ทริปนี้ ดูเอเซียดอทคอม พาเพื่อนๆ ไปแอ่วเมืองเหนือ เที่ยวเมืองม้า ชมวัดกันอีกแล้ว ที่จังหวัดลำปาง แต่คราวนี้พาไปชม Unseen Thailand กันที่จังหวัดลำปาง ชมความอัศจรรย์ของพระธาตุหัวกลับ ณ วัดพระธาตุจอมปิง อ.เกาะคา จ.ลำปาง
วัดพระธาตุจอมปิงเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของดินแดนล้านนา ตามประวัติสันนิษฐานว่าสร้างใน พ.ศ. 2050 หรือเมื่อ 500 ปีก่อน สมัย พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์เมืองเชียงใหม่ เดิมวัดนี้มีชื่อว่าวัดจอมปิง ต่อมาได้สร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้นมา จึงเปลี่ยนชื่อเป็นวัดพระธาตุ จอมปิง ส่วนชาวบ้านจะเรียกสั้นๆตามชื่อเดิมว่า วัดจอมปิง
วัดพระธาตุจอมปิงวัดสำคัญของจังหวัดลำปาง ที่มี นักท่องเที่ยว แวะมากราบไหว้ และมาดูปรากฏการณ์ เงาพระธาตุ จำนวนมาก ก่อนหน้านั้นวัดพระธาตุจอมปิง ถือว่าเป็นวัดเล็กๆในชนบท เรียกว่าเป็นวัดประจำตำบล ไม่เป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก แต่ก็เป็นวัดเก่าแก่และสร้างมานานกว่าวัดในตำบลเดียวกัน มีพระธาตุเจดีย์สูง 17 วา เป็นจุดเด่นและเป็นที่สักการะของชุมชนจาก ตำบลนาแก้วทั้งสองฝั่งแม่วัง และเป็นที่ศรัทธาจากหมู่บ้านตำบลอื่นในอำเภอเดียวกัน
จุดสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแวะเวียนมาที่วัดพระธาตุจอมปิงก็คือ การได้สักการะองค์พระบรมธาตุ ชมความสวยงามของพระธาตุ และความอัศจรรย์ของพระธาตุหัวกลับ unseen Thailand ซึ่งมีคุณลุงคอยให้คำแนะนำและดูแลเรื่องการส่องพระธาตุหัวกลับ ในโบสถ์หลังเล็ก ๆ ที่เราจะต้องเดินเข้าไปอยู่ในความมืด ถึงจะมองเห็นแสงที่ลอดผ่านรูเล็ก ๆ จากหน้าต่าง แล้วเกิดเป็นภาพหักเห เป็นพระธาตุหัวกลับ บนผืนผ้าสีขาวที่คุณลุงได้เตรียมไว้ให้ นับว่าเป็นความอัศจรรย์ อย่างยิ่ง
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก http://www.photoontour.com
คุณลุงซึ่งเป็นผู้อธิบายปรากฏการณ์ “ เงาพระธาตุ ” ในพระอุโบสถ์ว่า เงาสะท้อนพระธาตุเจดีย์นี้มีมานานแล้วแต่ไม่มีใครสังเกตุเห็น ชาวบ้านที่มาทำบุญหรือมาฟังธรรมในวันสำคัญทางศาสนาตอน กลางคืน หรือวันขึ้น 15 ค่ำทีมีพระจันทร์เต็มดวง จะปรากฏเงาพระธาตุทอดเป็นแนวยาวขึ้นบนพื้นปูนภายในโบสถ์หลังเก่า ครั้ง แรกก็ไม่มีใครรู้เพราะเป็นภาพที่เลือนลางไม่ชัดเจนและรูปทรงพระเจดีย์ก็เหมือนภาพถูกยืดให้ยาวขึ้น เมื่อหลายคนช่วยกันดู จึงรู้ว่า เป็นเงาสะท้อนของพระธาตุฯที่ผ่านช่องรูเล็กๆเท่าปลายนิ้วก้อยของบานหน้าต่างที่ปิดไว้ จากนั้นก็บอกต่อให้ชาวบ้านคนอื่นๆได้รู้ จนปรากฏเป็นข่าวไปทั่วประเทศ
ทุกวันนี้ยังมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมกันอย่างไม่ขาดสาย จนทางวัดต้องจัดให้เข้าชมกันเป็นกลุ่ม ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องน่าแปลก และค่อนข้างลงตัวพอดีที่สามารถเห็นได้ภายในโบสถ์เก่าแก่แบบล้านนาที่มีอายุหลายร้อยปี
หากเพื่อน ๆต้องการมาชมภาพเงาพระธาตุ แนะนำให้มาในช่วงเวลาประมาณบ่ายสามโมงเป็นต้นไป หรือเวลาที่แสงอาทิตย์จับต้ององค์พระธาตุเจดีย์จนเห็นประกายสีทองสุกใส (เหมือนกับภาพที่เห็นในชุดนี้) หากมาชมในช่วงเวลาอื่นอาจเห็นไม่ชัดเจนนัก
การเดินทางมาวัดพระธาตุจอมปิงที่อำเภอเกาะคา
ไม่ยากนัก เพราะอยู่ในเส้นทางเดียวกันกับวัดพระธาตุลำปางหลวง หรือวัด ประจำจังหวัดลำปางที่หลายคนรู้จัก หากตั้งหลักเดินทางจากตัวเมืองลำปาง ก็จะใช้ระยะทางประมาณ 18 กม. ถึงหน้าตลาดอำเภอ เกาะคา เลยมาอีกนิดก็ข้ามสะพานแม่น้ำวัง จากนั้นมาอีกประมาณ 300 เมตรก็จะถึงสามแยกตรงที่ว่าการอำเภอเกาะคา(หลังเก่า) พอ ดิบพอดี หากเลี้ยวขวาก็จะไปวัดพระธาตุลำปางหลวง แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปวัดพระธาตุจอมปิง ใช้ระยะทางประมาณ 14 กม. ไป ตามถนนสายเล็กๆเลียบแม่น้ำวัง ก่อนถึงวัดพระธาตุจอมปิงสามารถสังเกตุเห็นยอดพระธาตุเจดีย์ตั้งอยู่บนเนิน มีแม่น้ำวังอยู่บริเวณหน้าวัด
ถ้าเพื่อน ๆ ได้มีโอกาสแวะมาที่จังหวัดลำปาง ก็อย่าพลาดที่จะชมความอัศจรรย์ของพระธาตุหัวกลับ ที่วัดพระธาตุจอมปิง จ.ลำปางกันนะครับ …
ขอบคุณภาพ วัดพระธาตุจอมปิง