ตามรอยเสด็จพระพุทธเจ้าหลวงกับวัดคูหาสวรรค์
วัดคูหาสวรรค์ ชาวบ้านมักจะเรียกกันว่า “วัดคูหาสูง” หรือ “วัดสูง” มากกว่า เพราะบริเวณที่ตั้งวัดอยู่สูงนั่นเองค่ะ และบริเวณวัดคูหาสวรรค์จะมีถ้ำคูหาสวรรค์อยู่บริเวณด้านหลังวิหารเลย บริเวณถ้ำคูหาสวรรค์นี้แหละที่พระมหากษัตริย์หลายพระองค์เคยเสด็จประพาส จะห็นได้ดังพระปรมาภิไธยย่อที่ทรงจารึกไว้ว่า จ.ป.ร.๑๐๘ บริเวณหน้าถ้ำ และเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๐๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถก็เสด็จประพาสถ้ำคูหาสวรรค์แห่งนี้ และยังทรงจารึกพระปรมาภิไธย ภปร.และสก.๑๗.๓.๒๕๐๒ไว้ที่เพิงหน้าถ้ำอีกด้วย เพื่อนๆเข้าไปตอนแรกอาจจะมองไม่เห็น ขอให้เงยหน้าขึ้นไปค่ะ แล้วจะเห็นพระปรมาภิไธยย่อของทั้งสามพระองค์
และสิ่งแรกที่เมื่อเข้าถ้ำไปแล้วทุกคนจะทำคือมองขึ้นไปบนเชิงผาหน้าถ้ำเพื่อหาพระปรมาภิไธยย่อนั่นเอง ถ้ำคูหาสวรรค์นี้จะกว้าง ๑๘ เมตร ยาว ๒๘ เมตร สูงเป็นเวิ้งรูปกรวย ตอนบนจะมีหินงอกคล้ายรูปช้าง ชาวบ้านจึงรียกว่า “ช้างผุด” หรือ หินลับแล พื้นถ้ำปูด้วยอิฐถือปูน มีเจดีย์เล็กๆหนึ่งองค์ มีพระพุทธรูปปูนปั้นและปั้นด้วยดินเหนียวเรียงแถวเป็นระเบียบทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันตก รวม ๓๗ องค์ ปากถ้ำมีหินเป็นชั้นกั้นติดกับหินปากถ้ำ สูงประมาณ ๒ เมตร ชาวบ้านเรียกว่า “หัวทรพี” ตรงข้ามนั้นจะเป็นรูปพระฤาษีตาไฟปูนปั้น นี่แหละค่ะภายในของถ้ำคูหาสวรรค์ แต่ที่มีมนต์ขลังมากที่สุดเห็นจะเป็นพระปรมาภิไธยย่อของทั้งสามพระองค์นั่แหละค่ะ เมื่อเราลงมาจากถ้ำแล้ว ก็เดินสำรวจรอบๆวัดกัน แต่ไมสามารถเข้าไปในอุโบสถได้น่าเสียดายค่ะ เราไปก็เย็นมากแล้ว จะกำลังมีการขนย้ายของภายในอุโบสถด้วย เลยไม่สามารถเข้าได้ ดูเอเซียดอทคอมจึงเก็บบรรยากาศโดยรวมมาให้เพื่อนๆได้ชมกันค่ะ
และปัจจุบันวัดคูหาสวรรค์ได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นพระอารามหลวง เพื่อนๆคนไหนที่อยากไปตามรอยเสด็จพระพุทธเจ้าหลวงกับวัดคูหาสวรรค์สวยๆเหมือนดูเอเซียดอทคอม ก็หาไม่ยากค่ะ วัดคูหาสวรรค์จะตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเชิงเขาหัวแตก ตำบลคูหาสวรรค์ ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดพัทลุงประมาณ ๘๐๐ เมตร รู้ทำเลที่ตั้งพิกัดขนาดนี้แล้ว อย่าพลาดนะคะ
