอน้ำตก จนกระทั่งไหลผ่านช่องเขาขาดที่มีหน้าผาสูงชันของเทือกเขาเพอวาตู้ แล้วกลายเป็นภาพน้ำตกขนาดใหญ่ขึ้นมา
จากชั้นแรกของน้ำตกทีลอซูจะเป็นมุมภาพที่สามารถมองเห็นภาพน้ำตกได้ทุกชั้น มีมุมถ่ายภาพสวยงาม หากขึ้นไปยังชั้น 2 จะพบแอ่งน้ำขนาดใหญ่ มีสายน้ำไหลตกกระทบแอ่งน้ำพร้อมกับละอองน้ำปลิวว่อน ช่วงยามเช้าจะพบสายรุ้งเกิดขึ้นหน้าน้ำตก ชั้นน้ำตกทีลอซูก็ยังมีอีก เราสามารถเดินเลาะผ่านแอ่งน้ำด้านล่างขึ้นไปยังแนวป่าด้านซ้าย จะมีทางเดินขึ้นเขาเล็กน้อยเพื่อขึ้นไปยังชั้นที่ 3 ที่สามารถพบเห็นความสวยงามของน้ำที่มีสายน้ำไหลทิ้งดิ่งจากยอดผาสูงที่มีลักษณะเป็นแนวทึบอยู่ด้านบนน้ำตกทีลอซู จะมีสายน้ำไหลตลอดทั้งปี ช่วงหน้าหนาวจะมีสายน้ำใส สวย ระดับน้ำดี แต่ถ้าเป็นหน้าแล้งระดับน้ำจะน้อยลง ครั้นถึงช่วงหน้าฝนที่มีฝนตกชุก ความงามของน้ำตกทีลอซูจะดูยิ่งใหญ่ เพราะสายน้ำจะไหลหลากเต็มแผ่นผาทุกชั้น พร้อมกับส่งเสียงครางกระหึ่ม ความรุนแรงของสายน้ำทำให้เราไม่สามารถเข้าไปใกล้น้ำตกได้เลย ทางที่ดีควรปีนเขาขึ้นไปชมน้ำตกทีลอซูที่อยู่ฝั่งตรงข้ามน้ำตก สามารถมองเห็นน้ำตกราวกับว่ามองจากเครื่องบิน ซึ่งเป็นภาพมุมสูงที่สุด และเหมาะที่จะขึ้นไปชมในช่วงหน้าฝน เพราะจะเห็นความยิ่งใหญ่ของน้ำตกทีลอซูได้ชัดเจนที่สุด
จบโปรแกรมเที่ยวน้ำทีลอซู นักท่องเที่ยวจะเดินทางกลับอุ้มผางด้วยทางรถยนต์ กลับไปพักรีสอร์ตสบายๆ สักคืนหนึ่ง แล้วไปชมทะเลหมอกที่ดอยหัวหมด ก็ครบโปรแกรมเที่ยวในอุ้มผางเพียงใช้เวลาแค่ 3 วัน 2 คืน