ปิ๊ตุ๊โกร สายน้ำแห่งยอดเขามะม่วงสามหมื่นแนวทางของคนค้นหาธรรมชาติ ที่มิได้เพียงแค่เราคนเดียวเท่านั้นที่เปิดตัวในเส้นทางธรรมชาติ ก็ยังมีกลุ่มคนรักธรรมชาติอีกหลายกลุ่ม ที่มีความหลากหลายในรูปแบบของกลุ่มหรือสไตล์การเที่ยวป่าที่แตกต่างกันไป ถึงวันนี้ที่เราได้ค้นพบกับน้ำตกที่สูงที่สุดในประเทศไทยในผืนป่าตะวันตกทางด้านอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นน้ำตกที่ไหลมาจากยอดเขามะม่วงสามหมื่น มีสายน้ำสีขาวไหลพาดขุนเขาสีเขียวที่เราจะเห็นได้ชัดในยามหน้าฝน หากหมดช่วงฤดูฝน สายน้ำตกแห่งนี้ก็ลดจางหายไป
เป็นความพยายามของเราได้เห็นน้ำนิรนามเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา เราได้เข้าไปค้นหาน้ำตกสายนี้ในช่วงหน้าหนาว แต่ก็ต้องผิดหวังกลับมา เพราะไม่สามารถผ่านแนวหน้าผาสูงไปได้ ประกอบกับน้ำน้อย และคนนำทางยังไม่ชำนาญดีนักจนกระทั่งได้มีการบุกเบิกและเปิดตัวน้ำตกนิรนามจากขุนเขามะม่วงสามหมื่นแห่งนี้ ซึ่งเรียกนามน้ำตกนี้ว่า “เปรโต๊ะลอซู”เนื่องด้วยสายน้ำตกแห่งนี้ได้กำเนิดจากลำห้วยปิ๊ตุ๊โกร จึงขอเรียกนามน้ำตกนี้ตามภาษาท้องถิ่นว่า “น้ำตกปิ๊ตุ๊โกร” อุ้มผางในช่วงหน้าฝน ก็แลดูเงียบเหงา นักท่องเที่ยวเข้ามาน้อยมาก ก็เป็นเรื่องปกติของการท่องเที่ยวในบ้านเรา ส่วนใหญ่จะเที่ยวตามช่วงวันหยุดสำคัญๆ จึงทำให้อุ้มผางเงียบอย่างเห็นได้ชัด
เสร็จจากอาหารเช้าและเตรียมอาหารมื้อเที่ยงไปด้วย เนื่องด้วยเป้าหมายที่บ้านกุยเลอตอนั้นอีกยาวไกล กว่าจะได้เริ่มเดินป่ากันก็น่าจะเป็นช่วงเที่ยงแน่นอน ยิ่งเส้นทางสายอุ้มผาง-บ้านเปิ่งเคลิ่ง นั้นย่ำแย่กว่าสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากฝนตกหนัก ถนนที่ถูกบดย่ำด้วยรถปิกอัพที่บรรทุกราวกับรถ 6 ล้อ รถบางคันก็ติดร่องลึก ไปไม่ไหว จนต้องถ่ายของออก ส่วนรถตู้ที่เรามาด้วย เจ้าของท่าทางใจถึง และมั่นใจกับระบบ 4 WD แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อล็อกล้อหน้าไม่ทำงาน มันก็ไม่ต่างอะไรไปจากรถตู้ธรรมดานี้เอง ศาลาปากทางเข้าหมู่บ้านกุยเลอตอที่เป็นจุดศูนย์นัดหมายของคนเดินทางสู่น้ำตกปิ๊ตุ๊โกร ก็เป็นไปตามที่คาดหมาย เราได้ทานข้าวเที่ยงก่อนออกเดินทางเข้าสู่ป่า โดยผ่านป่าไผ่ที่ร่องรอยวัวที่ย่ำจนกลายเป็นโคลนเละ เราต้องย่ำรอยเท้าหลบเลี่ยงโคลน ซึ่งเป็นเส้นทางเดินที่น่าเบื่อมา เมื่อผ่านไร่ข้าวที่แลดูเขียวสดใสปกคลุมบนเนินเขา ทะลุเข้าสู่แนวป่าที่เราได้ข้ามลำห้วยปิ๊ตุ๊โกร ด้วยสะพานไม้ไผ่ที่ทำให้หัวใจหวิวๆ กลัวจะพลาดท่าร่วงตกน้ำหากทรงตัวไม่ดี ต่อจากนั้นก็จับเส้นทางเข้าสู่ป่าทึบ ลุยน้ำทวนลำห้วยขึ้นไป ช่วงเส้นทางเดินลุยตามน้ำ ค่อนข้างมีปัญหา ถ้าหากคนนำทางทิ้งช่วงห่างจนไม่เห็นหลัง ร่องเท้าไม่มีให้เห็นได้แกะรอย ทำให้เราต้องเร่งเท้าก้าวตามไปติดๆ ตัดจากน้ำขึ้นไปตามแนวทางด่านที่มุ่งขึ้นไปยังสันเขา ที่เชื่อมไปยังเป้าหมายที่ฐานน้ำตกปิ๊ตุ๊โกร เราต้องข้ามลูกไม่สูงเท่าไหร่นักไปประมาณ 2-3 ลูก เมื่อถึงยอดเขาสูงเป็นจุดชมวิว เราก็พบกับสายน้ำตกปิ๊ตุ๊โกร ไหลตกจากหน้าผาสูง เป็นสายน้ำสองสาย ที่ไหลมาบรรจบกัน ประกอบกับในยามนี้ที่มีสายฝนปรอยๆ ทำให้เกิดเป็นหมอกบดบังยอดเขาและสายน้ำตกบางส่วน จึงเป็นภาพสายน้ำตกในม่านหมอก ดูสวยดีอยู่ แต่ถ่ายภาพไม่ได้แค้มป์ท่ามกลางป่าไผ่ที่มีแมลงริ้นไรคอยรบกวนอยู่ตลอดเลา ท่ามกลางสายฝนปรอยๆ ที่เราต้องเฝ้ามองสายน้ำตกที่เพิ่มปริมาณน้ำมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าฝนตกอย่างนี้โอกาสที่จะเห็นสายน้ำตกสวยๆ ยากเต็มที
กระทั่งวันรุ่งเช้า ฝนก็ยังไม่เลิกตกซะที จะเว้นวรรคเป็นช่วงสั้นๆ พวกเราข้ามน้ำลุยป่าไปยังฐานน้ำตกด้านล่าง พบเห็นสายน้ำไหลทะลักมาจากยอดผาสูงที่เราต้องข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม เพื่อขึ้นไปยังมุมที่สามารถมองเห็นน้ำตกได้ทั้งสองสายที่ไหลมาบรรจบกัน ฝนเริ่มตกหนาเม็ดมากขึ้น สายหมอกยังปกคลุมปลายยอดน้ำตก จนไม่สารถมองเห็นต้นสายปลายน้ำได้เลย เห็นเพียงแค่สายน้ำตกช่วงล่างที่ไหลจากหน้าผาด้านซ้ายและด้านขวามาบรรจบเป็นสายเดียว ท่ามกลางฝนที่ตกหนักขึ้น ทำให้การถ่ายภาพมีอุปสรรคและมีปัญหามากมาย มีผู้ช่วยคอยกางร่มให้ ช่วยให้การบันทึกภาพน้ำตกผ่านไปด้วยดี ถ้าไม่มีเขา เราก็ไม่ได้ภาพแน่นอน เพราะทั้งละอองน้ำและเม็ดฝนลอยฟุ้งมาตลอดเวลา
ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ตอนแรกจะรอให้ฝนหยุด แต่ดูวี่แววแล้วจะไม่เป็นเช่นนั้น สายน้ำในลำห้วยไหลเชี่ยวกรากเป็นขุ่นข้นให้เห็นว่าเป็นน้ำป่าไหลมาจากยอดเขามะม่วงสามหมื่น กระแสน้ำที่ไหลรุนแรงแบบนี้เราข้ามไม่ได้แน่นอน เรารอจนกะเหรี่ยงนำทางได้เข้ามาช่วย ด้วยการทำสะพานธรรมชาติเกาะข้ามน้ำไปได้กลับมาถึงที่พัก ก็เก็บสัมภาระออกเดินป่าต่อไปยังเป้าหมายบนสันเขามะม่วงสามหมื่น ที่เป็นจุดชมวิวสวยงาม มองเห็นน้ำตกปิ๊ตุ๊โกร ไหลมาจากยอดเขาสูง พร้อมกันนี้ก็ยังเป็นทำเลที่เราได้เห็นสันเขาที่เป็นทุ่งหญ้าบนเทือกเขามะม่วงสามหมื่นด้วยจากระดับความสูงที่ 529 เมตร ในบริเวณหน้าน้ำตก เราได้มุ่งหน้าไต่สันเขาย้อนขึ้นไปยังที่พักบนสันเขาในระดับความสูง 1,100 เมตรจากระดับน้ำทะเลสภาพเส้นทางไต่ระดับความสูงที่เอียงลาดชัน ด้านล่างก็เป็นหุบเหวลึก เส้นทางปกคลุมด้วยทุ่งหญ้า เราก็เลียบเลาะไต่เขาไปท่ามกลางม่านหมอกที่ปกคลุมยอดเขาจนขาวโพลน พร้อมกับเสียงดังกระหึ่มอยู่ในม่านหมอกสีขาว กระทั่งจนถึงสันเขาที่มีลานกว้าง เป็นที่พักค้างแรม
เราใช้เวลาไมถึง 2 ชั่วโมง ก็ได้มาถึงที่พัก จึงจัดการผูกเปลเตรียมที่พักจนพร้อม ขณะเดียวกันเราได้มองเห็นการเคลื่อนตัวของม่านหมอก เป็นจังหวะสภาพอากาศเปิดจนมองเห็นแนวขุนเขาทะมึนสูง พร้อมกับมองเห็นสายน้ำตกปิ๊ตุ๊โกร ไหลพาดผ่านแนวเทือกเขาสีเขียว พร้อมกับสายหมอกที่ลอยเคลียคลอตามแนวขุนเขาและสายน้ำตก
บางช่วงเวลาสั้นๆ ทีสภาพอากาศเปิดโล่ง จากเดิมทีที่มองไม่เห็นอะไรเลย กลุ่มที่นั่งจิบกาแฟดื่มด่ำกับบรรยากาศสายหมอก เมื่อได้เห็นภาพที่ค่อยๆ เปิดแย้ม จนมองเห็นภาพที่สวยงามยิ่งใหญ่ ได้กลายเป็นความรู้สึกประทับใจอย่างไม่รู้ลืม เมื่อได้เห็นภาพความยิ่งใหญ่ของน้ำตกปิ๊ตุ๊โกร จากขุนเขามะม่วงสามหมื่นแห่งนี้
ภาพทุกภาพที่เราบันทึกเอาไว้ ถือว่าเป็นช่วงโอกาสสำคัญที่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ถ้าหากสภาพอากาศเปิดตลอดทั้งวัน เราจะเดินขึ้นไปเที่ยวบนสันเขาที่มีสภาพเป็นทุ่งหญ้ายาวตลอดทั้งสันเขา และสามารถมองเห็นทิวทัศน์ทะเลภูเขาของผืนป่าอุ้มผางได้เต็มตา และยังได้มองเห็นแนวยอดเขาสูงสุดของเขามะม่วงสามหมื่นที่มีระดับความสูงประมาณ 1,734 เมตร
แต่ด้วยสภาพปิดสนิททำให้เราต้องยกเลิกการขึ้นไปเที่ยวบนสันเขา ประกอบกับสภาพอากาศแปรปรวน เมื่อมีกระแสลมพัดมารุนแรงตลอดเวลา ซึ่งเราดูวี่แววว่าจะไม่เข้าท่าแล้ว จะชวนกันกลับ แต่คนนำทางบอกว่าจะลำบาก มันจะมืดระหว่างแล้วจะมีปัญหาต่อการเดินป่า จึงต้องยกเลิกและพักค้างแรมกันต้องต่อสู้กับสายลมและฝนกันต่อไป
น้ำตกปิ๊ตุ๊โกร แห่งขุนเขาดอยมะม่วงสามหมื่น จัดว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในประเทศไทย ตามที่วัดพิกัดความสูงได้ประมาณ 500 เมตร เป็นน้ำตกที่เพิ่งรู้จักและจะเกิดให้เห็นได้ชัดๆ ในช่วงฤดูฝนเท่านั้น และน้อยคนที่จะได้เห็นและเข้าไปสัมผัสด้วยตนเอง เพราะว่าเป็นเส้นทางเดินป่าในช่วงหน้าฝนที่มีความยากลำบากพอประมาณ แต่เมื่อได้ไปเห็นมาแล้ว ก็นับว่าคุ้มค่าทีเดียวเลยล่ะ การเดินทาง
กรุงเทพฯ-แม่สอด มีรถทัวร์ประจำทาง ทั้ง บขส. โทร.0-2936-2841-48,0-2936-2852-66 ต่อ 442, 311 หรือทันจิตต์ทัวร์ โทร.0-2936-3210-4
แม่สอด-อุ้มผาง มีรถสองแถวประจำทาง
อุ้มผาง-บ้านกุยเลอตอ มีรถสองแถวประจำทาง แต่ควรเหมารถไปส่ง-ไปรับดีกว่า
หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ควรไปถึงอุ้มผางตั้งแต่เช้ามืด แล้วเดินทางไปยังบ้านกุยเลอตอ หากเริ่มเดินเท้าได้ตั้งแต่ 10 โมงเช้าก็น่าจะดี คาดว่าจะถึงน้ำตกราว 4 โมงเย็น
การติดต่อ
ควรติดต่อคนนำทาง “จะตุ๊ ธาราแม่กลอง” 16 หมู่ 6 ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก 63170 โทร.0-5551-9092 (เป็นเบอร์บ้านผู้ใหญ่บ้าน ให้ตามได้)
การเตรียมตัว
เนื่องจากเส้นทางเดินป่าน้ำตกปิ๊ตุ๊ลอซูและเขามะม่วงสามหมื่นนี้ เป็นเส้นทางใหม่ ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแต่อย่างใด จึงควรใช้บ้านที่ชำนาญเส้นทางนำทางหรือติดต่อผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่น
อุปกรณ์ที่ควรจัดเตรียมขึ้นไป ควรเลือกใช้เต็นท์หรือเปล ถุงนอน เครื่องกันหนาว อุปกรณ์ป้องกันฝน และอุปกรณ์เดินป่าอื่นๆ ที่แต่ละคนจะถนัด
ส่วนสภาพาร่างกายควรฟิดกำลังขาให้แกร่ง เพราะเส้นทางค่อนข้างชัน
ขอบคุณภาพ ทัวร์น้ำตกปิตุ๊โกรโดยtkt