ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่สุดหนาวในสยาม อุทยานแห่งชาติภูเรือ เลย
เมืองไทยเนานั้นถือว่ามีธรรมชาติที่สวยงามสมบูรณ์อยู่ทั่วทุกภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นเหนือกลาง อีสานหรือใต้ไม่ว่าจะเดินทางไปภาคใดเราก็สามารถเสาะแสวงหาสถานที่พักผ่อนได้แบบไม่ยาก ทริป นี้เราพามาเยือนถิ่นอีสานเหนือ ในดินแดนที่ชื่อว่า เมืองแห่งทะเลภูเขา และสุดหนาวในสยาม ที่อุทยานแห่งชาติ ภูเรือ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทยในการต้อนรับลมหนาวในแต่ละปี เมื่อย่างเขาสู่หนาว อุทยานที่เคยเงียบสงบเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและสีสันของการท่องเที่ยวแห่งเมืองภูเรือ ที่คอยต้อนรับนักเดินทางทุกท่านสู่อ้อมกอดแห่งขุนเขา ธรรมชาติ และความหนาว
อุทยานแห่งชาติภูเรือ มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอภูเรือและอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ด้านทิศเหนืออยู่ติดกับประเทศลาว อุทยานแห่งชาติภูเรือมีรูปร่างลักษณะเหมือนเรือใหญ่บนยอดดอยสูงเป็นภูผาสีสันสะดุดตาหินบางก้อนมีลักษณะเหมือนถูกปั้นแต่งไว้ ชาวบ้านเรียกว่า กว้านสมอ โดยรอบๆ จะเห็นยอดดอยเป็นขุนเขาน้อยใหญ่ใกล้เคียงมากมายซึ่งเรามักมองเห็นเป็นฝ้าขาวด้วยละอองน้ำ หมอก ปกคลุมไว้ท่ามกลางป่าอันอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 120.84 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ป่าภูเรือประกอบด้วยทิวเขาสูง สลับซับซ้อนเรียงรายเป็นรูปต่างๆ น่าพิศวงสลับกับที่ราบเป็นบางส่วน สาเหตุที่ขนานนามว่า ภูเรือ เพราะมีภูเขาลูกหนึ่งมีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายสำเภาใหญ่ และที่ราบบนยอดเขามีลักษณะคล้ายท้องเรือตลอดจนมีธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงามติดอันดับต้น ๆของเมืองไทย
มีลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อนเป็น เขาหินทรายซะเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นเป็นหินแกรนิตสลับกันไป ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้มีที่ราบสูงสลับกับ ยอดเขาสูงอยู่ทั่วไป ยอดเขาสูงที่สุดคือ ยอดภูเรือซึ่งมีความสูงถึง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางเลยทีเดียว และยังมียอดเขาที่สำคัญ คือ ยอดเขาภูสัน ซึ่งมีความสูง 1,035 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และยอดภูกุ มีความสูงประมาณ 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้อุทยานแห่งชาติเป็นแหล่งต้นที่สำคัญของพื้นที่ในหลายอำเภอของเมืองเลยและจังหวัดใกล้เคียง ก่อให้เกิดลำธารหลายสาย เช่น ห้วยน้ำด่าน ห้วยบง ห้วยเถียงนา ห้วยทรายขาว ห้วยติ้ว และห้วยไผ่ ซึ่งเป็นสายน้ำที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต
อุทยานแห่งชาติภูเรือถือว่าเป็นสถานทีรับลมหนาวที่ได้รสชาติอีกที่หนึ่งเพราะเป็นดินแดนที่มีความหนาวเย็นติดอันดับต้น ๆของเมืองไทยเรา และที่สำคัญเป็นสถานที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นยามรับอรุณที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าแสงสีแดงเริ่มส่องใส่แนวขุนเขาที่เรียงรายยาวกันไปจนถึงเมืองลาวนั้น เป็นภาพราวกับเส้นขอบฟ้าได้แบ่งกั้นระหว่างเส้นพื้นที่ราบ แนวเทือกเขา และเส้นขอบฟ้าให้ออกจากกันอย่างชัดเจน ก่อนที่ทุกเส้นที่ถูกแบ่งกั้นจะมาหลอมรวมกันเป็นหนึ่งในยามที่ดวงอาทิตย์ที่แดงฉาดได้เริ่มโพล่ขึ้นมาอวดแสงสีทองอย่างเต็มตัวและเริ่มสาดแสงแห่งไออุ่นสู่สิ่งมีชีวิตที่ตื่นขึ้นมาสู่วันใหม่แห่งชีวิต ซึ่งภาพบรรยากาศนั้นทำให้เราประทับใจและคงต้องจดจำไว้ในความทรงจำตลอดไปอย่างแน่นอน กับความงามของธรรมชาติที่มนุษย์ไม่ได้เป็นคนแต่งแต้ม แต่ธรรมชาติเป็นผู้ที่แต่งแต้มให้เราได้ชม
และมีอีกสิ่งหนึ่งที่พิเศษ ที่อยู่คู่กับอุทยานแห่งชาติภูเรือ คือหินหน้าตา รูปร่างแปลกๆ ให้เราได้ชมกันตั้งแต่ตอนระหว่างทางขับรถขึ้นภูเรือ จนมาถึงยอดภูเรือเลยที่เดียว ซึ่งจากตำนานได้เล่ากันมาว่า เมื่อประมาณ 400 ล้านปีที่ผ่านมาพื้นที่บริเวณนี้ เคยเป็นทะเลมาก่อน ต่อมามีการยกตัวเป็นที่ราบสูงอีสาน จึงทำให้ที่บริเวณนี้ประกอบด้วยหินทรายเป็นส่วนใหญ่ ด้วยแรงน้ำฝน แรงลม ได้กัดกร่อนส่วนที่อ่อนออกไป ทำให้ส่วนที่เหลืออยู่จึงกลายเป็นรูปหินในรูปร่างต่างๆ มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งมีทั้งรูปหินพระศิวะ รูปหินเต่า ฯลฯ
ด้วยอุทยานแห่งชาติภูเรืออยู่ที่จังหวัดเลย ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศไทย และอยู่บนยอดเขาสูง จึงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้านั้นจะแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งภาษาพื้นเมืองเค้าเรียกว่า “แม่คะนิ้ง” ช่วงเดือนที่เหมาะที่จะมาเที่ยวคือเดือนตุลาคม-มีนาคมนักเดินทางผู้ที่จะไปพักผ่อนควรเตรียมตัวให้พร้อมที่จะผจญกับความหนาวเย็น ให้พร้อมเนื่องจากไม่ใช่แค่บนยอดภูที่หนาวเย็นแล้ว บริเวณเขต อ.ภูเรือ ก็ยังหนาวเย็นไม่แพ้บนภูกันเลยที่เดียว
ภูเรือ มีสภาพป่าหลายชนิดปะปนกันอย่างสวยงาม ทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดงดิบ ป่าสนเขา โดยเฉพาะยอดภูเรือ ประกอบด้วยป่าสนเขา สลับกับสวนหินธรรมชาติแซมด้วยพุ่มไม้เตี้ย สลับด้วยทุ่งหญ้าเป็นระยะ ไม้พื้นล่างที่พบโดยทั่วไป ได้แก่ กุหลาบป่า มอส เฟิน และกล้วยไม้ที่สวยงาม เช่น ม้าวิ่ง สามปอย ไอยเรศ เอื้องคำ เอื้องผึ้ง เอื้องเงิน ซึ่งขึ้นตามต้นไม้และโขดหิน กล้วยไม้เหล่านี้จะออกดอกบานสะพรั่งให้ชมสลับกันไปตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ป่าภูเรือยังมีสัตว์ป่าที่ชุกชุมพอสมควร ที่พบบ่อย เช่น หมี เก้ง กวางป่า หมูป่า หมาไน ลิง พญากระรอกดำ ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ป่า และชุกชุมไปด้วยกระต่ายป่า เต่าเดือย เต่าปูลูและนกชนิดต่างๆ ที่สวยงามอีกมากมาย โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะอพยพมาจากประเทศจีนเป็นจำนวนมาก
อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตั้งอยู่ที่ ต.หนองบัว อ. ภูเรือ จ. เลย 42160. โทรศัพท์ 0-4280-7624, 0-4280-7625,0-4280-1716 โทรสาร 0-4289-9320 อีเมล phuruea_np8@hotmail.com การเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติภูเรือ ก็ไม่ยากเลยศึกษาเส้นทางจากทางเราได้เลย
1.รถยนต์
อุทยานแห่งชาติภูเรือ อยู่ห่างจากจังหวัดเลย ประมาณ 48 กิโลเมตร โดยเดินทางไปได้ 2 เส้นทางคือ ถนนภายในอุทยานแห่งชาติเป็นถนนลาดยาง เป็นถนนบนภูเขา บางช่วงมีความลาดชัน
เส้นทางที่ 1 : จากกรุงเทพฯ ( ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ) ใช้ถนนพหลโยธิน ( ทางหลวงหมายเลข 1 ) มุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรี ประมาณ 75 กิโลเมตร จะถึงตัวเมืองสระบุรี จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดลพบุรี ประมาณ 16 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาไปทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ( ทางหลวงหมายเลข 21 ) แล้วขับตรงไป ประมาณ 146 กิโลเมตร จะพบสี่แยก ( แยกซ้ายไปจังหวัดนครสวรรค์ ถนนหมายเลข 225 แยกขวาไปจังหวัดชัยภูมิ ตรงไปจะไปจังหวัดเพชรบูรณ์ ) ให้ท่านขับตรงไป ประมาณ 76 กิโลเมตร จะถึงตัวเมืองเพชรบูรณ์ จากตัวเมืองเพชรบูรณ์ให้ท่านขับตรงไปมุ่งหน้าสู่อำเภอหล่มสัก ประมาณ 47.4 กิโลเมตร จะถึงตัวอำเภอหล่มสัก พอถึงตัวอำเภอหล่มสักให้ท่านเลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอภูเรือ จังหวัดเลย จากนั้นขับตรงไป 76.6 กิโลเมตร ( ใน 76.6 กิโลเมตรนี้ จะมีอยู่ประมาณ 41 กิโลเมตร จะพบเส้นทางที่เป็นทางลัดเลาะตามไหล่เขา เป็นทางโค้ง ขึ้นเขาบ้าง ลงเขาบ้าง ความเร็วช่วงนี้ทำได้ระหว่าง 60 – 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรืออาจมากกว่านี้นิดหน่อย ขึ้นกับความสามารถในการขับรถของท่าน สำหรับคนที่ชำนาญอาจทำความเร็วได้ถึง 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง จากนั้นให้เลี้ยวขวามือไปทางอำเภอภูเรือ ( ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นเส้นทางไปอำเภอด่านซ้าย )
… จากแยกซ้ายไปนครสวรรค์ – ตัวเมืองเพชรบูรณ์ 76 กม.
… จากแยกซ้ายไปนครสวรรค์ – แยกซ้ายไปเขาค้อ ( ถนนหมายเลข 2258 ) 90.2 กม.
… จากแยกซ้ายไปนครสวรรค์ – แยกขวาไปน้ำหนาว ( ถนนหมายเลข 12 ) 115.9 กม.
… จากแยกซ้ายไปนครสวรรค์ – แยกซ้ายไปภูเรือ ( ถนนหมายเลข 203 ) 123.4 กม.
เมื่อท่านเลี้ยวขวามือไปทางอำเภอภูเรือเรียบร้อยแล้ว ให้ขับตรงไปประมาณ 9.4 กิโลเมตร ( ถ้าเลี้ยวขวาตรงนี้จะเป็นเส้นทางไปเกษตรที่สูงภูเรือ ) ไม่ต้องเลี้ยว ให้ขับตรงไปอีกประมาณ 8.3 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าอุทยานแห่งชาติภูเรือ จากนั้นขับตรงไปประมาณ 1.65 กิโลเมตร จะถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียม จากด่านเก็บค่าธรรมเนียมให้ขับตรงไป ประมาณ 2.2 กิโลเมตร ก็จะถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือของท่าน ให้ท่านลงมาติดต่อเกี่ยวกับเรื่องที่พัก สถานที่กางเต็นท์ และจ่ายค่าธรรมเนียมในการพักแรม หรือว่าจะสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ได้จากที่นี่นะครับ ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน สถานที่ดูพระอาทิตย์ตกดิน สถานที่ดูพระอาทิตย์ขึ้น และจุดชมทะเลหมอก และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในอุทยาน ฯ
เส้นทางที่ 2 : จากกรุงเทพฯ ( ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ) ใช้ถนนพหลโยธิน ( ทางหลวงหมายเลข 1 ) มุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรี ประมาณ 75 กิโลเมตร จะถึงตัวเมืองสระบุรี เมื่อถึงตัวเมืองสระบุรีแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 89 กิโลเมตร จะถึงทางเข้าเขื่อนลำตะคอง ถ้าเลี้ยวซ้ายท่านจะเข้าไปยังตัวเขื่อน ไม่ต้องเลี้ยว ให้ขับตรงไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร จะพบกับป้ายบอกทางถนนสาย 201 กับ ถนนสาย 24 ( ที่ป้ายเขาจะเขียนว่า อำเภอโชคชัย ) ให้เลี้ยวซ้ายไปทางถนนสาย 201 จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดชัยภูมิ ประมาณ 132 กิโลเมตร ก็จะถึงตัวเมืองชัยภูมิ จากตัวเมืองชัยภูมิให้ท่านใช้ถนนหมายเลข 201 มุ่งหน้าสู่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ประมาณ 97 กิโลเมตร ท่านก็จะถึงแยกชุมแพ ( ถ้าเลี้ยวขวาจะไปจังหวัดขอนแก่น ) ให้ท่านเลี้ยวซ้ายมือ จากนั้นขับตรงไป ประมาณ 12.7 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาไปทางอำเภอภูกระดึง ( ถนนหมายเลข 201 )
เมื่อท่านเลี้ยวขวามือไปทางอำเภอภูกระดึงเรียบร้อยแล้ว ให้ขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดเลย ประมาณ 114 กิโลเมตร ท่านก็จะถึงตัวจังหวัดเลย ( ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นเส้นทางไปแก่งคุดคู้ ) ตรงนี้ให้ท่านเลี้ยวซ้ายมือ ไปทางอำเภอภูเรือ จากนั้นขับตรงไปอีกประมาณ 49.2 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าอุทยานแห่งชาติภูเรือ จากนั้นขับตรงไปประมาณ 1.65 กิโลเมตร จะถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียม จากด่านเก็บค่าธรรมเนียมให้ขับตรงไป ประมาณ 2.2 กิโลเมตร ก็จะถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือของท่าน ให้ท่านลงมาติดต่อเกี่ยวกับเรื่องที่พัก สถานที่กางเต็นท์ และจ่ายค่าธรรมเนียมในการพักแรม หรือว่าจะสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ได้จากที่นี่นะครับ ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน สถานที่ดูพระอาทิตย์ตกดิน สถานที่ดูพระอาทิตย์ขึ้น และจุดชมทะเลหมอก และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในอุทยาน ฯ
2. เครื่องบิน การเดินทางโดยเครื่องบิน
ปัจจุบันสายการบินนกแอร์เปิดบริการบินเส้นทางกรุงเทพฯ-เลย เฉพาะวันศุกร์และวันอาทิตย์ โทร. 1318 www.nokair.co.th หรือสามารถใช้เส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ-อุดรธานี ของบริษัท การบินไทย จำกัด สำนักงานอุดรธานี โทร. 042-243222 สนามบินอุดรธานี โทร. 042-246567 www.thaiairways.com สายการบินแอร์เอเชีย จำกัด โทร.02-5159999 เว็บไซด์ www.airsasia.com จากนั้นต่อรถโดยสารประจำทางหรือเช่ารถจากจังหวัดอุดรธานี ไปจังหวัดเลย
นอกจากอุทยานแห่งชาติภูเรือแล้ว บริเวณใกล้ๆ ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้นักเดิน
ได้ท่องเที่ยวผจญภัยและให้ความเพลิดเพลินในการไปเที่ยวที่ จังหวัดเลย อาทิเช่น เกษตรที่สูงภูเรือ, สวนดอกไม้และพันธ์พืช TSA, น้ำตกสองคอน, น้ำตกปลาบ่า, ร้านขายของฝากชาโต เดอ เลย, ไร่องุ่น, ฯลฯ อีกมากมายเลยที่เดียว เห็นไหมละเมืองไทยไม่ไปไม่รู้นะ หากหนาวนี้นักเดินทางทั้งหลายยังไม่วางแผนการเดินทางท่องเที่ยวที่ไหน ดูเอเซียแนะนำขอให้เดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดเลยได้เลย รับรองว่าไปแล้วคุ้มค่ามากๆ