นั่งเรือมาด ชมอ่าวสลักคอก ณ เกาะช้าง
สวัสดีเพื่อน ๆ ดูเอเซียดอทคอมทุกคนจ้า ในบรรยากาศช่วงซัมเมอร์ร้อน ๆ แบบนี้ ขอหนีร้อนไปล่องทะเลอ่าวไทยดีกว่าค่ะ และทริปนี้ดูเอเซียดอทคอมขอพาเพื่อน ๆ ไปท่องเที่ยวรับลมทะเลกันยังสุดแผ่นดินภาคตะวันออก ที่เกาะช้าง จ.ตราด นี้เองค่ะ แต่การไปเกาะช้างครั้งนี้ นั้นต่างออกไปจากทุกที่ เพราะดูเอเซียดอทคอมจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวแบบเชิงอนุรักษ์กันบ้าง เพื่อน ๆ คนไหนที่รักธรรมชาติไม่ควรพลาดที่นี้เลยค่ะ รับรองว่าได้สัมผัสกับความเงียบสงบของธรรมชาติแน่นอน ยิ่งถ้าไปกับคู่รักด้วยแล้ว ไม่ควรพลาดไป สัมผัสบรรยากาศชิลล์ ๆ ที่ “ชุมชนบ้านสลักคอก” แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่สำหรับของเกาะช้าง โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ที่คู่รักควรไปสัมผัสบรรยากาศสักครั้งหนึ่ง นั้นคือการนั่ง “เรือมาด” หรือที่ชาวต่างชาติเรียกกันว่า “กอนโดล่า” เพื่อชมบรรยากาศที่เงียบสงบของธรรมชาติ ได้ฟังเสียงน้ำ เสียงลม และเสียงหัวใจของกันและกัน ฮิ้วๆ แค่ได้ยินก็โรแมนติกแทนแล้วค่ะที่อ่าวสลักคอกแห่งนี้ มีป่าชายเลนผืนใหญ่สุดบนเกาะช้าง พื้นที่ราว 670 ไร่ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ตัวอ่อน ของสัตว์น้ำต่างๆ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการพังทลายชายฝั่ง และยังลดความเร็วลมที่จะเข้ามาปะทะฝั่งได้ด้วยค่ะ ชาวบ้านสลักคอกยึดอาชีพทำประมงพื้นบ้านเป็นหลักและเป็น ชุมชนชาวประมงเพียงไม่กี่แห่งที่เหลืออยู่บนเกาะช้างนี้ พูดแล้วก็น่าใจหายน่ะค่ะ ที่ปัจจุบันเกาะช้างที่เดิมทีเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญ แต่ปัจจุบันมันค่อย ๆ แปรเปลี่ยนไปตามความเจริญ
ด้วยเหตุนั้นจึงเกิดชมรมท่องเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2548 และเมื่อชมรมเริ่มตั้งหลักได้ มีผลการดำเนินงานเป็นรูปเป็นร่าง ชาวบ้านก็เริ่มหันมาสนใจและให้ความร่วมมือมากขึ้น โดยชมรมได้รณรงค์รักษาความสะอาดตามลำคลอง ป่าชายเลนในหมู่บ้านและสร้างจิตสำนึกของ คนในชุมชนร่วมดูแลทรัพยากรท้องถิ่นของตน
ต่อมามีการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยว โดยไม่รับจากภายนอกมาด้านเดียว แต่เป็นการค่อยๆ พัฒนา รูปแบบของตนเอง จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน นั่นคือการ “นั่งเรือมาด” หรือที่ นักท่องเที่ยวขนานนามให้ว่า “เรือกอนโดลา (gondola)” แห่งเกาะช้าง ซึ่งถูกนำไปเปรียบเทียบกับเรือกอนโดลา ที่เมืองเวนิสประเทศอิตาลีเลยทีเดียวค่ะ โดยมีการให้บริการล่องเรือ 2 แบบด้วยกัน คือเรือคยักสำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยม การท่องเที่ยวแบบผจญภัยและท้าทาย นักท่องเที่ยวจะพายเรือไป ตามลำคลองต่างๆ ผ่านป่าโกงกาง ด้วยตนเอง โดยจะมีการอธิบายเส้นทางล่องเรือพร้อมกับแจกแผนที่ให้กันหลงและ อีกอย่างที่กำลังได้รับความนิยมคือ “เรือมาด” สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาแบบครอบครัว ในเรือมาดจะมีที่นั่งพร้อมทั้งโต๊ะอาหารกลางลำเรือและมีร่มกางกันแดดให้ โดยจะมีคนแจวเรือให้ตลอกเส้นทางการล่องเรือ นักท่องเที่ยวจะได้ชมทัศนียภาพสวยงามตลอดลำคลองไปจนถึง ปากอ่าวสลักคอกที่กว้างใหญ่ สวยงาม ยิ่งในช่วงเย็นจะเห็นพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งโรแมนติกมาก ๆ เลยค่ะขอบอก ซึ่งครั้งนี้โชคดีที่ได้มาในช่วงเวลายามเย็นพอดี จึงได้รูปสวย ๆ ของอ่าวสลักคอกยามเย็นกลับมาฝากเพื่อน ๆ ด้วยค่ะ ถ้าหากคู่รักหนุ่มสาวมา ดินเนอร์มื้อเย็นกันในเรือมาดของที่นี่และพอพลบค่ำ ก็จะได้เห็นหิ่งห้อยจำนวนมากส่งแสงวิบวับสวยงาม โอ้ย..อะไรจะโรแมนติกขนาดนั้น
อ่อลืมบอกไปว่าที่อ่าวสลักคอกแห่งนี้ก็มีตำนานเหมือนกันน่ะค่ะ ชาวบ้านเค้าเล่าให้ฟังว่า “เดิมอ่าวสลักคอก มีหินปิดทางเข้าออกและมีการลงลิ่มไว้ป้องกันหินเลื่อน ออก ต่อมามีช้างชื่อเพชรมาจากบ้านสลักเพชร (ทางตอนใต้ของบ้านสลักคอก) มาดันก้อนหินและลิ่มที่ปิดปากอ่าวขยับออกไป กลายเป็นเกาะสลักและเกาะลิ่ม และยังได้ไปถ่ายมูลไว้ที่หน้าเกาะสลักกลายเป็นกองหินมีชื่อเรียกว่าหินขี้ช้างในปัจจุบัน” ทุกที่ย่อมมีตำนานหรือเรื่องเล่าคะ เป็นไงบ้างค่ะเพื่อน ๆ ที่ชุมชนอ่าวสลักคอกแห่งนี้ ขอบอกว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่น่าสนใจอีกแหล่งหนึ่งของเกาะช้างเลยทีเดียวค่ะ หากเพื่อน ๆ ดูเอเซียดอทคอมมีโอกาสไปเยือนที่เกาะช้าง ก็อย่าลืมไปล่อง “เรือมาด” ชมทัศนียภาพของอ่าวสลักกันน่ะค่ะ อ่อ แต่ขอแน่ะนำค่ะ ควรไปกับคู่รักน่ะค่ะ และไปดินเนอร์กันใต้แสงเทียน บนเรือมาด และรอบข้างก็เต็มไปด้วยหิงห้อย โหโรแมนติกสุดยอดค่ะ แล้วมาติดตามกันต่อไปค่ะว่า ดูเอเซียดอทคอมจะพาเพื่อน ๆ ไป กิน เที่ยว ที่ไหนกันต่อไป