มอหินขาว “สโตนเฮนจ์ เมืองไทย” มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ

0

mohinkhao

ถ้าจะพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของประเทศไทยกันแล้ว เล่าทั้งวันก็คงไม่หมด อาจจะต้องนั่งคุยกันหลายวันกันเลยทีเดียว เนื่องจากว่าสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของไทยนั้นมีมากมายล้วนแล้วแต่สวยงามแตกต่างกันไป บางที่สวยงามติดระดับโลกกันเลยก็มี สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ก็มีมากมาย โบราณสถานโบราณวัตถุ ที่บางสถานที่ถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลก เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและคนทั้งโลก และสถานที่ที่เรียกว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ที่น่าสนใจและดูเอเซีย.คอมจะพาเพื่อนๆมาสัมผัสกันในวันนี้ก็คือมอหินขาวสิ่งมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จ.ชัยภูมิ

มอหินขาวตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติภูแลนคา เป็นกลุ่มหินขนาดใหญ่จำนวน 3 กลุ่ม โดยจะมีหินทรายก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งเป็นสีขาวและโดดเด่นในพื้นที่ และเป็นที่มาของคำว่า มอหินขาว และในบริเวณยังมีเสาหินขนาดใหญ่จำนวน 5 เสา ตั้งเรียงรายกันเป็นแถว มีความสูงประมาณ 12 เมตร นอกจากนั้นยังมีแท่นหินที่มีรูปร่างคล้ายเรือ เจดีย์ หอเอียงเมืองปิซ่า และคล้ายกระดองเต่า ซึ่งจัดเป็นกลุ่มหินที่ 1 กลุ่มหินที่ 2 อยู่ห่างออกไป แท่นหินจะมีรูปร่างแปลกแตกต่างกันออกไป และเมื่อห่างออกไปอีกประมาณ 1,500 เมตร จะเป็นกลุ่มหินที่ 3 ที่เป็นแท่นหินและเสาหินขนาดเล็ก โดยลาดเอียงขึ้นไปจดหน้าผาที่มีชื่อว่า ผาหัวนาก และบริเวณมอหินขาวยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ

0-(26)

มอหินขาวเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่ถือว่ามีความงดงามทางธรรมชาติไม่แพ้ทุ่งดอกกระเจียวงาม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา บริเวณบ้านวังคำแคน หมู่ 9 ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ

ที่มาของชื่อ มอหินขาว: เดิมพื้นที่แถวนี้เป็นป่า ต่อมาได้มีคนมาบุกเบิกทำไร่ และก็เห็นมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ทั่วไปแต่ ก็ไม่ได้สนใจอะไร  ที่ส่วนใหญ่ใช้ทำไร่มันสำปะหลัง (ในสมัยนั้น) ก็มีก้อนหินใหญ่ขึ้นทั่วไป แต่ที่เห็นว่าแปลกประหลาดมาก ก็คือก้อนหินใหญ่ 5 ก้อน ที่ในทุกคืนวันพระ (15 ค่ำ, 8 ค่ำ) จะมีแสงสีขาวส่องขึ้นมา คนเฒ่าคนแก่สมัยนั้น เลยเรียกที่นี่ว่ามอหินขาว เสาหินและแท่งหิน ที่มอหินขาวส่วนใหญ่เป็นหินทรายสีขาว นอกจากนี้ก็ยังมี หินทรายแป้ง หินโคลน หินทรายสีม่วง ซึ่งสันนิษฐานว่าก้อนหินขนาดยักษ์เหล่านี้มีอายุประมาณ 175-195 ล้านปี และเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนทรายแป้งและดินเหนียว

mohinkhao3_18 mohinkhao_28mohinkhao3_19 mohinkhao3_20 mohinkhao3_25 mohinkhao3_39

กลุ่มหินของมอหินขาวกลุ่มที่โดดเด่นที่สุด คือ กลุ่มหินแรกที่มีเสาหินขนาดใหญ่ 5ต้นเรียงรายกันอยู่ เสาหินเหล่านี้มีความสูงราว 12 เมตร ต้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดต้องใช้คนโอบไม่น้อยกว่า 20 คน

มอหินขาวกลุ่มที่ 2 เหมือนเจดีย์  เหมือนกระดองเต่า ถัดจากกลุ่มหินชุดแรกไปเล็กน้อยจะถึงบริเวณลานกางเต็นท์ มีห้องน้ำบริการจากจุดนี้มีเส้นทางเดินไปยังกลุ่มหินและจุดชมวิว ได้แก่ หินเจดีย์โขลงช้าง ระยะทางเดินเท้า 650 เมตร ลานหินต้นไทร 900 เมตร สวนหินล้านปี 1,250

เมตร และจุดชมวิวผาหัวนาค 2,500 เมตร ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบลุยพักนอนกลางเต็นท์ชมธรรมชาติกลางป่าเขายิ่งนัก แล้วก็มาถึง หินกลุ่มที่ 2 อยู่หาดจากลุ่มแรกประมาณ 500 เมตร เรียกรวมกันว่า”ดงหิน” มีแท่งหินรูปร่างแปลกประหลาดมากมาย มีรูปร่างคล้ายเจดีย์ กระดองเต่ารองเท้าบูท และบรเวณหินกลุ่มนี้เรายังสามารถขึ้นไปชมวิวที่กว้างไกลสุดสายตาของที่นี่ได้

mohinkhao_10

หินกลุ่มที่ 3 คือ อยู่ห่างออกไปอีก 1,500 เมตร เป็นแท่งหินและเสาหินขนาดเล็กกระจายอยู่บนลานหินกว้างโดยลาดเอียงขึ้นไปจดหน้าผา ที่มีชื่อว่า “ผาหัวนาค” หากมาท่องเที่ยวในฤดูฝน นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นประติมากรรมทางธรรมชาติที่สวยงามของเสาหินแล้ว ยังได้พบดอกไม้ป่าที่บ้านสะพรั่งอยู่ทั่วมอหินขาวดูแล้วเป็นภาพที่สวยงามและน่าชมนัก  หากคุณได้เข้ามาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งป่าเขาที่นี่แล้วจะชวนคุณหลงใหลมิรู้ลืม.จน?มอหินขาว? แห่งนี้เคย

ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ของท่านมุ้ย เรื่องพระนเรศวรมหาราช มาแล้ว นี่คืออีกหนึ่งความท้าทายของนักแคมป์ปิ้งไม่ควรพลาดได้มาพิสูจน์กันเชื่อว่าที่นี่จะได้รับความนิยมในบ้านเราในเวลาไม่นานนัก

mor-hin-khao_41 mor-hin-khao_20 mor-hin-khao_35 mor-hin-khao_40

ดูเอเซีย.คอมชวนเพื่อนๆออกมาเที่ยวเมืองไทย ออกไปกอดเมืองไทยให้หายเหนื่อยตามโครงการเที่ยวไทยครึกครื้นเศรษฐ์กิจไทยคึกคักของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ เพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนในการใช้เงินจับจ่ายซื้อของและถือเป็นการท่องเที่ยวแบบได้ประโยชน์อีกทางหนึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐ์กิจของชุมชนได้เป็นอย่างดี

สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา โทร. 044810902-3 หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร.025620760

เชิญแสดงความคิดเห็น