ศาลหลักเมือง อุดรธานี

0

ดูเอเซียตะลุยถิ่นอีสาน ณ ศาลหลักเมืองอุดรธานี

ภาคอีสานมีทั้งหมด 21 จังหวัด (รวมจังหวัดน้องใหม่ อย่าง จังหวัดบึงกาฬ) ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย แต่แค่ 21 จังหวัดในภาคอีสาน เพื่อนๆ ดูเอเซียเคยไปเที่ยวที่ไหนกันมาบ้างคะ! หลายคนคงเคยได้ไปเที่ยวจังหวัดใกล้ๆ ภูมิลำเนาของตัวเอง อย่างเช่นหากใครได้อยู่ที่กรุงเทพ ก็คงได้ไปเที่ยวในแถบ จังหวัดนครราชสีมา เขาใหญ่ ปากช่อง แถบนั้นหรืออาจจะเลยเถิดมาถึงอีสานตอนบนอย่างขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย เมืองแม่น้ำโขง หรืออาจไปไกลถึงดินแดนสามพันโบก อุบลราชธานี เที่ยวเมืองช้างสุรินทร์ ฯลฯ

ทริปนี้ดูเอเซียตะลุยอีสาน จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว จังหวัดใหญ่ทางอีสานตอนบน ที่เป็นเมืองผ่าน ไปสู่ดินแดนริมแม่น้ำโขง ที่จังหวัดอุดรธานีกันค่ะ   จังหวัด อุดรธานี เป็นจังหวัดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมและการท่องเที่ยวทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และยังเป็นดินแดนที่มีอารยธรรมเก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและมีหัตถกรรมผ้าขิตที่มีชื่อเสียงอีกด้วย หรือที่รู้จักกันดีในจังหวัดอุดรธานีก็คือความเก่าแก่ของอารยธรรม 5000 ปี กับพิพิธภัณฑ์บ้านเชียง มรดกโลกที่สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองไทย

และมาถึงเมืองอุดรธานีทั้งที สถานที่แรกที่ดูเอเซียจะพาเพื่อนๆ ไปนั่นก็คือ ศาลาหลักเมือง หรือศาลหลักเมืองจังหวัดอุดรธานี นั่นเองค่ะ เพราะไปเมืองไหนก็ต้องไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ ศาลาหลักเมืองหรือศาลหลักเมืองอุดรธานี ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศาลากลางเมืองอุดรฯ ข้างๆ กับเทศบาลนครอุดรธานีเลยค่ะ หรือที่รู้จักกันดีในนาม ทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี

ศาลาหลักเมืองอุดรธานี  หรือที่เรียกว่าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอุดรธานี  เป็นศูนย์รวมความเคารพและความศรัทธา ซึ่งชาวเมืองอุดรธานีมักจะพากันมาสักการบูชา  ในบริเวณศาลหลักเมืองอุดรธานี   ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญอื่นๆ อันเป็นที่เลื่อมใสบูชาเป็นอย่างสูงได้แก่   หลวงพ่อพระพุทธโพธิ์ทอง  และท้าวเวสสุวัณ  ซึ่งมีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์และความเป็นสิริมงคลในแต่ละด้านที่แตกต่างกันไป

ตามประวัติกล่าวว่า ศาลหลักเมืองอุดรธานีนั้นสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2502  โดยอัญเชิญดวงพระวิญญาณของ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม  ผู้ทรงก่อตั้งเมืองอุดรธานีขึ้นเมือ พ.ศ.2436  มาสถิต  ณ  เสาหลักเมืองนี้ด้วย  องค์เสาหลักเมืองทำขึ้นด้วยไม้คูณยาว  5  เมตรเศษ  และฝังลึกลงไป 3 เมตร  มีการบรรจุแผ่นยันต์และแก้วแหวน  เงิน  ทองต่างๆเป็นจำนวนมากไว้ใต้ฐานเพื่อเป็นสิริมงคล  ต่อมาในปี พ.ศ.2542  ได้มีการสร้างศาลหลักเมืองหลังใหม่แทนหลังเดิมที่ทรุดโทรมไป  ตัวอาคารของศาลหลักเมืองจะเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ ผสมผสานศิลปะแห่งภาคอีสาน  ให้เป็นที่สักการะขอพรของชาวอุดรธานีสืบมา

นอกจากนี้บริเวณศาลหลักเมืองยังมีรูปปั้นท้าวเวสสุวัณ 1 ใน 4  ของท้าวจตุโลกบาลผู้ปกครองเหล่าอสูร  และยักษ์  ตลอดจนภูตผีปีศาจทั้งหลายอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอุดร  ที่ได้เชิญมาประดิษฐานไว้หลังการสร้างศาลหลักเมืองหลังใหม่  ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่ามาสักการะศาลหลักเมืองอุดรธานีนั้นสามารถบูชาและกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 ได้ในหนเดียว

ความเชื่อและวิธีการบูชา มีผู้นิยมมาสักการะศาลหลักเมืองเพื่อขอพรให้ชีวิตมั่นคง  ราบรื่นทั้งการงานและการเงิน โดยมีเคล็ดความเชื่อว่าหากเข้าประตูใดให้ออกประตูนั้น จะทำให้ได้อานิสงส์มากยิ่งขึ้น  ส่วนการสักการะพระพุทธโพธิ์ทองนั้นเชื่อว่าจะทำให้มีร่มโพธิ์ร่มไทร  มีผู้ใหญ่สนับสนุน  ค้ำจุน  โดยผู้ที่มาสักการะมักเก็บใบโพธิ์ที่หล่นอยู่หลังคาไปบูชาเพื่อเป็นมงคลด้วย  และการบูชารูปปั้นของท้าวเวสสุวัณนั้นถือว่าคือการขอพรให้ศัตรูหมู่มารหรือผู้มาคิดร้ายให้แพ้ภัยตัวเอง  หรือกลับใจมาเป็นมิตร

ถ้าเพื่อนๆได้มีโอกาสมาเที่ยวเมืองอุดรธานี ก็อย่าลืมแวะมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองอย่างศาลหลักเมืองอุดรธานีกันนะคะ ศาลหลักเมืองจังหวัดอุดรธานี ตั้งอยู่บริเวณทุ่งศรีเมืองอุดรธานี ใกล้ๆ กับเทศบาลนครอุดรธานี หรือตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดอุดรธานี   ในทุกๆ ปี จะมีการจัดเทศกาลวันสำคัญทางศาสนา และประเพณีต่างๆ ที่บริเวณศาลหลักเมือง โดยเฉพาะในงานทุ่งศรีเมือง ที่เป็นงานประจำปีจังหวัดอุดรธานี ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายปีของทุกๆ ปี

มาเที่ยวอุดรฯ อย่าลืมมาขอพรศาลหลักเมืองกันนะคะ

เชิญแสดงความคิดเห็น