ผจญภัยกลางสายฝนที่อุ้มผางคีฤดูกาลท่องเที่ยวของอำเภออุ้มผาง จ.ตาก จะอยู่ในช่วงฤดูหนาว คือจะมีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือการล่องแก่งแม่กลองช่วงน้ำตกทีลอจ่อ และเข้าไปเที่ยวน้ำตกทีลอซู รวมไปถึงการชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอยหัวหมดด้วย
เป็นที่น่าแปลกใจว่า นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวอุ้มผางหรือน้ำตกทีลอซูแล้ว มักจะมาเที่ยวซ้ำอีก บางรายก็มาน้ำตกทีลอซูอีก บางรายเลือกเส้นทางล่องแก่งสายใหม่ ในช่วงล่างจากลบ้านปะละทะไปยังน้ำตกทีลอเล เส้นทางสายนี้จะโหดกว่าโปรแกรมแรกทีเดียว เพราะต้องผจญภัยกับแก่งระดับ 3-4 และยังต้องเดินป่าเป็นระยะทางไกลที่ต้องใช้เวลา 1 วันเต็มๆ
ความสวยงามของสภาพธรรมชาติแห่งป่าอุ้มผางจัดว่าครบถ้วนรวมทั้งน้ำตก ทะเลหมอก ล่องแก่ง บางเส้นทางยังมีถ้ำให้เที่ยว หรือแม้กระทั่งเรื่องราวชีวิตของชนเผ่ากะเหรี่ยงที่ยังคงวัฒนธรรมของชนเผ่าตามสภาพยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
เช่นเดียวกับเส้นทางล่องแก่งในผืนป่าอุ้มผางได้อุบัติตามกระแสการท่องเที่ยว สายน้ำอุ้มผางคึที่ไหลมาจากผืนป่าตะวันตกที่ติดกับผืนป่าแม่วงก์ จ.กำแพงเพชร เป็นสายน้ำที่ไหลผ่านตัวอำเภออุ้มผาง หากเหนือต้นน้ำอุ้มผางจะเป็นผืนป่าสมบูรณ์ มีหมู่บ้านกะเหรี่ยงอยู่ใกล้ต้นน้ำ
มนุษย์เราอาศัยธรรมชาติสร้างสรรค์กิจกรรมท่องเที่ยวขึ้นมาหลายๆ รูปแบบ ดังนั้นสายน้ำอุ้มผางจึงเป็นตัวเลือกสำหรับกิจกรรมการล่องแก่งผจญภัยที่มีการพิสูจน์ถึงโขดแก่งน้อยใหญ่ร่วม 40 แก่ง เมื่อถึงฤดูฝนนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวป่าล่องแก่งอุ้มผางคี ซึ่งเดี๋ยวนี้สามารถล่องจบโปรแกรมแกรมเพียงวันเดียว สามารถพักที่อุ้มผาง แล้วไป ล่องแก่งอุ้มผางคี แล้วอาจรวมโปรแกรมน้ำตกทีลอซูเข้าไปได้อีกเส้นทางหนึ่งคืนแรกเราไปนอนที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงอุ้มผางคี จนเช้าวันรุ่งขึ้นจึงได้ออกเดินป่าทวนสายน้ำอุ้มผางขึ้นไปยังต้นน้ำบริเวณวังมะนาว แต่กว่าจะไปถึงจุดล่องแก่งได้ต้องลุยน้ำข้ามน้ำอย่างสนุกสนาน นักท่องเที่ยวบางคนเลือกบริการนั่งช้าง ก็สบายหน่อย ก็ได้อรรถรสการเดินทาง ขี่ช้าง ล่องแก่ง ชมวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงได้ครบถ้วนรูปแบบเส้นทางเดินป่าค่อนข้างชัดเจน มีคนนำทาง ยิ่งช่วงข้ามน้ำต้องอาศัยทีมงานเก่งและแกร่ง พานักท่องเที่ยวข้ามน้ำไปหลายช่วงหลายตอน จนมาถึงวังมะนาว จึงหยุดพักทานอาหารเที่ยง
กระแสน้ำที่ไหลคดเคี้ยวไปตามหมู่แมกไม้ที่ยังมีสภาพความสมบูรณ์ ตามคาคบกิ่งไม้พบว่าจะมีกล้วยไม้หลายชนิดเกาะขึ้นอย่างหนาตา บางชนิดก็ผลิให้ชมอยู่บ้าง รวมไปถึงต้นเฟิร์นที่ขึ้นอย่างหนาแน่น อันแสดงให้ เห็นถึงความสมบูรณ์ของป่าที่ไร้ผู้คนเข้ามารบกวนหลังจากที่อิ่มท้องแล้ว เรือยางก็พร้อม เสื้อชีชีพ หมวกกันกระแทกได้แจกจ่ายไปทั่วทุกคน จากนั้นก็เริ่มล่องแก่ง ช่วงแรกๆ ผ่านแก่งง่ายๆ แต่ไม่นานนักก็มาพบกับแก่งใหญ่ทีมองเห็นสายน้ำปั่นป่วนเป็นสีขาวที่แสดงอำนาจของสายน้ำ เรือยางได้พุ่งเข้าใหญ่ พร้อมกับเสียงกรี๊ดของสาวๆ เพื่อข่มกับอำนาจพลังเกลียวแก่งให้ตัวเองหายกลัว และในที่สุดกัปตันเรือยางก็นำเรือผ่านไปได้อย่างสนุก
สายน้ำที่ลดระดับลง หมายถึงความรุนแรงของกระแสน้ำ ยิ่งมีโขดหินแก่งก็ยิ่งทำให้เราล่องแก่งได้สนุกมากขึ้น โค้งคุ้งสายน้ำบางช่วงค่อนข้างแคบ เราจึงต้องคอยหลบกิ่งไม้เป็นพัลวัน บางช่วงหักไม่ทันจนเรือเข้าเบียดกับโขดหินหรือต้นไม้ กระแสน้ำที่ไหลแรง ทำให้เรือยางต้องพลิกคว่ำไปบ้าง แต่ทุกคนก็ปลอดภัยความสนุกสนานมีให้เราได้พบได้ตลอดสายน้ำจนกระทั่งมาถึงหมู่บ้านอุ้มผางคี จึงสิ้นสุดการล่องแก่ง หลังจากนั้นก็นั่งรถกลับเข้าอุ้มผาง หากว่าจะล่องไปจนถึงอุ้มผาง ซึ่งต้องใช้เวลาเกือบทั้งวัน สายน้ำก็ธรรมดา ไม่ตื่นเต้นเร้าใจเหมือนตอบน
กิจกรรมล่องแก่งอุ้มผางคี จัดว่าเป็นเส้นทางผจญภัยบนสายน้ำที่ครบถ้วนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า ลุยน้ำ ขี่ช้าง ล่องแก่ง ชมวิถีชีวิตชนเผ่ากะเหรี่ยงกลางผืนป่าใหญ่ รับรองว่าช่วงหน้าฝนอย่างนี้สนุกแน่นอน
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้จาก บุญล่ำทัวร์ โทร. 01/887-0653, (055) 561-021
ช่วงฤดูกาลล่องแก่ง ประมาณเดือนมิถุนายน/พฤศจิกายน