ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก

0

สวัสดีเจ้าค่ะ ทริปนี้ดูเอเซียจะพาเพื่อนๆย้อนอดีตสู่แดนดินถิ่นมรดกโลก พระนครศรีอยุธยา ซึ่งดำรงความเป็นราชธานีแห่งอาณาจักรไทยนานถึง 417 ปี มีพระมหากษัตริย์ปกครองแผ่นดิน 33 พระองค์ ได้มีการสั่งสมทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาจนเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะทางอารยธรรม ที่มีคุณค่าสืบต่อมา และได้กลายเป็นรากฐานของประเทศไทยและวิถีชีวิตของคนไทยในทุกวันนี้ ด้วยความโดดเด่นของอารยธรรมกรุงศรีอยุธยา ประชาคมโลกองค์การยูเนสโก ได้สถาปนาให้นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในการนี้เองทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดกิจกรรมงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก และงานกาชาดประจำปี พร้อมการแสดง แสง เสียง อุทยานประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยาอย่างยิ่งใหญ่ได้มีการอัญเชิญพระบรม สารีริกธาตุ  ให้ประชาชนทั่วไปได้สักการะเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ความหลากหลาย

ภายในงานมีกิจกรรมมากมายและใหญ่มากให้เดินวันเดียวคงไม่ครบแน่ๆค่ะ เพราะฉะนั้นดูเอเซียจะพาไปชมในส่วนที่เป็นไฮไลท์ของงานกันค่ะเริ่มต้นด้วยส่วนแรกเป็นจุดที่แสดงถึงศิลปะหัตถกรรม ภูมิปัญญาของชาวบ้านในสมัยก่อนที่มีการคิดค้นประดิษฐ์ข้าวของเครื่องใช้ เช่น เครื่องใช้ที่ทำจากทองแดงและดีบุก ภาชนะฝังมุก และอีกมากมาย ซึ่งได้มีการสืบสานกันมาจนถึงยุคนี้และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้วยการส่งออกขายยังต่างประเทศ ทำรายได้ให้ชาวบ้านไม่น้อยเลยค่ะ จุดนี้ได้รับการสนับสนุนจาก มหาวิทยาลับราชภัฏพระนครศรีอยุธยา

ส่วนต่อมาเรียกว่า “สานศิลป์ถิ่นมรดกโลก” ซึ่งอยู่ในบริเวณวัดหลังคาขาว ที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งบริเวณใกล้เคียงก็จัดให้มีการสาธิตการประดิษฐ์ ประดอย งานฝีมือของชาววัง ที่มีชื่องานว่า “เพลินพินิจ สาธิตชาววัง” เช่น งานมาลัยดอกไม้สด งานพานพุ่มไทย งานกระทงดอกไม้ใบตอง งานเครื่องแขวน งานดอกไม้ธูปเทียน งานบายสี  เป็นต้น โดย มีน้องๆ แต่งชุดไทยน่ารัก น่ารัก มาคอยสาธิตและให้คำบรรยายแก่ผู้ที่สนใจได้ทราบซึ้งไปกับกลิ่นอายความเป็นไทย

ใกล้ๆกันก็มีงาน “สานศิลป์ถิ่นอาหารไทย” เป็นที่จัดการประกวดอาหารเสริมศิริมงคลที่เป็นที่รู้จักของไทย ลองลิ้มชิมรสชาติอาหารที่ชนะเลิศจากเวทีประกวดอาหาร ซึ่งในแต่ละวันก็จะจัดประกวดอาหารหลากหลายชนิดไม่ซ้ำกันเลยค่ะ

บริเวณรอบๆเจดีย์วัดหลังคาขาว เค้าก็ได้จัดให้มีการจำลองบรรยากาศตลาดโบราณที่คนในสมัยก่อน ใช้วิถีชิวิตแบบเรียบง่าย งานนี้เรียกว่า “เปิดตลาด” โดยที่เราสามารถจับจ่ายใช้สอยได้ แต่ต้องใช้เงินสกุลพดด้วง ที่ได้จัดให้มีจุดบริการแลกเงิน แบ่งเป็น 2 ราคา คือ สีทอง เท่ากับ 10 บาท สีเงิน เท่ากับ 5 บาท จะแลกจำนวนเท่าไหร่ก็ไก้ แต่ห้ามแลกคืนค่ะ ก็ถือว่าเก็บไว้เป็นที่ระลึกแล้วกันค่ะ พอแลกเงินเรียบร้อยแล้วก็มาเดินเลือก ชม และชิมกันเลย ของขายที่นี่น่าทานไปหมด มีทั้งตลาดบนบกและตลาดน้ำ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวแกงโบราณ ก๋วยเตี๋ยวโบราณ ขนมจีนน้ำยา น้ำสมุนไพร น้ำผลไม้ ผัดไทยกรุงเก่า หอยทอด ขนมครก ไม่เว้นแม้กระทั่งยาดอง ที่คนในสมัยโบราณ นิยมดื่มเพื่อเป็นกระสัย แก้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เลือกซื้อได้แล้วก็หาที่นั่งทานภายในบริเวณนั้น บางร้านก็มีโต๊ะเล็กให้นั่งทานกันสบายๆ หรือถ้าใครอยากทานอาหารชุดที่เค้าจัดไว้เป็นสำรับแบบไทยพร้อมโต๊ะสไตล์ไทยๆ ในบรรยากาศแบบเจ้านายสมัยอยุธยา มีวันละ10 สำรับ เท่านนั้น (สำหรับ 4 ท่าน) ราคาสำรับละ 500 บาท พร้อมชมการประกวดดนตรีลูกทุ่ง และดนตรีไทยร่วมสมัย ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เข้าร่วม ประกวดถึง 18 โรงเรียน

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายภายในงงาน อาทิเช่น การออกร้านกาชาด, การแสดงและจำหน่ายสินค้าOTOP, มหกรรมสินค้าสหกรณ์ มหกรรมอาหารอิ่มอร่อย บริเวณคุ้มขุนแผน, การจัดรถไฟฟ้าเล็กวิ่งรอบงาน คาราวานสินค้า ลิเก ภาพยนต์ ซึ่งจัดให้ชมฟรีตลอดงาน ที่สำคัญในงานนี้มีการแสดง แสงเสียง ชุด “ยอยศกษัตรา ยศยิ่งฟ้าก้องปฐพี” ณ วัดมหาธาตุ ค่าบัตรเข้าชม ราคา 500 บาท และ 200 บาท มีการแสดงทุกวัน จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2553

ใครที่สนใจงานนี้ก็สามารถไปชมกันได้ที่ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สอบถามรายละเอียด ได้ที่ ที่ทำการปกครองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทร.0-3533-6563 และ 0-3533-5244 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทร.0-3524-6076-7  ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา โทร. 0-2262-3456

กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 1600  ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์ 0 2250 5500 ต่อ 4520-22
โทรสาร 0 2250 5681-3
E – mail : prdiv@tat.or.th

ขอบคุณภาพ aya.onab.go.th

เชิญแสดงความคิดเห็น