วัดพระนอน สุพรรณบุรี
สวัสดีเพื่อนดูเอเซียค่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลง เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า สำหรับทริปนี้ดูเอเซียได้ไปร่วมทริปกับผู้ใหญ่ใจดีอย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเช่นเคย และได้ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งจังหวัดนี้ก็มีสถานที่เที่ยวเยอะมาก และหลากหลายแนว ให้ได้เปลี่ยนอัธรสในการเที่ยว และเมื่อผ่านมายังตำบลพิหารแดง อำเภอเมือง ก็ได้ทราบว่าที่นี่มีวัดวัดหนึ่งพระพุทธรูปที่มีลักษณะแปลก แตกต่างจากพระพุทธรูปทั่วไป และวัดนั้นก็คือ “วัดพระนอน”
ตอนแรกหลังจากที่รถเลี้ยวเข้าสู่ประตูวัด เราก็มองหาว่าพระนอนจะอยู่ตรงส่วนไหน เดินหาจนรอบ เพราะส่วนใหญโบสถ์จะอยู่ทางด้านหน้าของวัด แล้วก็เหลือบไปเห็นว่าตรงใกล้ๆแม่น้ำมีรถจอดเยอะ แล้วก็มีคนเยอะแยะเต็ฒไปหมด “ใช่แล้ว…โบสถ์ต้องอยู่ด้านนั้นแน่นอน” สำหรับใครที่ไม่เคยไปต้องบอกก่อนว่าโบสถ์ที่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนอนหงายอยู่ท้ายเลยค่ะ ติดแม่น้ำท่าจีนและก็เป็นโบสถ์ที่ไม่ใหญ่นัก ดูจากภายนอกก็รู้ได้ว่าเป็นโบสถ์เก่าแก่ เพราะมีสถาปัตยกรรมแบบโบราณ น่าจะราวๆสมัยอยุธยาเห็นจะได้
ตามธรรมเนียมพุทธศาสนาค่ะ เราต้องนำดอกไม้ ธูป เทียน เข้าไปบูชาพระด้านใน ที่นี้ก็ตามกำลังศรัทธาเลยค่ะ เรียบร้อยก็นำธูปเทียนมาจูดบูชาทางด้านนอกหน้าโบสถ์ ก่อนเข้าไปด้านใน โดยส่วนใหญ่ทุกวัดก็จะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
สำหรับชื่อพระนอนเราหรือพุทธรูปปางไสยาสน์ เกิดขึ้นทั่วไปในประเทศไทยหลายองค์ แต่ที่วัดพระนอนแห่งนี้ได้จัดให้เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ที่มีความแปลกตรงที่ลักษณะขององค์พระจะสลักด้วยหินในลักษณะนอนหงาย เป็นปางหนึ่งของตำนานการสร้างพระพุทธรูป เป็นเครื่องรำลึกถึงและเคารพบูชาถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าคราวเสด็จปรินิพพาน ขนาดเท่าคนโบราณยาวประมาณ 2 เมตร ลักษณะคล้ายกับพระนอนที่เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่ตรงใจกลางพระอุโบสถ หรือโบสถ์ หน้าพระพุทธรูปองค์ประธาน
บริเวณรอบๆวัด ร่มรื่นได้ด้วยต้นไม่น้อยใหญ่ ที่ปกคลุมอาณาบริเวณวัด แต่มีอยู่2-3ต้นค่ะ ที่สูงใหญ่มากลำต้นก็ใหญ่หลายคนโอบ และยังมีอุทยานมัจฉาแห่งชาติ บริเวณแม่น้ำท่าจีน ที่คนสุพรรณเรียกว่าแม่น้ำสุพรรณบุรี มีการจุดขายอาหารปลาราคาก็มีตั้งแต่ 10 บาท แบบถึงเล็ก 100 บาท แบบถังใหญ่ และ 300 บาท สำหรับกระสอบใหญ่ ซึ่งท่านเจ้าอาวาส ได้เลี้ยงปลาไว้ ตั้งแต่ปี 2516 มีทั้งปลาสวาย ปลาตะเพียน ปลาแรด ปลาตะโกก ปลายี่สก จำนวนนับแสนตัว และก็มีแต่ตัวใหญ่ๆทั้งนั้นเลย เรียกได้ว่าปลาก็อิ่มท้อง คนก็อิ่มบุญไปตามๆกัน
นอกจากนี้จะเห็นสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ใกล้ๆกัน คือหอระฆัง และศาลเจ้าแม่กวนอิมที่เราก็สามารถไปกราบไว้กันได้อีกด้วยค่ะ ไหนๆก็ไปแถวนั้นแล้ว ก็ขอแนะนำให้เลยไปอีกวัดหนึ่งเลยแล้วกัน “วัดหน่อพุทธางกูร” ไม่ไกลค่ะ เพื่อจะเราได้บุญกันเต็มอิ่มไงล่ะคะ
การเดินทาง
วัดพระนอน ตั้งอยู่ที่ตำบลพิหารแดง อำเภอเมือง ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 3 กม. เลยวัดหน่อพุทธางกูรไปเล็กน้อย