ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านเขากลม

0

ในยุคที่ข้าวยากหมากแพงราคาน้ำมันแพงดุจราคาทองคำในปัจจุบันนี้ การดำเนินชีวิตที่ต้นทุนสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอยู่ในเมืองหลวงด้วยแล้วยิ่งลำบากไปใหญ่ การดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงจึงเป็นที่ทางออกที่ดีสุดที่จะทำให้ชีวิตดำเนินอยู่ได้อย่างมีความสุข อย่างพอเพียง ปัจจุบันจึงมีศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเกิดขึ้นมากมาย แต่วันนี้เราขอพาเพื่อนๆ มาชมศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงบ้านเขากลม จังหวัดกระบี่เพื่อให้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง

baankhaokom (3)
ผักไฮโซ
baankhaokom (1) baankhaokom (2)

ความเป็นมาศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านเขากลม

            ปี 2542ปราชญ์สงวนได้เห็นความสำคัญของการอยู่ร่วมกันของคนในชุมชน เนื่องจากช่วงเวลานั้นคนในชุมชนบ้านเขากลม ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ดำเนินชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่ กระจัดกระจาย ถึงแม้ว่าจะเป็นเครือญาติกันก็ตาม ไม่เห็นความสำคัญของกันและกัน ทำให้ปราชญ์สงวนเกิดความคิดในการจัดตั้งกลุ่มขึ้นเพื่อสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน ประกอบกับหน่วยงานของรัฐได้ให้การสนับสนุนในด้านนี้ด้วยและ จากการสำรวจคนในชุมชนพบว่าส่วนใหญ่มีการเลี้ยงแพะกัน จึงได้จัดตั้งกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ ต.หนองทะเลขึ้น

ปี 2543ปราชญ์สงวนได้เป็นประธานจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต และกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งมีหน่วยงานของรัฐเข้ามาให้การสนับสนุนในเรื่องของความรู้ในด้านการดำเนินการของกลุ่ม เพื่อให้คนในชุมชนมีความเข้มแข็งด้านเงินทุนชุมชน สามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งในปี 2552 กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต มีสมาชิกทั้งสิ้น 425 คน มีคณะกรรมการ 5 คน มีเงินสัจจะสะสม 1,498,090 บาทส่วนกองทุนหมู่บ้าน มีสมาชิก 104 คน เงินกองทุนหมู่บ้าน 1,000,000 บาท เงินเพิ่มทุน 100,000 บาท และเงินสัจจะสะสม 125,619.26บาท

baankhaokom (15) baankhaokom (16) baankhaokom (17) baankhaokom (19) baankhaokom (20) baankhaokom (22)

          ปี 2544-2548ปราชญ์สงวนได้เป็นผู้นำในการจัดตั้งกลุ่มต่างๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์  ความสามัคคี ที่เริ่มปรากฏขึ้นในชุมชนเรื่อยๆ  อีกทั้งยังได้พัฒนากลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ ต.หนองทะเล  เป็นธนาคารแพะ เมื่อวันที่  20  สิงหาคม  2544  และต่อมาในวันที่ 31 มีนาคม 2546 ได้จัดตั้งเป็นนิติบุคคล ชื่อ “กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์และพืชผลตำบลหนองทะเล” ในปี 2552          มีสมาชิก 55 คนสมาชิกสมทบ 295 คน และเริ่มเก็บเกี่ยวความรู้ คิดค้นหา วิธีการด้านเกษตรกรรม เพื่อให้เกิดการทำงานที่ครบวงจร ไม่สูญเปล่า ใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นและพื้นที่ที่มีอยู่ปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้คนในชุมชนและบุคคลภายนอกที่มีความสนใจ สามารถมาศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ซึ่งในปัจจุบันมีองค์ความรู้ที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและสามารถถ่ายทอดให้แก่ผู้ที่มาศึกษาดูงานได้   ทั้งจากการคิดค้นและสร้างสรรค์เอง จากที่ได้รับถ่ายทอดจากคนรุ่นก่อนๆ(ภูมิปัญญาไทย) จากแนวคิดของหน่วยงานภาครัฐที่มาส่งเสริมสนับสนุนด้านวิชาการ และจากการศึกษาดูงานจากองค์ความรู้แหล่งอื่นๆ  จนทำให้ได้รับรางวัลมากมาย เช่น เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ปี 2548 สาขาปศุสัตว์ เป็นต้น

baankhaokom (21)baankhaokom (23)baankhaokombaankhaokom (5) baankhaokom (6) baankhaokom (18)

          ปี 2549ได้นำ“ศูนย์บริการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรประจำตำบลหนองทะเล”มาดำเนินการที่บ้านและถ่ายทอดความรู้มาจนถึงปัจจุบัน และได้รับรางวัล ศูนย์บริการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรประจำตำบล ดีเด่น ระดับภาค นอกจากนี้ได้จัดตั้ง ศูนย์เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้าน ชื่อ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านเขากลมเปิดให้คนในชุมชนและบุคคลภายนอกที่สนใจเข้าอบรมตามหลักสูตรการพัฒนาการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง  ปราชญ์สงวนได้ใช้องค์ความรู้ที่ตนได้รวบรวมไว้ทั้งหมด  14  เรื่อง มาเป็นหลักสูตรในการถ่ายทอด จากเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ปรากฏว่ามีบุคคลที่สนใจมาศึกษาดูงานและเข้ารับการอบรมจำนวน  29,650 คน

           ปี  2550 -2552  ปราชญ์สงวนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของปราชญ์ชาวบ้านทั้งประเทศ ที่ได้เข้าเฝ้า หลังจากวันนั้นปราชญ์สงวนได้ตระหนักอยู่เสมอว่า การที่เราได้มีโอกาสให้ไม่ว่าจะเป็นการให้อะไรก็แล้วแต่  เวลาที่เราให้  ควรให้ในสิ่งที่ถูกต้อง  เต็มที่ และมีความสุขที่จะให้  และภารกิจที่สำคัญที่สุด  คือการปฏิบัติคุณงามความดีต่อผู้อื่น ปราชญ์สงวนเล่าว่า เมื่อมีคนมาดูงานหรืออบรมนั้นตนเองจะไม่คิดเลยว่า ตนเองจะได้อะไรจากผู้มาดูงานหรืออบรม แต่จะนึกเสมอว่าผู้มาดูงานหรืออบรมจะได้อะไรจากตนเอง 

 

ประวัติ ปราชญ์สงวน
นายสงวน  มงคลศรีพันเลิศ
เกิดเมื่อวันที่  20  สิงหาคม  2502    อายุ  50  ปี 

baankhaokom (24) baankhaokom (4)
วิทยาการในวันนี้ลุง โสภณ น้องชายของปราชญ์สงวน

ในช่วงการของการดำเนินชีวิตที่ผ่านมา ปราชญ์สงวนเคยคิดอยากจะรวยจึงมุ่งหน้าสู่บริษัทเอกชน ไปเป็น“มนุษย์เงินเดือน”ตอนนั้นได้รับเงินเดือนประมาณ 28,000 บาท ปราชญ์สงวนมีความเห็นว่า “ถูกตีกรอบจนเกินไป จึงทำให้ชีวิตตีกรอบไปด้วย” เหตุผลคือเงินเดือนและเงินในบัญชีไม่เหลือสักบาทในแต่ละเดือน ปราชญ์สงวนจึงคิดถึงคำสอนของพ่อหลวง ซึ่งปราชญ์เรียกว่าพ่อ ด้วยคำสอนที่ให้ไว้ว่า “ให้คิดถึงเรื่องกิน ก่อนเรื่องเงิน”และทำให้ตัดสินใจเริ่มต้นการทำมาหากินแบบเกษตรกรบนพื้นที่ 8 ไร่หลังจากมาทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่
           นับจากปี 2550 เป็นต้นมา ปราชญ์สงวนได้ดำเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงปราชญ์สงวนบอกว่า สิ่งที่ทำให้หันมาปฏิบัติตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คือ  พระบรม-ราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ   ที่ได้ประทานให้พสกนิกรชาวไทย ซึ่งเน้นการพึ่งตนเอง  เลือกมีกิน  ก่อนมีเงิน  โดยการประกอบอาชีพ ยึดความจริง, ความเหมาะสม, ความรู้, ความไว และสถานที่  ในการประกอบอาชีพโดยการทำเกษตรแบบครบวงจร ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม  ให้ธรรมชาติเกื้อกูลกันเอง  ที่สำคัญที่สุด ทุกกระบวนการของการทำการเกษตรที่ครบวงจรสามารถกำหนดราคาเองได้  เพราะทุกวันนี้ คนจำนวนมากฝากชีวิตไว้กับคนอื่นหมดแล้ว  ท้องหิวก็ฝากไว้กับร้านค้า, ความรู้ฝากไว้กับสถาบันการศึกษา, ผลผลิตฝากไว้กับพ่อค้าและสุขภาพก็ฝากไว้กับหมอ 

          หลังจากนำเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้  ปราชญ์สงวนมีรายได้เดือนแรกจากการทำเกษตรเพียง  900 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้เมื่อยังทำงานในโรงงานก็ทำให้ปราชญ์สงวนรู้สึกใจหาย แต่เมื่อพบว่าเงินในบัญชีครัวเรือนยังมีเหลือ 300 บาท และด้วยความที่ยึดมั่นว่าพ่อ (พ่อหลวง) คงไม่หลอกลูกแน่ ทำให้ปราชญ์สงวน ได้ยึดมั่นและเดินตามรอยเท้าพ่อมาโดยตลอด ส่งผลให้ครอบครัวมีความอบอุ่น เป็นครอบครัวจริงๆ “ไม่ใช่ครัวครอบ” เหมือนดังที่ผ่านมาซึ่งได้ดำเนินชีวิตแบบมนุษย์เงินเดือนเชิงเดี่ยว

baankhaokom (9) baankhaokom (10) baankhaokom (11) baankhaokom (13) baankhaokom (7) baankhaokom (8)

ผลงานที่ได้รับเชิดชูเกียรติ
1. ผู้นำอาชีพก้าวหน้าระดับจังหวัดปี 2546
2. เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ  สาขาอาชีพเลี้ยงสัตว์ปี 2548
3. เกษตรกรเลี้ยงสัตว์ดีเด่นอันดับที่ 1 ระดับสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 8 ปี 2548
4.ได้รับคัดเลือกเป็น “คนดีเพื่อสังคม”ระดับอำเภอและระดับเขต ปี 2548
5. เป็น“ผู้ทำคุณประโยชน์เพื่อแผ่นดิน”ปี 2549
6. เป็น“ผู้ทำคุณประโยชน์เพื่อชุมชน”ปี2549
7.ได้รับการคัดเลือกเป็น “ปราชญ์ชาวบ้าน”เมื่อปี 2549
8. ได้รับโล่รางวัลพระราชทาน รางวัลผู้นำชุมชน องค์กรเครือข่ายพัฒนาชุมชนดีเด่นและหมู่บ้านเขียวขจีดีเด่น ประจำปี 2550
9. รับรางวัลการประกวดผลงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้านประชาชนทั่วไป  ปี 2550
10.ได้รับเกียรติบัตร “นำบัญชีไปพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน”    ปี 2550
11.ได้รับรางวัลชนะเลิศ การคัดเลือกกิจกรรมส่งเสริมการเกษตร  เกษตรกรสาขาอาชีพไร่นาสวนผสม ปี 2550
12. ผู้นำ “การดำรงชีวิตเศรษฐกิจพอเพียงดีเด่น”ปี 2550
13. เป็นผู้มีผลงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงดีเด่นจังหวัดกระบี่  ด้านประชาชนทั่วไป ปี 2550
14.ได้รับรางวัลศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร ชนะเลิศอันดับ 1  ระดับจังหวัดปี 2550
15. รางวัลเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ปี 2551
16. ได้รับรางวัล 76 คนดี แทนคุณแผ่นดิน ปี 2552
17. ชนะเลิศระดับประเทศ รางวัลมีชัย วีระไวทยะ ปี 2552

สำหรับทริปนี้ดูเอเซียพาก็ได้มาชมศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านเขากลม แต่น่าเสียดายที่วันนี้เราไม่ได้เจอปราชสงวน เจ้าของและผู้ก่อตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านเขากลมแห่งนี้ เนื่องจากปราชญ์สงวน ติดภารกิจในการให้ความรู้แก่ชาวบ้านในที่ต่างๆ วันนี้เราจึงได้เจอน้องชายของปราชญ์สงวนมาเป็นวิทยากรผู้ให้ความรู้กับพวกเราแทน ดูเอเซียก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์และเป็นแนวทาง เป็นแรงบัลดาลใจให้กับเพื่อนๆหลายๆคนนำไปปฏิบัติ ประยุคใช้ให้เหมาะสมกันตนเอง เพื่อดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมที่วุ่นวายได้อย่างพอเพียงสบายใจ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว..ต่อไป

ขอบคุณขอมูลจาก http://wisdom.stkc.go.th
map

เชิญแสดงความคิดเห็น