ทริปนี้ เรา จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวเมืองมะขามหวานจังหวัดเพชรบูรณ์ แต่ไม่ได้มาชิมมะขามหวานอย่างเดี่ยวนะครับ เราพามาสักการบูชา พระครูวิชิตพัชราจารย์ หรือหลวงพ่อทบ ที่วัดช้างเผือก ซึ่งเป็นสถานที่เก็บสังขารของหลวงพ่อที่ไม่เน่าเปื่อยเอาไว้ นับเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีพลังจิตแก่กล้าเหนือธรรมชาติ อีกท่านหนึ่งที่เชื่อกันว่าท่านได้บรรลุธหรรมชั้นสูง จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์อีกรูปหนึ่ง มีผู้ให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใสกันอย่างกว้างขวาง แม้ว่าท่านจะมรณภาพแล้ว แต่สรีระร่างกายของหลวงพ่อท่านไม่เน่าเปื่อยแต่ประการใดจนถึงทุกวันนี้ เป็นพระอริยะสงฆ์แห่งลุ่มน้ำป่าสัก ที่พี่น้องชาวเพชรบูรณ์และจังหวัดใกล้เคียง ต่างให้ความเคารพนับถือกันเป็นจำนวนมาก และวัตถุมงคลของหลวงพ่อนั้นถือว่ามีพุทธคุณอย่างมาก ผ่านประสบการณ์การใช้มาแล้วมากมาย จนเป็นที่นิยมของเหล่าผู้คนในวงพระเครื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
หลวงพ่อทบท่านได้ไปจำพรรษา อยู่หลายวัดในจังหวัดเพชรบูรณ์ และเป็นที่รู้จักกันดีคือวัดเชนแดน แต่วัดสุดท้ายที่ท่านมาสร้างจนมรณภาพลง ก็คือวัดช้างเผือก และปัจจุบันเป็นสถานที่เก็บสรีระร่างกายที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อเอาไว้ด้วย วัดช้างเผือกเป็นวัดเก่าแก่มีอายุกว่า 300 ปี สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัย กรุงศรีอยุธยา พบหลักฐานคือโบราณสถานซึ่งเป็นซากปรักหักพังของโบสถ์เก่าภายในวัดช้างเผือกแห่งนี้ ขุดพบเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2547 สันนิษฐานอายุประมาณ 300 ปี และมีการบูรณะตกแต่งด้วยการสร้างพระพุทธรูปปางประทานพรไว้ตรงกลางอย่างสวยงาม และด้านข้างมีหมู่เจดีย์เก่าอยู่หลายองค์ นับว่าเป็นวัดที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเพชรบูรณ์
หลวงพ่อทบท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.2424 ณ บ้านหัวลม ตำบลนายม เพชรบูรณ์ บวชเณรตั้งแต่ พ.ศ.2440 ที่วัดช้างเผือก และอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2445 หลวงพ่อทบเป็นพระนักปฏิบัติที่เคร่งในธรรมเป็นอย่างมาก หลังจากที่อุปสมบทได้ไม่นาน ท่านก็ออกธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ มากมาย หลังจากนั้นท่านก็กลับมาจำพรรษาอยู่หลายที่ในเพชรบูรณ์ อาทิ วัดศิลาโมง วัดเสาธงทองเจริญธรรม วัดเกาะแก้ว วัดสว่างอรุณ วัดพระพุทธบาทเขาน้อย และวัดช้างเผือก เป็นต้น นอกจากนั้นทุกวัดที่หลวงพ่อทบท่านจำพรรษาอยู่ท่านจะบูรณะปฏิสังขรณ์ จนวัดมีความเจริญรุ่งเรืองแทบทุกวัด หลวงพ่อทบท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีทั้งเมตตาจิตและเมตตาธรรม พร้อมกับเคร่งครัดในการปฏิบัติธรรมเป็นกิจวัตร ทำให้ประชาชนทั้งในจังหวัดเพชรบูรณ์และอีกหลายจังหวัดในลุ่มน้ำป่าสักต่างให้ความเคารพศรัทธากันอย่างกว้างขวาง หลวงพ่อทบท่านมรณภาพในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2519 ปัจจุบันสังขารของหลวงพ่อทบยังเก็บรักษาไว้ในโลงแก้วภายในมณฑปตามเจตนาของท่าน และมีประชาชนมามนัสการเป็นประจำอย่างไม่ขาดสาย เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งของเมืองไทยครับ
หลวงพ่อทบนอกจากท่านเป็นพระที่เคร่งในธรรมแล้วท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีวิทยาอาคมที่แก่กล้าอีกท่านหนึ่ง ซึ่งวัตถุมงคลของหลวงพ่อนั้น มีพุทธคุณในหลาย ๆด้านโดยเฉพาะเรื่องคงกระพันชาตรี เป็นวัตถุมงคลที่มีประสบการณ์อิทธิปาฏิหารย์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป นักสะสมพระเครื่องต้องรู้จักอย่างแน่นอนครับ โดยเฉพาะวัตถุมงคลในยุคแรก ๆ ค่าเช่าบูชานั้นสูงพอสมควร และค่อนข้างหายากครับ วัตถุมงคลของหลวงพ่อทบนั้นมีการสร้างมากมายหลายรุ่น แต่รุ่นที่เป็นที่นิยม ก็จะมีเช่น ตะกรุดโทน รูปหล่อรุ่นแรก รูปหล่อหน้าฝรั่ง เหรียญรุ่นแรก เป็นต้น แต่ละรุ่นล้วนแล้วแต่มีพุทธคุณสูงและราคาเช่าบูชานั้นไม่ต้องพูดถึงครับ
บริเวณทางเข้าไปวัดช้างเผือกเราจะมองเห็นช้างเผือกตัวใหญ่ยืนเด่นเป็นสง่าเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตู จากประตูทางเข้าไปอีกประมาณ 700 เมตร ก็จะถึงวัดช้างเผือก มีซุ้มประตูทางเข้าวัดสวยงามด้านบนซุ้มประตูประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อทบองค์ใหญ่ บริเวณวัดมีลานกว้างขวางร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ จอดรถได้สะดวกสบาย ภายในลานกลางวัดประดิษฐานรูปหล่อองค์หลวงพ่อทบขนาดใหญ่ ซึ่งลูกศิษย์และทางวัดร่วมกันจัดสร้างขึ้นหลังจากที่หลวงพ่อมรณภาพลง สำหรับให้ผู้มีจิตศรัทธาได้เข้ามาสักการบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลต่อตนเองหรือครอบครัว และร่วมระลึกถึงองค์หลวงพ่อทบพระผู้เต็มไปด้วยความเมตตาและบุญบารมี ด้านหน้ามีบาตรน้ำมนต์หลวงพ่อทบขนาดใหญ่ คนที่เข้าทำบุญส่วนมากมักจะนำมาพรมศรีษะหรือใส่ขวดนำกลับบ้านไปผสมน้ำอาบและพรมรอบบ้านเรือนของตนเอง
ด้านข้างรูปหล่อหลวงพ่อเป็นมณฑปหลังสวย ตกแต่งด้วยปูนปั้นลายไทย ปิดทองประดับกระจกสีสันงดงาม ด้านในโดยรอบจะมีภาพวาดฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า และมีภาพถ่ายของหลวงพ่อทบในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ตั้งอยู่หลายภาพ ตรงกลางมณฑปเป็นที่เก็บสรีระร่างกายของหลวงพ่อที่ไม่เน่าเปื่อยเอาไว้ ใส่ไว้ในโลงแก้วขนาดใหญ่ เมื่อเราเข้าไปดูแบบใกล้ ๆ สังขารของหลวงพ่อไม่เน่า ไม่เปื่อย แต่อย่างใดครับ จะเป็นลักษณะของผิวหนังแห้งติดกระดูกตามร่างกายจะติดแผ่นทองทั้งหมด มีประชาชนเข้ามากราบไหว้สังขารของหลวงพ่อเป็นจำนวนมากในทุก ๆวัน เป็นพระที่มีประชาชนให้ความศรัทธามากจริง ๆแม้ท่านจะมรณภาพไปนานหลายปี แต่ความเคารพศรัทธาของประชาชนก็ยังไม่เสื่อมคลาย ที่ยังหลั่งไหลกันมากราบไหว้บูชาองค์หลวงพ่อดังเดิมเหมือนในครั้งอดีตครับ ดูเอเซีย ขอกราบนมัสการ หลวงพ่อทบ วัดช้างเผือก ด้วยความศรัทธายิ่งครับ
ภายในวัดช้างเผือกมีกุฏิเก่าของหลวงพ่อทบ ที่ท่านอาศัยอยู่ในสมัยที่ยังมีชีวิต บนกุฏิมีภาพเก่า ๆ และประวัติของหลวงพ่อ มีรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อเพื่อให้เราได้กราบไหว้บูชา บริเวณลานกว้างภายในกุฏิ จัดแสดงเกี่ยวกับวัตถุมงคลรุ่นต่างๆของหลวงพ่อทบ ที่ทางวัดจัดสร้างขึ้น มีวัตถุมงคลมากมายหลายรุ่น ทั้งรูปหล่อ ผ้ายันต์ เหรียญ ใครที่ต้องการเช่าบูชาติดตัวก็เชิญได้เลย ครับ วัตถุมงคลหลวงพ่อทบนั้นมีพุทธคุณแทบทั้งสิ้นครับ ดูเอเซีย เห็นแล้ว อดไม่ได้เลยเช่าบูชาติดตัวองค์หนึ่งครับ และในเดือนมีนาคมจะมีการจัดงานประจำปีครบรอบวันมรณภาพของหลวงพ่อทบเป็นประจำทุกปีที่วัดช้างเผือก แห่งนี้
วัดช้างเผือกนอกจากเป็นวัดที่มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังคือหลวงทบ ให้เราได้กราบไหว้แล้ว บริเวณวัดยังตั้งอยู่ไม่ไกลตัวเมืองเพชรบูรณ์มากนัก มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งให้เราได้เดินทางเข้าไปท่องเที่ยว อาทิเช่น ถ้ำน้ำบัง,น้ำตกตาดหมอก,วัดพระธาตุ.วัดไตรภูมิ เดินทางสบายตั้งอยู่ในเส้นทางเดียวกันและใกล้ตัวเมือง
วัดช้างเผือก(หลวงพ่อทบ) ตั้งอยู่ที่ริมทางหลวงหมายเลข 21 ตำบลวังชมพู อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดให้ชมและเข้านมัสการหลวงพ่อทบทุกวันตั้งแต่เช้าจนเย็น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 056-712866,056-711007 หรือโทรไปที่ 055-252742-3 สอบถามข้อมูลก่อนการเดินทางครับ
การเดินทาง
มายังวัดช้างเผือกก็ไม่ยากครับตัววัดทางเข้าอยู่บนถนนหลักสายสระบุรี-เพชรบูรณ์ เดินทางมาบนเส้นทางหลวงหมายเลข 21 ก่อนเข้าตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ วัดจะตั้งอยู่ระหว่างกิโลเมตรที่ 118 ทางขวามือหรือเลยสามแยกบ้านนายมมาเล็กน้อย มีป้ายบอกชัดเจนและมีช้างเผือกตัวใหญ่ยืนอยู่ทางเข้าวัด เข้าไปอีกประมาณ 700 เมตรก็ถึง