วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร จ.ลำพูน

0

วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร จ.ลำพูน เป็นพระธาตุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน และยังเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระบรมธาตุหริภุณไชยซึ่งนับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนาไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ วันนี้ดูเอเซียดอทคอมมีโอกาสได้มาเยือนที่จังหวัดลำพูน เราจึงไม่พลาดที่จะมาสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเก็บภาพสวยสง่าและน่าศรัทธาขององค์พระธาตุหริภุญไชยไปฝากเพื่อน ๆ ดูเอเซียดอทคอมให้อิ่มบุญกันทุกคนเลยจ้าวัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 150 เมตร มีถนนล้อมรอบสี่ด้าน คือ ถนนอัฏฐารสทางทิศเหนือ ถนนชัยมงคลทางทิศใต้ ถนนรอบเมืองทาง ทิศตะวันออก และถนนอินทยงยศทางทิศตะวันตก สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 ในรัชสมัยพระเจ้าอาทิตยราช ต่อมาได้รับการบูรณะต่อเติมมาเป็นลำดับ ภายในบริเวณวัดพระธาตุหริภุญไชย บริเวณหน้าวัดสังเกตเห็นได้ง่าย และที่วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร นี้ มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาสักการะกันแบบไม่ขาดสาย ลานจอดรถเต็มทุกวันเลยก็ว่าได้ค่ะ

เป็นวัดที่มีองค์พระบรมธาตุหริภุญชัย ที่มีอายุเกิดกว่าหนึ่งพันปี ซึ่งประดิษฐานอยู่กลางวัด เป็นเจดีย์องค์เก่าแก่องค์หนึ่งในลานนาไทย ซึ่งพระเจ้าแผ่นดินในอาณาจักรล้านนาได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1440 นับถึงเวลาปัจจุบันก็มีอายุได้ 1108 ปี(ปัจจุบันปี พ.ศ.2548) เป็นเจดีย์องค์หนึ่งในจำนวน 8 องค์ ที่มีอายุเกิน 1,000 ปี ของประเทศไทย ชื่อของวัดพระธาตุหริภุญชัย มาจากชื่อของเมืองหริภุญชัย ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์ไว้เมื่อครั้งเสด็จมาบิณฑบาตในสมัยพุทธกาลและได้แวะรับ©ันลูกสมอ ที่ชาวลั๊วะนำมาถวาย โดยได้ทรงพยากรณ์ว่า สถานที่แห่งนี้จะมีผู้มาสร้างเมืองและตั้งชื่อว่า “หริภุญชัยนคร” นั้นเอง เป็นไงค่ะ แค่ฟังที่มาที่ไปก็น่าศรัทธามาก ๆ แล้วค่ะ

เมื่อท่านเดินผ่านซุ้มประตูวัดเข้าไปด้านในแล้วจะเห็นวิหารหลังใหญ่โตอลังกาลเรียกว่า “วิหารหลวง” เป็นวิหารหลังใหญ่มีพระระเบียงรอบด้าน และมีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อ พ.ศ. 2466 วิหารหลวงใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล และประกอบศาสนากิจทุกวันพระ ภายในวิหารประดิษฐานพระปฏิมาใหญ่ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง บนแท่นแก้วรวม 3 องค์ และพระพุทธ ปฏิมาหล่อโลหะขนาดกลางสมัยเชียงแสนชั้นต้น และชั้นกลางอีกหลายองค์

พระบรมธาตุหริภุญไชย เป็นพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ ประดิษฐานในพระเจดีย์ (ตั้งอยู่ หลังวิหารหลวง) เป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ ที่ลงตัวสวยงาม ประกอบด้วยฐานปัทม์ แบบฐานบัวลูกแก้ว ย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม เจดีย์มีลักษณะ ใกล้เคียงกับพระธาตุดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่ สูง 25 วา 2 ศอก ฐานกว้าง 12 วา 2 ศอก 1 คืบ มีสัตติ- บัญชร (รั้วเหล็กและทองเหลือง) 2 ชั้น สำเภาทองประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือ และทิศใต้ มีซุ้มกุมภัณฑ์ และ©ัตรประจำสี่มุม และหอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ บรรจุพระพุทธรูปนั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป และแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่แวะมาเยือนทั้งคนในพื้นที่จังหวัดลำบางเอง และก็บรรดานักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาพระบรมธาตุนี้นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนาไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วค่ะ ซึ่ง ในวันเพ็ญ เดือน 6 จะมีงานนมัสการ และสรงน้ำพระธาตุทุกปี ตามประวัติกล่าวว่าเมื่อ พ. ศ. 1440 พระเจ้าอาทิตยราชกษัตริย์วงศ์รามัญผู้ครองนคร ลำพูนได้สร้างมณฑปครอบโกศทองคำบรรจุพระบรมธาตุไว้ภายในและมีการสร้างเสริมกันต่อมาอีกหลาย สมัยต่อมาในปี พ.ศ. 1986 พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ครองนครเชียงใหม่ได้ทรงกระทำการปฏิสังขรณ์บูรณะ เสริมองค์พระเจดีย์ขึ้นใหม่ การสร้างคราวนี้ได้สร้างโครงขึ้นใหม่เป็นรูปแบบลังกา ซึ่งปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ ทั้งนี้เพราะในสมัยพระเจ้าติโลกราชได้มีความสัมพันธ์กับลังกาอยู่มาก

เมื่อเข้าไปถึงองค์พระธาตุแล้ว ต้องทำพิธีเวียนเทียนตอนกลางวันค่ะ โดยเดินเวียนเทียนรอบพระธาตุ 3 รอบด้วยกันเพื่อเสริมสิริมงคลและให้พรที่ขอนั้นประสบผลสำเร็จ แต่ตอนกลางวันแดดร้อนมาก ๆ เลย แต่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายก็ไม่ท้อค่ะ พร้อมเดินเวียนเทียนกันด้วยใจและแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนา ขอบอกว่าน่าเลื่อมใสมาก ๆ ค่ะหากเพื่อน ๆ ดูเอเซียดอทอคมมีโอกาสแวะมาท่องเที่ยวที่ จังหวัดลำพูน คุณพลาดไม่ได้เลยน่ะค่ะ ต้องมาสักการะ พระบรมธาตุหริภุญไชยให้ได้ เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตท่านเอง และมาชมความงดงามขององค์พระบรมธาตุที่สวยงามกันได้แบบใกล้ชิดอีกด้วยค่ะ แล้วมาติดตามกันต่อไปว่า ดูเอเซียกินเที่ยว จะพาเพื่อน ๆ ไปท่องเที่ยวที่ไหนกันต่อไป สำหรับทริปนี้อิ่มบุญกันเต็มที่แล้วเนอะ กันเจอกันทริปต่อไปกับดูเอเซียดอทคอม

เชิญแสดงความคิดเห็น