ขึ้นชื่อว่านรก – สวรรค์ ก็น่ากลัวอยู่แล้ว และจะมีใครบอกได้บ้างว่าเมื่อตายไปแล้ว จะเป็นยังไง แต่ที่รู้ ๆ และน่าจะเป็นความจริง ก็เห็นจะเป็นทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว หรือทำดีได้ขึ้นสวรรค์ ทำชั่วต้องลงนรก จะเป็นตามนี้หรือเปล่านั้น คงจะไม่มีใครทราบได้
ตัวอย่างผลกรรมของการทำชั่วมีให้เห็นกันมากมาย ในรูปแบบต่าง ๆ บ้างก็คงได้เห็นกันมาเยอะแยะมากมาย เพราะศาสนาต่างก็มุ่งให้คนทำดี ซึ่งศาสนาพุทธในไทยเราก็จะสร้างสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงผลกรรมของการทำชั่ว เช่นที่ดูเอเซียจะนำเสนอในวันนี้
มีวัดจำนวนมากในไทยที่สร้างรูปปั้นเหล่านี้เพื่อสะท้อนจิตใต้สำนึกของคนให้มองเห็นในสิ่งที่จะสะท้อนกลับมาเมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ว่าสิ่งที่ทำนั้นจะได้รับผลกรรมในรูปแบบใด เมื่อกระทำความชั่ว นับเป็นสิ่งที่ดีงามนะครับ เพราะ ปัจจุบันคนทำชั่วกันเยอะขึ้น สิ่งเหล่านี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะสามารถเตือนสติมนุษย์ให้รู้จักบาปบุญคุณโทษกันมากขึ้น เพื่อให้ทำความดีมากกว่าความชั่ว ตามคำสอนของทุกศาสนา
ดูเอเซียขอแนะนำ วัดต้นแบบของไทย “วัดคุ้มครองธรรม” อยู่ที่อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ซึ่งวัดนี้ได้รับคัดเลือกให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น และได้รับเลือกให้เป็นอุทยานการศึกษาในวัด ตามโครงการพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางชุมชน
“วัดคุ้มครองธรรม” ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านคุ้ม ตำบลบ้านกลาง อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หาไม่ยากครับ อยู่เส้นทางเดียวกับอุทยานลิลิตพระลอ แต่จะถึงก่อนอุทยานลิลิตพระลอนะครับ เห็นได้เด่นชัด แต่ระหว่างทางก็จะเห็นป้ายบอกอย่างชัดเจน มุ่งตรงไปตามเส้นทางไปอุทยานลิลิตพระลอ แต่ถามคนที่นี่เค้าก็จะรู้จักกันดี ห่างจากถนนใหญ่เพียงไม่กี่ร้อยเมตรครับ
นำรถเข้ามาจอดในบริเวณวัด แล้วลงมาสูดอากาศดี ๆ ที่ดูแล้วร่มรื่นสุด ๆ ภายในวัดสะอาด สะอ้าน มีไม้ดอกไม้ประดับปลูกเรียงรายไว้อย่างเป็นระเบียบและสวยงาม มีต้นโพธิ์ต้นใหญ่อยู่กลางลานวัด ให้ร่มเงาและความร่มรื่นได้เป็นอย่างดีทีเดียว วัดนี้จัดสรรและแบ่งแยกเป็นสัดส่วนเรื่องราวของศาสนาได้อย่างลงตัว และยังมีโซนในการออกกำลังกายให้แก่คนในหมู่บ้านได้มีสุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้าอีกด้วยมาดูเรื่องราวความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธของวัดคุ้มครองธรรมกันครับ ว่ามีรายละเอียดที่ลึกซึ้งแค่ไหน
ความเป็นมาของพระพุทธรูปปางลีลา
เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์พร้อมด้วยเหล่าเทวดาและพรหมที่ตามมาส่งเสด็จนั้น ขบวนตามเสด็จมาหยุด ณ ประตูสังกัสสนคร เมืองที่พระตรีบุตรจำพรรษาอยู่ พระพุทธองค์ทรงมีพุทธลีลาและพระสิริงดงามยิ่ง ครอบงำรัศมีของเหล่าเทวดาและพรหมทั้งหลาย เป็นภาพที่งดงามเหนือคำบรรยาย เป็นที่ชื่นชมโสมนัสแก่พุทธบริษัทที่เฝ้ารับเสด็จ
หลักสัจธรรม
สถานที่ที่ปัญจวัคคีทั้งห้าได้ฟังธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้าแล้วได้ดวงตาเห็นธรรม คือ ธัมมะจักกัปปะวัตตะนะสูตร
มีการสรุปในสามหัวข้อใหญ่คือ
- ทางที่ไม่ควรดำเนิน 2 ทาง คือ การทรมาน และการหมกมุ่น
- ทางที่ควรดำเนิน 2 ทาง คือ มัชชิมาปฏิปทา หรือ อริยมัคมีองค์ 8
- อริยสัจสี่
เปรต ตอนเป็นคนเคยเอาของหรือกินของของวัดโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ดู ได้ชมกันแล้วคงไม่ค่อยจะกล้าทำบาปกันแล้วซินะครับ และนี่ก็เป็นเครื่องเตือนใจให้คนหันมาทำความดีแทนความชั่วกันมากขึ้น ก็อย่าลืมนะครับทำความดีให้มาก ๆ ความดีจะอยู่กับเราแม้ชีพดับสลาย
ประวัติแม่พระธรณี ครั้งนั้นพญาวัสสะวดีทราบชัดว่าพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้สำเร็จแล้วและทรงเสด็จนั่งแท่นแก้ว ก็คิดริษยาเคียดแค้น จึงเรียกพลเสนามารพร้อมสรรพาวุธขึ้นช้างแล้วเนรมิตมือได้พันมือถืออาวุธ เข้าล้อมเขตบัลลังก์แท่นแก้วของพระพุทธเจ้า บัดนั้นพระพุทธเจ้าแลเห็น จึงระลึกถึงบารมีธรรม 30 ประการ ซึ่งเป็นดุจทหารที่แรงกล้าที่สามารถผจญหมู่มารให้ปราชัยไปโดยสิ้นเชิง พระพุทธเจ้าทรงกล่าวว่าดูกรพญามาร บัลลังก์แก้วนี้เกิดขึ้นด้วยบุญญาธิการของเราที่ได้บำเพ็ญมานับได้สี่อสงขัย แสนมหากัป เราผู้เดียวเท่านั้นสมควรนั่ง พญามารทูลคัดค้านว่า ไม่เป็นความจริง จงหาพยานมารับรองว่าพระองค์ทรงได้บำเพ็ญมาจริงให้ประจักษ์ พระพุทธเจ้าจึงรับสั่งหานางวสุนธราเจ้าแม่ธรณีว่า ดูกรวสุนธรานางจงมาเป็นพยานในการบำเพ็ญบารมีของเราในการบัดนี้ด้วยเถิด ลำดับนั้นนางก็ชำแรกแทรกพื้นปฐพีขึ้นมาปรากฏกาย ประคองอัญชลีถวายอภิวาทพระพุทธเจ้าแล้วประกาศแก่พญามารว่า พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญบารมีมามากมาย ตลอดกาลเหลือที่จะนับประมาณได้ แต่น้ำกรวดที่ข้าพเจ้าเอามารองรับไว้เหนือเศียรเกล้าก็มีมากพอที่จะถือว่าเป็นหลักฐานวินิจฉัยได้ นางกล่าวแล้วก็ประจงหัตถ์ปล่อยมวยผมบีบน้ำกรวดที่สะสมไว้ในอเนกชาติ ให้น้ำหลั่งออกมาดุจทะเลหลวง กระแสน้ำท่วมทับเสนามารทั้งปวงให้จมลงวอดวาย นั้นแล
ตาปะนรกผลกรรมของสัตว์นรก และมนุษย์ที่ตกนรกขุมนี้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่จับเอาสัตว์เป็น ๆ มาปิ้งหรือย่างจับสัตว์ดังกล่าวโยนเข้ากองไฟเล่นเฉย ๆเป็นคนจุดไฟเผาป่า ทำให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในป่าตาย ลักลอบเผาบ้านเผาเรือนของผู้อื่น ทำให้คนที่อาศัยอยู่ในนั้นต้องถูกไฟครอกตายอย่างน่าเวทนา เมื่อหลุดพ้นจากเวรกรรม มาเกิดเป็นมนุษย์ที่มีอายุขัยสั้น เป็นคนขี้โรค เป็นคนอุบาทว์จัญไร ไม่มีใครคบค้าสมาคมไร้ทรัพย์ ขาดคนเมตตาสงสาร
มหาตาปะนรก ผลกรรมของสัตว์นรก และมนุษย์ที่ตกนรกขุมนี้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ เป็นผู้ที่มีจิตใจวิปริตผิดมนุษย์ธรรมดา เป็นราชาหรืออมาตย์ ราชเสนาที่ขาดศีลธรรม ได้จับคนมาแล้วเอาไม้เสียบร่างย่างไฟทั้งเป็น หรือย่างไว้กับแสงแดด แผดเผาด้วยอาการของคนมิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดเป็นชอบเมื่อหลุดพ้นจากบาปกรรม เกิดเป็นมนุษย์เศษของบาปกรรมที่ยังเหลือติดตัวมาก็จะทำให้เกิดเป็นคนรูปชั่ว วิกลจริต เสียหู เสียตาหรือจมูก เป็นง่อยเปลี้ยเสียขามาแต่กำเนิด เป็นคนที่มีโรคภัยไข้เจ็บมารบกวน
อเวจีนรก ผลกรรมของสัตว์นรก และมนุษย์ที่ตกนรกขุมนี้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่เป็นคนที่ทำบาปผิดศีล 5 เป็นอาจิณเป็นพระมหากษัตริย์ มิได้ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมเป็นคนทำร้ายสัตบุรุษ ผู้เจริญด้วยศีลาธิคุณทำอนันตริยกรรม คือฆ่าบิดา มารดา ผู้บังเกิดเกล้าของตัวเอง ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้าให้ถึงอาการที่เรียกว่า ยังพระโลหิตห้อ (ปัจจุบันการลักลอบตัดเศียรพระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพกราบไหว้ของชาวพุทธก็นับเข้าข่ายนี้ด้วย) และทำให้สงฆ์แตกแยกจากกัน แม้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง
โรรุวะนรก ผลกรรมของสัตว์นรก และมนุษย์ที่ตกนรกขุมนี้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่รับเป็นทนายความหรือพยานเท็จชิงเรือกสวนไร่นา บ้านและทรัพย์สินของผู้อื่นมาเป็นของตนชิงเอาที่วัด ข้าวของที่มาถวายสงฆ์มาเป็นของตนโดยไม่ได้รับอนุญาตชิงมาเอง หรือใช้ผู้อื่นชิงของคนอื่นมาเป็นของตนเองเป็นบุรุษและสตรีที่ชอบลักลอบเป็นชู้กับผู้อื่นชอบด่าว่านินทาสมณะชีพราหมณ์เมื่อหลุดพ้นจากบาปกรรม ทำให้เกิดมาเป็นมนุษย์ที่กำพร้าบิดามารดา อนาถา ยากจนเข็ญใจ และไร้ที่อยู่อาศัย
มหาโรรุวะนรก ผลกรรมของสัตว์นรก และมนุษย์ที่ตกนรกขุมนี้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่เป็นคนใจบาปหยาบช้า ชอบทำความเดือดร้อนให้เพื่อนมนุษย์และสัตว์เดรัจฉานมีนิสัยชอบลักขโมย ไม่ทำด้วยตนเองก็ใช้ผู้อื่นทำชอบปล้นทรัพย์ของคนอื่น และฆ่าเจ้าทรัพย์ ไม่ทำด้วยตนเองก็ใช้ผู้อื่นทำเมื่อหลุดพ้นจากบาปกรรม มาเกิดเป็นมนุษย์เศษของบาปกรรมก็มักจะเหลือติดตัวมา ทำให้เป็นคนยากไร้อนาถาอับปัญญา เป็นคนสมองทึบ
กาลสุตตะนรก ผลกรรมของสัตว์นรก และมนุษย์ที่ตกนรกขุมนี้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่เป็นคนเจ้าโทโสโมโหจัดเป็นคนที่ชอบพูดโกหกพกลมเป็นคนที่ชอบจุดไฟทำลายป่าเป็นคนที่ชอบอิจฉาริษยาผู้อื่นเป็นคนที่ชอบด่าว่าพ่อแม่ และด่าว่าสมณะผู้ทรงศีลเมื่อพ้นกรรมแล้วเกิดเป็นคนมักจะอัปจน วิกลจริต
สัญชีวะนรก บาปกรรมที่ทำให้ต้องตกไปในขุมนรกขุมนี้เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ครั้งยังมีชีวิตอยู่เที่ยวปล้นสดมภ์ชอบบุกรุกที่ดินและบ้านเรือนของคนอื่นชอบรุกที่บ้าน ที่ไร่นาและวัดวาอาราม มาเป็นของตนโดยมีชอบเมื่อพ้นจากสัญชีวะนรก หมดบาปหมดกรรมแล้วมาเกิดเป็นมนุษย์ก็มักจะเป็นคนที่มีอายุสั้น เป็นคนขี้โรค ไม่ค่อยมีคนกรุณาสงสาร เป็นคนชั่วช้าสามานย์