ทิวทัศน์ของเมืองน่าน
จังหวัดน่าน จังหวัดที่เต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมทางโบราณสถานและโบราณวัตถุในสมัยก่อนที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้แก่ชนรุ่นหลังได้สักการะ เช้านี้ดูเอเซียตื่นขึ้นมาพร้อมกับบรรยากาศเย็น ๆในช่วงย่างเข้าฤดูหนาวของ จ.น่าน บรรยากาศยามเช้าของตัวเมืองน่านนั้น ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกทั้งเมือง แต่ยังไม่ถึงกับหนามากจนมองอะไรไม่เห็นน่ะครับ อากาศก็เย็น ๆ ยังไม่ถึงกับหนาว เพราะตอนที่เราไปนั้นประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน ของปี แต่จากที่สอบถามพี่ ๆ ชาวบ้านแถวนั้นเค้าบอกว่าถ้าเป็นประมาณกลางเดือนธันวาคมอากาศจะหนาวมากและหมอกจะหนากว่านี้อีกด้วย เป็นช่วงที่เหมาะสมที่นักท่องเที่ยวจะแวะมาสัมผัสบรรยากาศความหนาวของเมืองน่านอย่างแท้จริงครับ วันนี้ตื่นเช้าทั้งทีเลยขอไปสักการะ “พระธาตุเขาน้อย” บนยอดเขาน้อย หรือ “วัดพระธาตุเขาน้อย” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จ.น่าน และยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ ที่เห็นตัวเมืองน่านทั้งหมด แต่การที่เราจะขึ้นไปสักการะ “พระธาตุเขาน้อย” ต้องอาศัยการเดินทางจากรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ ผมจึงเช่ามอเตอร์ไซค์จากตัวเมือง ขับขึ้นเขาไป ใช้เวลาจากตัวเมืองน่าน ไป “วัดพระธาตุเขาน้อย” ประมาณ 20 นาทีเองครับ แต่ขี่มอเตอร์ไซค์ตอนเช้าโต้ลมหนาวนี้ มันไม่ธรรมดาจริง ๆ ว่าแล้วเราก็ไปกันเลย
วัดพระธาตุเขาน้อย ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เป็นวัดราษฎร์ องค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ซึ่งอยู่ด้านตะวันตกของตัวเมืองน่าน สร้างในสมัยเจ้าปู่แข็ง เมื่อปี พ.ศ. 2030 องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่อ อิฐถือปูนทั้งองค์ เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัม พุทธเจ้าได้ รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ ในสมัยพระเจ้าสุริยพงศ์ผริตเดชฯ ระหว่างปี พ.ศ. 2449-2454 โดยช่างชาวพม่า และวิหารสร้างในสมัยนี้เช่นกันวัดพระธาตุเขาน้อย เป็นปูชนียสถานที่สำคัญ และเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของ จ.น่าน สันนิษฐานว่ามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่บนดอยเบาน้อย สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 240 ม. หน้าวัดมีทางขึ้นเป็นบันไดนาค303 ขั้น ทางรถขึ้นถึงตัววัด เมื่อขึ้นไปยืนบนยอดเขา จะมองเป็นทิวทัศน์ของเมืองน่าน ได้อย่างชัดเจน ตามประวัติ พระธาตุองค์นี้ สร้างโดยมเหสีรองของพญาภูเข็ง เจ้าผู้ครองนครน่าน เมื่อราวพุทธศตวรรณที่ 20 เจ้าผู้ครองนคร น่าน อีกหลายองค์ต่อมา ได้บูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุ โดยตลอด จนกระทั่งมีการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัย พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ ในปี พ.ศ. 2449-2454 โดยช่างชาวพม่า ชื่อหม่องยิง จากวัดพระธาตุเขาน้อย สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่าน ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542
องค์พระธาตุเขาน้อย
กรมศิลปากรได้ทำการสำรวจและขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อปีพ.ศ.2523 ด้วยความเป็นวัดที่อยู่บนเขาสูงจึง เป็นจุดชมทิวทัศน์ ที่สวยงาม อยู่ตรงลานปูน พระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ คือพระพุทธมหาอุตมมงคมนันทบุรี ศรีเมืองน่าน สร้างเมื่อปีพ.ศ.2542 ถีอเป็นจุดเดียวที่เห็นเมืองน่านจากมุมสูง เราจะเห็นขุนเขา น้อยใหญ่ ตั้งทะมึน โอบล้อมเมืองน่าน เป็นฉากหลัง จุดนี้ยังแสดงให้ เราเห็นชัด ถึงลักษณะการตั้งเมือง ของทางภาคเหนือ ที่มักเลือก ทำเลที่ตั้ง บนที่ราบลุ่ม และหุบเขาด้วย
เมื่อเดินทางขึ้นมาถึงข้างบนหรือบนยอด “พระธาตุเขาน้อย” เราก็ได้พบกับความศักดิ์สิทธิ์และมนตร์ขลังที่สัมผัสได้จากองค์พระธาตุว่าทำไมชาวน่านและนักท่องเที่ยวถึงเดินทางขึ้นมาสักการะจน กลายเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของ จ. น่าน แต่หน้าเสียดายที่ครั้งนี้ที่เราขึ้นมาเป็นช่วงฤดูหนาว ทำให้มีหมอกปกคลุมมากเป็นพิเศษ วิวทิวทัศน์ อ.เมืองน่าน จึงไม่ค่อยได้เห็นครับ ถ้าจะเห็นต้องรอเวลาช่วงสาย ๆ ให้หมอกบางลงก็จะเห็นวิวทิวทัศน์อันกว้างไกลของ เมืองน่าน เป็นที่หน้าเสียดายที่เวลาเรามีน้อยครับ จึงพลาดโอกาสดี ๆ ไป แต่ผมว่า วิวที่มองเห็นทะเลหมอกยามเช้า โดยมุมมองจากด้านหลังของ “พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน” เป็นฉากที่เปรียบได้กับสวรรค์ในจินตนาการของใครหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ เพราะผมก็เป็นหนึ่งในคนที่คิดแบบนั้นครับ
ถ้าหากใครมีโอกาสมาท่องเที่ยวที่ จ.น่าน แห่งนี้น่ะครับ อย่าพลาดที่จะขึ้นมาสักการะ “พระธาตุเขาน้อย” ที่“วัดพระธาตุเขาน้อย” แห่งนี้ รับรองว่าเพื่อน ๆ จะได้อิ่มบุญ อิ่มตา และที่สำคัญอิ่มใจกลับลงไปจากยอดเขาน้อยแห่งนี้แน่นอนครับ
การเดินทาง
พระธาตุเขาน้อย อยู่บนยอดเขาน้อยบ้านคู่ใน ห่างจากศาลากลางจังหวัด ในทางทิศตะวันตก ประมาณ 2 กิโลเมตร ยอดเขาสูง ประมาณ 800 ฟุต มีทางรถยนต์ ขึ้นถึงยอดเขา เดินทางสะดวก เส้นทางปลอดภัย