ท่องเที่ยวโคราช กินเข่าค่ำของดีเมืองสูงเนินในภาษาอิสาน คำว่า กินเข่าค่ำ เป็นภาษาถิ่นหมายถึงการกินข้าวเย็นนั่นเอง งานประเพณี กินเข่าค่ำ เป็นประเพณีที่ชาวอำเภอสูงเนิน เชิญชวนเพื่อนบ้านไปกินอาหารเย็นร่วมกัน เพื่อพบปะสังสรรค์ สร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ประเพณีที่ฟังดูเรียบง่ายเช่นนี้ เกิดขึ้นด้วยอัธยาศัยไมตรีที่ดีของชาวอำเภอสูงเนิน จนกลายเป็นประเพณียิ่งใหญ่ ที่จัดเป็นประจำทุกปี ในช่วงเดือนมีนาคม ณ บริเวณปราสาทเมืองแขก ท่ามกลางการแสดงศิลปะวัฒนธรรมบอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของอำเภอสูงเนิน ที่ตั้งของเมืองศรีจนาศะปุระ ต้นกำเนิดของอารยธรรมอิสานที่มีอายุเก่าแก่กว่าพันปี
ทริปนี้ดูเอเซียดอทคอม ได้รับเกียรติจาก ททท สำนักงานภาคอิสาน ให้ร่วมเดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 9-10 มีนาคม 2555 และเข้าร่วมงานประเพณี กินเข่าค่ำ ของดีเมืองสูงเนินเช่าตรู่วันที่ 9 มีนาคม ออกเดินทางจากกรุงเทพไปสู่จังหวัดนครราชสีมา เข้าสักการะหลวงปู่โต ณ อุทยานลานบุญสมเด็จพุฒาจารย์ สถานที่แห่งนี้ เกิดจากความศรัทธาและพากเพียรของคุณ สรพงศ์ ชาตรี ที่เปลี่ยนทุ่งนาเป็นอุทยานลานบุญ “หลวงปู่โต” เป็นพระขนาดใหญ่ที่มีหน้าตักกว้าง 8 เมตร เป็นองค์พระที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันมีการสร้างโบสถ์ครอบองค์พระไว้ มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม บริเวณโดยรอบจัดเป็นสวนหย่อม ภูมิทัศน์โดยรอบร่มรื่นสวยงาม เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีเสียงพระเทศนาผ่านเครื่องขยายเสียงได้ยินทั่วถึงทุกจุด ทำให้เกิดความสุข สงบในจิตใจ
อุทยานลานบุญสมเด็จพุฒาจารย์ ตั้งอยู่ติดกับถนนมิตรภาพ บริเวณบ้านโนนกุ่มตำบลสี่คิ้ว อำเถอสี่คิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เลยปากทางเข้าอำเภอสี่คิ้วประมาณ 3 กิโลเมตร หากมาจากกรุงเทพ จะอยู่ทางด้านซ้ายมือมื้อกลางวันของวันนี้ เราทานอาหารกับท่านกำนันกำนันจรัส เลิศเข็มนาค ที่บ้านวังวน ตำบลโคราช ชาวบ้านที่นี่ รวมกลุ่มกันเปิดบ้านให้เป็นที่พักแบบโฮมสเตย์ ให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสวิถีชีวิตแบบพอเพียง เป็นการทัศนศึกษาเชิงอนุรักษ์ และศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของเมืองโคราฆปุระ อันเป็นต้นกำเนิดของเมืองนครราชสีมาในปัจจุบัน หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ท่านกำนันก็พาเราไปล่องเรือ ชมสองฝั่งลำนี้ลำตะคอง ที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ทำให้มีการทำสวนผลไม้รสชาดดีจนขึ้นชื่อของจังหวัดนครราชสีมา ทั้งส้มโอ มะปราง มะพร้าว เรือที่นี่เป็นเรือท้องแบนนั่งได้ประมาณ 20 คน แต่ละลำมีน้องๆ ที่ว่างจากการเรียน เป็นฝีพายลำละสี่คน
เราล่องเรือไปหยุดที่กระต๊อบหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของ ลุงบุญเหลือ เกตุตาคุ ชาวสวนผู้เลือกดำเนินชีวิตภายใต้วิถีชีวิตปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลุงบุญเหลือ สามารถอธิบายให้ความรู้เรื่องการผลิตปุ๋ยจากเศษใบไม้และพืชผักในสวนและการหมักสารชีวภาพเพื่อไล่แมลงแทนการใช้สารเคมี ลุงบุญเหลือไม่เคยใช้ปุ๋ยเคมีมานานนับสิบปีแล้ว ฉะนั้น ผัก ผลไม้ ที่สวนจึงมีผลดก รสหวานกรอบอร่อยและปลอดสารพิษ ขากลับยังได้ชมรหัดวิดน้ำภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่สร้างจากไม้ไผ่ เพื่อนำน้ำมากักเก็บไว้ในสระสำหรับรดน้ำต้นไม้และไร่นา
หากเพื่อนๆสนใจ มาเที่ยวชมหรือพักที่หมู่บ้านโฮมสเตย์แห่งนี้ ติดต่อได้ที่ กำนันจรัส เลิศเข็มนาค ประธานกลุ่มโฮมสเตย์ฯ โทรศัพท์ 08-1321-3241 และนายธีระพงษ์ บูรพาชน รองประธานฯ โทรศัพท์ 08-7871-4554 เย็นวันนี้ ดูเอเซียดอตคอมได้เข้าร่วมงานประเพณีกินเข่าค่ำ ของดีเมืองสูงเนิน ทีมงานของเรามาถึงบริเวณงานค่อนข้างเร็ว ก็เลยเดินเก็บบรรยากาศรอบๆ รูปแบบการจัดงานคล้ายงานวัด แต่เป็นงานใหญ่ มีการเปิดร้านขายของกินของใช้มากมาย มีสวนสนุกให้บริการของเล่นขวัญใจเด็กๆ ทั้งม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ รถไฟ รถไฟเหาะ มีตัวแทนจากตำบลต่างๆมาเปิดซุ้ม แสดงศิลปะวัฒนธรรมในตำบลสำหรับบริเวณที่จัดงานประเพณีกินเข่าค่ำนั้น เป็นลานหน้าปราสาทเมืองแขก ซึ่งเป็นปราสาทศิลาแลง ศิลปะแบบขอมโบราณ บริเวณลานกว้างมีการปูเสื่ออย่างดี จัดวาง “โตก” เรียงรายเป็นชุดๆ ผู้ร่วมงานจะนั่งล้อมวงทานอาหารจากโตก พร้อมกับดูการแสดงศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น เล่าถึงความเป็นมาของอำเภอสูงเนิน ซึ่งเคยเป็นเมืองเสมา และเมืองโคราฆะปุระ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจังหวัดนครราชสีมา สำหรับในปีนี้ นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ก็ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานกล่าวเปิดงาน ส่วนนักแสดงหลายท่าน ก็เป็นนักแสดงกิตติมศักดิ์ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และบุคคลที่เป็นที่เคารพนับถือของจังหวัดหลายท่าน ก็ร่วมแสดงด้วย
คืนวันที่ 9 เราพักกันที่ ฉัตรทิพย์ รีสอร์ท ซึ่งเป็นรีสอร์ที่มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยห้องพักหลากหลายสไตล์และจัดภูมิทัศน์โดยรอบได้อย่างสวยงาม ฉัตรทิพย์ รีสอร์ท เหมาะสำหรับการประชุมสัมนา มีห้องพักรองรับแขกได้ มากกว่า 200 ท่าน มีห้องประชุมขนาดใหญ่ มีสระว่ายน้ำและกิจกรรม โดดหอ ปีนหน้าผา นับว่าเป็นที่พักที่น่าสนใจ ดูเอเซียจึงเก็บภาพมาให้ชมกันค่ะ
เช้าวันที่ 10 ออกเดินทางไปตะลุยฟาร์มเห็ดเมืองปากช่อง ที่เขาใหญ่พาโนรามา ฟาร์ม ฟาร์มเห็ดแนวใหม่ที่ถูกออกแบบอย่างมีสไตล์ เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเข้าชมกรรมวิธีการเพาะเห็ดพันธ์ต่างๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเก็บเห็ดสดๆด้วยตนเองจากในโรงเพาะไปคิดเงินตามราคาตลาดค้าส่งกับซูเปอร์มาร์เก็ต นอกจากนี้ยังมีก้อนเชื้อเห็ดให้ซื้อไปเพาะเองที่บ้าน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกชนิดของเห็ดที่ต้องการ บรรจุในโครงไม้ที่นำไปประดับไว้ตามจุดต่างๆของบ้านที่มีความชื้นได้ เลย
ที่เขาใหญ่พาโนรามา ฟาร์มแห่งนี้ มีการเพาะเห็ดหลากหลายชนิด ทั้งเห็ดพันธ์พื้นๆทั่วๆไป และพันธ์แปลกใหม่หายาก เช่นเห็ดหูหนูดำ เห็ดนางรมฮังการี เห็ดนางนวล เห็ดหลินจื่อ เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดนางรมทอง แต่ที่สะดุดตาดูเอเซียดอทคอมมากๆเลยก็คือ เห็ดนางนวลสีชมพูสด และเห็ดนางรมทอง ที่มีสีเหลืองสด เพราะเป็นเห็ดเพียงไม่กี่ชนิดที่มีสีสันสวยงามแต่สามารถรับประทานได้ไม่มีพิษต่อร่างกาย การเพาะเห็ดของที่นี่เริ่มจากการผลิตก้อนหัวเชื้อ โดยการบรรจุลงในถูกพลาสติกอัดเป็นก้อนทรงกระบอก แล้วนำไปอบไอน้ำที่อุณหภูมิ 100 องศาเป็นเวลา 3 ชั่วโมงแล้วนำออกมาตั้งทิ้งไว้ให้เชื้อเดินไปทั่วทั้งก้อนใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก่อนจะนำไปเพาะในโรงเพาะ เห็ดซึ่งเป็นระบบปิด มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศตลอดเวลาเพื่อเร่งผลผลิต และป้องกันเห็ดจากศัตรูตัวร้ายคือเชื้อราและแมลงต่างๆ ทำให้เห็ดของที่นี่เจริญเติบโตดี เนื้อหนาอิ่มแน่น มีรสหวานตามธรรมชาติ
บริเวณด้านหน้าฟาร์ม ยังเปิดร้านอาหาร ทางร้านได้จัดอาหารสุขภาพอร่อยๆหลากหลายเมนู ที่ปรุงจากเห็ด มาให้ลองชิมเช่น ฟรายเห็ด(เห็ดชุปแป้งทอด) เห็ดเป๋าฮื้อย่าง รสชาติคล้ายปลาหมึกย่าง หนุบหนับแต่ไม่เหนียวเคี้ยวขาดสบายๆ ขนมจีนกับแกงเขียวหวานเห็ด ข้าวปลาทอด กับยำเห็ด นอกจากนี้ “ปรเมศวร์ สิทธิวงศ์” เจ้าของฟาร์ม ยังมีโครงการสร้างรีสอร์ทบนพื้นที่ติดกับฟาร์มเห็ดแห่งนี้อีกด้วย
จากนั้น คณะของเราได้เดินทางไปที่ โรแมนติค เขาใหญ่ รีสอร์ท โรงแรมเปิดใหม่ของเมืองปากช่อง เขาใหญ่ ตั้งอยู่ติดถนนธนรัชต์ ห่างจาก Greenery และ Palio เพียง 1 กม. โรแมนติค เขาใหญ่ รีสอร์ทเป็นโรงแรมหรูระดับ 4 ดาว มีห้องให้บริการประมาณ 130 ห้อง ปัจจุบันการก่อสร้างปรับปรุงภูมิทัศน์เสร็จสมบูรณ์แล้ว ตรงกลางเป็นสระว่ายน้ำประดับตกแต่งด้วยรูปั้นช้างพ่นน้ำ รายล้อมด้วยอาคารโรงแรมขนาด 4 ชั้น ราคาห้องพักประมาณ 3000-5000 บาทหลังจากเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ สัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของจังหวัดนครราชสีมาอย่างจุใจแล้ว ดูเอเซียก็เดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานครด้วยความอิ่มเอมใจกับมิตรภาพของชุมชน ที่ให้การต้อนรับเราอย่างอบอุ่น ดูเอเซียดอทคอม ขอขอบคุณพี่ๆ ททท สำนักงานภาคอิสาน ที่อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง มา ณ ที่นี้
