ในหน้าร้อนอย่างนี้ สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมก็คงหนีไม่พ้น การเข้าไปในป่าเขาลำเนาไพร และ น้ำตกกันครับ เพื่อที่จะได้นั่งพักผ่อนไต้ร่มไม้อันร่มรื่นและลงเล่นน้ำตกที่แสนจะเย็นสบาย คลายร้อนกันได้เป็นอย่างดี และได้ของแถมมาก็คืออากาศที่เย็นสบาย พร้อมกับเป็นอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่นเหลือเกินครับ
ทริปนี้ ดูเอเซีย.คอม พาหนีร้อนมาพึ่งเย็นกันที่น้ำตกพลิ้วมหัศจรรย์แห่งสายน้ำบนเทือกเขาสระบาป จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของเมืองไทย และยังมีธรรมชาติภายในตัวน้ำตกที่สมบูรณ์ เป็นอย่างมาก เป็นสถานที่พักผ่อน ที่ดีอีกแห่งของจังหวัดจันทบุรีที่มีคนนิยมเข้ามาเที่ยวชมเพราะแตกต่างจากน้ำตกที่อื่น ๆ นอกจากตัวน้ำตกที่สวยงามและมีน้ำไหลตลอดทั้งปี เป็นต้นน้ำของลำธารหลายสายของจันทบุรี และในสายน้ำที่ใสสะอาดของน้ำตกแห่งนี้ยัง เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ คือมีเหล่าปลาพวงหินธรรมชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเต็มพื้นที่น้ำตก ช่วยเพิ่มมนต์เสน่ห์ให้กับสายน้ำแห่งนี้อย่างเป็นธรรมชาติสร้างครับ สุดยอด
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วตั้งอยู่ในเทือกเขาสระบาป มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย และมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ คือ น้ำตกพลิ้วที่สวยงาม มีน้ำตกตลอดปี แถมปลาพวงหินเต็มสายน้ำ มีเนื้อที่ประมาณ 134.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 84,062.50 ไร่ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยตาโบ คลองโป่งแรด คลองนารายณ์ คลองสระบาป คลองคมบาง คลองนาป่า คลองพลิ้ว คลองน้ำแห้ง คลองหนองเสม็ด คลองตะปอนน้อย คลองตะปอนใหญ่ คลองขลุง คลองเคล คลองตรอกนอง และคลองมะกอก กระจายอยู่รอบพื้นที่
ผักบุ้งถ้่วมีขายครับด้านหน้า
ข้างนอกอากาศร้อนจังเข้าไปเที่ยวน้ำตกกันดีกว่า เมื่อเราย่างก้าวเข้ามาบริเวณทางเข้าอุทยาน เราก็รู้สึกได้เลยของอากาศที่เปลี่ยนแปลง คือมีความเย็นแบบสบาย ๆ รอบตัวเรา อากาศสดชื่น มีเสียงน้ำไหลแผ่วแว่วเข้าหู เพิ่มเติมด้วยเสียงของหรีดเรไร และนกที่เกาะบนต้นไม้บ่งบอกได้ถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่นี่ ตลอดทางเดินเข้าไปตัวน้ำตก เต็มไปด้วยต้นไม้ป่านานาชนิดที่ตั้งเรียงอยู่อย่างเป็นธรรมชาติ มีแนวโขดหินตั้งเด่นให้เหล่าตะใคร่น้ำมารุมเกาะตลอดแนวทาง เดิน อากาศที่นี่ค่อนข้างชื้น และเราเข้าไปหน้าฝนพอดี เดินชมผีเสื้อหลากสีสันที่ผลัดกันบินโชว์ อวดสีสันความสวยงามของตัวเองอยู่บนแนวโขดหินอย่างเป็นตัวของตัวเอง ทำให้ก้อนหินมีสีสันขึ้นมาถนัดตา สวยงามมากและเป็นธรรมชาติ สร้างจริง ๆ ก่อนถึงตัวน้ำตกมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเดินขึ้นไปทางด้านบนตัวน้ำตก เสียดายที่ฝนตกมาซะก่อนเลยไม่ได้ขึ้นไปชมไปเก็บบรรยากาศมาฝากกัน เห็นเจ้าหน้าที่บอกต้องเดินเป็น กิโลเลย และด้านบนสวยเป็นธรรมชาติมาก
เราลงไปลำธารด้านล่างก่อนถึงตัวน้ำตกเราก็พบสิ่งที่มหัศจรรย์ที่คู่กับสายน้ำแห่งนี้นั่นก็คือปลาพวงหินจำนวนมากที่แหวกว่านไปมาอย่างคึกคักแบบเป็นธรรมชาติ เต็มแนวโขดหิน มีทั้งตัวใหญ่ตัวเล็ก มีจำนวนมาก จริง ๆ น่าแปลกครับสายน้ำที่ไหลตลอดปีอย่างนี้มีปลาอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น จะมีปลาพวงหินตลอดแนวจากด้านล่างไปจนถึงตัวน้ำตกทางด้านบน และเป็นปลามี่ไม่ตื่นคนด้วย เวลาเราลงไปเล่นน้ำและน้ำถั่วฝักยาวไปไห้เป็นอาหารปลาพวงหินเหล่านี้จะว่ายเข้ามาล้อมรอบตัวเรา และเราสามารถจับต้องได้ด้วย ได้บรรยากาศแบบเย็นฉ่ำและตื่นเต้นครับ ปลาพวงหินเป็นปลาที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและอาศัยอยู่ที่น้ำตกพลิ้วแห่งมาอย่างยาวนานเนื่องจากมีกระแสน้ำที่เย็นและมีน้ำไหลตลอดทั้งปีซึ่งเป็นสายน้ำที่ปลาพวงชอบอาศัยอยู่
ปลาพวงหินมีลักษณะคือขนาดลำตัวยาวด้านข้างแบน มีเกล็ดขนาดใหญ่ หัวเล็ก กระโดงหลังค่อนข้างสูง ครีบหูมีขนาดเล็ก ครีบท้องและครีบก้นมีขนาดใกล้เคียงกัน ลำตัวมีสีน้ำตาลปนเขียว ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ๆ ละ 10 – 20 ตัว มีขนาดความยาวประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร ชอบอยู่บริเวณน้ำตก และลำธารบนภูเขา ชอบกินอาหารอาหารได้แก่ แมลง พืช และผลไม้ ในบางฤดูจะกินเมล็ดไม้ป่าที่เป็นพิษ พิษจะสะสมอยู่ในตัวปลา จึงไมนำไปเป็นอาหาร ทำไห้ปลาชนิดนี้แพร่พันธุ์อยู่ในน้ำตกพลิ้วแห่งนี้มาจนถึงทุกวันนี้
เดินชมธรรมชาติเล่นน้ำที่เย็นสบายพร้อมกับสนุกสนานกับการให้อาหารปลา ก็สนุกแบบสัมผัสกับธรรมชาติได้แบบตัวต่อตัวครับ ปลาพวงเป็นมนต์เสน่ห์ของที่นี่ จริง ๆ เมื่อเราเดินมาถึงตัวน้ำตกที่ไหลลงมาจากเทือกเขาผ่านหน้าผาหินที่ชุ่มชื่นไปด้วยไอของธรรมชาติ ด้านล่างเป็นอ่างน้ำธรรมชาติที่เต็มไปด้วยปลาพวงที่อยู่แบบหนาแน่น อากาศเย็นมากครับน้ำนี่ไม่ต้องห่วงเลยคนที่ขี้หนาวลงเล่นไม่ได้แน่นอนเพราะน้ำเย็น สุด ๆครับ สองข้างเต็มไปด้วยป่าดิบชื้นที่โอบกอดตัวน้ำตกไว้อย่างเหนียวแน่น ในแนวป่า เว้นช่องไว้เล็กน้อยเพื่อไห้พระอาทิตย์ที่กำลังทอแสงเรืองรองส่องผ่านลงมาไห้เราได้ไออุ่นนิด ๆ รูสึกถึงความอบอุ่นที่ได้แบบรอบตัว รอบบริเวณตัวน้ำตกเต็มไปด้วยละอองน้ำที่ลอยฟุ้งอยู่เต็มพื้นที่ สัมผัสบรรยากาศแบบน้ำค้างตกยามหน้าหนาวครับ เสียงคำรามของน้ำที่ตกสู่พื้นหินเสียงดัง ซู่ซ่าถึงใจแบบใจสั่นกันไปเลย ธรรมชาติสร้างสรรค์จริง ๆ สายธารน้ำตกจะไหลลงมาสองสาย ซ้ายขวาเป็นน้ำตกที่สร้างสีสันให้กับการพักผ่อนได้มากทีเดียวครับ
หลังจากเราชมน้ำตกกันอย่างจุใจแล้วเราก็ขึ้นชมสถานโบราณที่อยู่มุมบนของน้ำตกมีสองแห่ง แห่งแรกคืออนุสาวรีย์อลงกรณ์เจดีย์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2419 โดยพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดไห้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้ว โดยที่พระองค์ทรงโปรดปรานน้ำตกพลิ้วแห่งนี้เป็นอย่างยิ่งลักษณะเจดีย์สร้างด้วยหินศิลาแลง แห่งที่สอง คือ ปิรามิดพระนางเรือร่ม เป็นสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ 2424 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักและความอาลัย ของพระองค์ที่ทรงมีต่อพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์หลังจากที่พระนางเสด็จทิวงคตจากอุบัติเหตุเรือพระประเทียบร่มในแม่น้ำเจ้าพระยาภายในบรรจุพระอังคารส่วนหนึ่งไว้ด้วย เราสามารถเดินขึ้นไปชมได้อย่างใกล้ชิด ครับ
ปิรามิดพระนางเรือล่ม
อนุสาวรีย์อลงกรณ์เจดีย์
ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นศูนย์อาหารเครื่องดื่มขนาดใหญ่มีบริการอาหารเครื่องดื่มมากมายหลายชนิดหลายเมนู,ห้องน้ำห้องอาบน้ำ,ที่นั่งพักผ่อนมีทั่วพื้นที่,ที่เก็บของ,ลานกลางเต็นท์,และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยตลอด สะดวกรอบด้านครับ
หลังจากที่เที่ยวกันจนเต็มอิ่มก่อนกลับก็แวะซื้อของที่ระลึก ที่ตั้งเรียงรายอยู่หน้าทางเข้าบริเวณลานจอดรถมีสินค้าที่ระลึกไห้เลือกมากมายหลายอย่างครับ เป็นที่ระลึกเกี่ยวกับน้ำตกเช่นเสื้อยืดกรอบรูป เราเดินชมมาจนมาสะดุดที่ร้านของตกแต่งสวยงาม ภายในร้านมีสินค้าในหลายรูปแบบส่วนมากเป็นสินค้าที่ทำด้วยมือ ของเยอะมากเต็มร้านเลยเราเข้าไปคุยกับเจ้าของคือป้าบุญเรือน โดยสินค้าจะประดิษฐ์ มาจากเปลือกหอยหลายแบบ เช่นม่านประตู,พวงกุญแจ,งานเขียนลายต่าง ๆ,ดอกไม้ประดิษฐ์,กระเป๋า และประเภทสินค้าที่แปรรูปจากสมุนไพรต่าง ๆของภาคตะวันออก ภายในร้านป้าบุญเรือนมีสินค้ามากมายจริง ๆ ครับ ใครที่เข้ามาเที่ยวที่น้ำตกพลิ้วก็อย่าลืมแวะชมแวะซื้อกลับบ้านกันนะครับ
เนื่องจากสภาพป่าของอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วมีลักษณะเป็นผืนป่าธรรมชาติโดดเดี่ยวคล้ายป่าเกาะที่ถูกล้อมรอบด้วยพื้นที่เกษตรกรรมและชุมชนที่อยู่อาศัย ไม่มีผืนป่าธรรมชาติแห่งอื่นที่ต่อเนื่องหรือใกล้เคียง ประกอบกับพื้นที่มีขนาดไม่มากนัก ความหลากหลายของสัตว์ป่าในพื้นที่จึงมีน้อย ที่พบโดยทั่วไป ได้แก่ เลียงผา หมูป่า อีเห็นข้างลาย ลิงกัง ชะนีมงกุฎ ลิ่นชวา อีเห็นข้างลาย กระแตเหนือ กระรอกแดง ค้างคาวเล็บกุด ค้างคาวปีกถุงต่อมคาง หนูฟานเหลือง เป็ดแดง ไก่ป่า นกหกเล็กปากแดง นกกระปูดใหญ่ นกเด้าลมหลังเทา นกเฉี่ยวดงหางสีน้ำตาล นกขมิ้นน้อยสวน นกเขียวคราม นกปรอดทอง นกแซงแซวหางปลา นกกินแมลงอกเหลือง นกกระจิบสวน นกกางเขนดง นกกินปลีคอแดง นกสีชมพูสวน ตุ๊กแกป่าตะวันออก จิ้งจกหางแบน กิ้งก่าบินปีกสีส้ม จิ้งเหลนหลากหลาย ตะกวด งูลายสาบเขียวขวั้นดำ งูเขียวหัวจิ้งจกป่า คางคกบ้าน กบอ่อง เขียดตะปาด และอึ่งอ่างบ้านฯลฯ นอกจากนี้ยังมีปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาสร้อยขาว ปลากดหิน ปลาค้อ ปลาจิ้งจก ปลาพลวงหิน ปลากระทิง ปลาสร้อยลูกกล้วย เป็นต้น
น้ำตกพลิ้ว เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีสิ่งมหัศจรรย์ปลาพวงหิน ที่ช่วยเพิ่มสีสันในการเที่ยวน้ำตกของเราได้มากขึ้นที่เดียวครับ ทั้งยังมีธรรมชาติที่สมบูรณ์เหมาะแก่การเข้ามาพักผ่อนเพื่อคลายร้อนและศึกษาธรรมชาติได้ในหลายรูปแบบ เป็นอีกสถานที่หนึ่งของเมืองจันทบุรีที่น่าแวะเข้ามาสัมผัสอย่างยิ่ง คนที่ชอบท่องเที่ยวแบบธรรมชาติไม่ควรพลาด นอกจากนั้นยังตั้งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวในอีกหลายที่เช่น น้ำตกคลองนารายณ์,สวนผลไม้ที่ ต.พลิ้ว,ร้านของฝากเมืองจันท์,เชิญแวะเที่ยวแวะชมกันได้เลยหรือจะเลยไปท่องทะเลแหลมสิงห์ก็เดินทางแค่ 20 นาที หรือจะเข้าไปเที่ยวในตัวเมืองจันทบุรีก็ได้สบายครับเพราะตัวน้ำตกห่างจากตัวเมืองเพียง 15 กิโลเมตร เชิญเที่ยวกันไห้สนุกครับ
น้ำตกพลิ้วตั้ง อยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี โทร 039-3500224 เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 8.00-17.00 น.
การเดินทาง
เดินทางจากจันทบุรีไปอ.ขลุง บนถนนสายบางนาตราด ก่อนถึงขลุงจะถึง ต.พลิ้วก่อน ก่อนถึงสี่แยกพลิ้วประมาณ 1 กิโลเมตร น้ำตกจะตั้งอยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายจากถนนหลักเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรก็ถึงจอดรถไว้ด้านหน้าแล้วเดินเข้าไปชมกันได้เลย
เป็นไงครับทริปนี้ เราพาเย็นฉ่ำกับน้ำตกพลิ้ว คงได้คลายร้อนไปตาม ๆกัน แถมยังได้เห็นธรรมชาติของปลาพวงหินเป็นมหัศจรรย์ของสายน้ำแห่งนี้จริง ๆครับ เอาเป็นว่าร้อนนี้ยังไม่มีที่พักผ่อน ขอแนะนำที่นี่เลยครับเหมาะสุด หรือถ้าใครอยากเห็นปลาพวงหินจำนวนมากสุด ๆ ต้องมาที่นี่ที่เดียวครับ น้ำตกพลิ้ว ของจังหวัดจันทบุรี รับรองได้เห็นอย่างจุใจแน่นอน