ย้อนรอยพุทธบูชา สืบสานวัฒนธรรมอีสานกับงานประเพณีออกพรรษา ใต้ประทีปโคมไฟและวิถีอีสานที่จังหวัดขอนแก่น

0

ออกพรรษาเป็นวันสิ้นสุดการจำพรรษาของพระภิกษุสงฆ์ที่ ตลอดระยะ เวลา 3 เดือน ในวันนี้พระสงฆ์จะประกอบพิธีสังฆกรรมซึ่งเรียก กันว่า “วันมหาปวารณา” คือเป็นวันที่พระภิกษุทุกรูป จะอนุญาตให้ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ในเรื่องราวเกี่ยวกับความประพฤติต่างๆ และเพื่อให้ศาสนิกชนชาวพุทธทั้งหลายได้ร่วมกันทำบุญในวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาเยือนโลกมนุษย์

เทศบาลนครขอนแก่นได้จัดงานประเพณีออกพรรษา ไต้ประทีปโคมไฟและวิถีอีสาน ระหว่างวันที่  7-13  ตุลาคม  2554  ริมบึงแก่นนคร เพื่อย้อนรอยวัฒนธรรมอีสาน สืบสานตำนานท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดขอนแก่นโดยร่วมกับจังหวัดขอนแก่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานขอนแก่น ชุมชน 90 แห่ง 20 คุ้มวัดในเขตเทศบาล  สถานศึกษาตลอดทั้งหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน  ตลอด  4  วัน   4  คืน   ฟรี  !  ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆมากมาย ได้แก่ ขบวนแห่ประทีปโคมไฟ ขบวนแห่ถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการจัดงานก็ว่าได้

เพราะจะมีพี่น้องประชาชนรอชมขบวนประทีปโคมไฟที่ส่องสว่างงดงาม ขบวนแห่ที่เข้าร่วมการจัดงานในครั้งนี้มีทั้งหมด   14 ขบวน เริ่มขบวนที่บริเวณศาลหลักเมืองและสิ้นสุดที่บึงแก่นนคร ประกอบด้วยขบวนแห่จากชุมชนทั้ง  4  เขตร่วมกับคุ้มวัดในเขตเทศบาล สถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐ-องค์กรต่างๆ แต่งกายด้วยชุดอีสานพื้นเมืองเป็นการสร้างความสามัคคีภายชุมชนในเขตเทศบาล ทั้ง  90  ชุมชน 4 เขต และสืบทอดวัฒธรรมอีสานให้คงอยู่สืบไป พิธีกวนข้าวทิพย์ บุญกวนข้าวทิพย์  เป็นประเพณีเพื่อจัดเตรียมอาหารเลิศรสและมีความประณีตในการจัดเตรียม ซึ่งวัตถุดิบในการกวนข้าวทิพย์ล้วนแล้วแต่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อาทิ เมล็ดถั่วต่างๆ ธัญพืช น้ำตาล  น้ำอ้อย  มะพร้าว  ฯลฯ

โดยมีความเชื่อว่าก่อนวันออกพรรษาเหล่าพุทธบริษัทได้จัดทำขึ้นในวันเปิด โลก   เพื่อให้พุทธบริษัทที่เฝ้ารับเสด็จได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรด้วยอาหารทิพย์ตาม อัตภาพแห่งตน  จึงเรียกการทำบุญนี้ว่า  “  วันตักบาตรเทโวโรหะนะ”  ซึ่งข้าวทิพย์  ถือเป็นอาหารที่มีรสอร่อยคล้ายของทิพย์  เมื่อกวนเสร็จแล้วก็จะแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่มาร่วมงาน  เพื่อระงับโรคภัยไข้เจ็บในร่างกาย  เพราะก่อนประกอบพิธีการจะมีการอันเชิญเทวดามาช่วยอภิบาลรักษาให้เกิดสวัสดิ์ มงคลแก่ผู้ที่ได้รับประทานเข้าไป   จึงถือได้ว่าศักดิ์สิทธิ์ด้วยอำนาจพระปริตรและเทวานุภาพ ฮ้านประทีป เป็นการเตรียมดอกไม้  ธูปเทียนเพื่อบูชาน้ำมันที่ได้มาจากการบีบผลไม้ที่มีกลิ่นหอม คือ  น้ำมันจากเมล็ดหมากบก  เมล็ดหมากเยา   พิธีทางศาสนาและลอยกระทง-ลอยประทีปโคมไฟ โดยนิมนต์พระเถระเจริญพระพุทธมนต์เพื่อเป็นพุทธบูชา

จากนั้นพระสงฆ์จะเดินนำขบวนพาพี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานลอยกระทงและลอย ประทีปบูชา บริเวณท่าน้ำลานเจ้าแม่กวนอิม เพื่อเป็นสิริมงคลในการดำเนินชีวิต กิจกรรมรวมพลคนใจเดียวกัน  กับกิจกรรมงานอดิเรกที่ชื่นชอบ โดยเทศบาลนครขอนแก่น  ได้รับความร่วมมือจากองค์กรภาคเอกชนต่างๆ ซึ่งมีความสนใจในงานอดิเรกร่วมกันจัดซุ้มแสดงสินค้า-นิทรรศการ ได้แก่  เป็นการรวมพลของผู้ที่มีความชื่นชอบกับกิจกรรมงานอดิเรก   ได้มีโอกาสมาพบปะแลกเปลี่ยน  และแสดงโชว์ผลงานของชมรม  ประกอบด้วย  การแสดงโชว์ต้นชวนชม  การทำเวิร์คช็อปสีน้ำมัน  สีอะครีริค  สีชอล์ก  กิจกรรมสำหรับคนรักอ่าน  หนังสั้น  ออฟโรด   บอนไซ  นกกรงหัวจุก  พระเครื่อง  ปลาสวยงาม  พันธุ์ไม้หายาก  ร่มบิน  ดนตรีโฟล๊คซอง  จักรยานล้อเดียว  จักรยานคลาสสิค    ฯลฯ ซึ่งในปีนี้ทางเทศบาลนครขอนแก่น  ร่วมกับเครือข่ายคนรักในงานอดิเรกจัดกิจกรรมเริ่มตั้งแต่วันที่ 7-10  ตุลาคม  2554  ณ  บริเวณลานด้านหน้าโฮงมูนมังขอนแก่น   บึงแก่นนคร และไฮไลท์ของการจัดงาน  คือ  การแสดงแสง  สี  เสียง  เทิดพระเกียรติ ธ  สถิตกลางใจประทีปโคมไฟทั่วหล้า

เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิอดุลยเดช  ทรงมีพระชนมายุครบ  84  พรรษา ในปี  2554  เทศบาลนครขอนแก่นร่วมกับพี่น้องประชาชนทั้ง  4  เขตกว่า  90  ชุมชน  จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในเรื่องราวตอนพระ พุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงเพื่อมาโปรดพุทธบริษัททั้งหลายในโลก มนุษย์ผ่านแสง สี เสียง  ที่สุดอลังการ  ณ  บริเวณเวทีสวนสาธารณะ  200  ปี  บึงแก่นนคร   การแสดงมหรสพ ชมฟรี  !    ทุกคืน   พบกับศิลปิน   วงดนตรีพื้นเมืองและคณะหมอลำลูกทุ่งชื่อดังของภาคอีสานที่มามอบความสนุกสนานเพลิดเพลินทุกวัน

เชิญแสดงความคิดเห็น