ดูเอเซียพาเที่ยวดำน้ำดูปะการัง ปลานีโม่ กัลปังหา ที่หมู่เกาะตะรุเตากัน มาดำน้ำดูประการังที่สวยที่สุดในประเทศไทย ถึงแม้ว่าที่หมู่เกาะตะรุเตาจะไกลขนาดไหน แต่ที่ตะรุเตานี้ก็ยังคงมีเสน่ห์ที่สามารถจะนำพานักท่องเที่ยวมาเยือนได้เสมอ
ว่ากันว่าปะการังที่สวยที่สุดในประเทศไทย อยู่ที่หมู่เกาะตุลุเตา หมู่เกาะตะรุเตาเป็นเกาะกลางทะเลที่อยู่ไกลมาก นักท่องเที่ยวก็มีไม่มากนัก เพราะเป็นเกาะที่ห่างไกลการเดินทางที่แสนยาวนาน แต่เสน่ห์ของหมู่เกาะตุลุเตาแห่งนี้ ก็ยังมีความน่าหลงไหลอยู่ เนื่องจากว่าหมู่เกาะตะรุเตาอยู่กลางมหาสมุทรอันดามัน และมีความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลอันดามัน น้ำทะเลที่ยังคงสมบูรณ์ไม่มีสิ่งใดมาเจือปน ทำให้มีปะการังและสัตว์ใต้น้ำยังคงความอุดมสมบูรณ์มาก ดูเอเซีย.คอม ยินดีนำเสนอเรื่องราวใต้น้ำของหมู่เกาะตะรุเตานี้ เพื่อให้เพื่อนนักเดินทางท่องเที่ยวทั้งหลาย ได้เห็นได้ชมความสมบูรณ์และสวยงามของท้องทะเลไทยบ้านเราว่าไม่น้อยหน้าที่ไหน และต้องการให้ท่านๆได้เที่ยวอย่างนักอนุรักษ์ครับ
ความสวยงามของหมู่เกาะตะรุเตานี้ ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศไทย ปะการังมีความสมบูรณ์มาก ที่หมู่เกาะตะรุเตาแห่งนี้มีกัลปังหาที่หาดูได้ยากมาก กัลปังหาถือว่าเป็นสีสันของตะรุเตามาก เพราะกัลปังหาจะมีได้ก็ต่อเมื่อท้องทะเลที่มีความสมบูรณ์มากเท่านั้น มีอยู่หลายจุดที่เราสามารดำน้ำตื้นมองเห็นกันชัดๆได้ “กัลปังหาสีส้ม” เป็นกัลปังหาที่หาดูได้ยากที่สุด
ไกด์ท้องถิ่นเล่าให้ทีมงานเราฟังว่า การดำน้ำลึกเท่านั้นที่จะเจอกัลปังหา หาได้ยากที่จะเจอในการดำน้ำตื้นที่จะเจอกัลปังหา ที่เกาะตะรุเตานี้ยังมีปลานีโม่เป็นร้อยๆตัว หลากหลายสีสัน สีดำขาว สีขาวส้ม สีเหลืองขาว เป็นปลาที่ทุกๆคนอยากเจออยากเห็น ที่นี่มีให้ได้เห็นแน่นอน และที่หาดูได้ยากว่านั้นก็คือปลาหมึก ที่มาแหวกว่านให้ท่านๆได้ชื่นชมเป็นฝูงๆ หากใครโชคดีก็จะได้เจอ ทริปนี้เราโชคดีมากเพราะว่า เราเจอปลาหมึกว่ายเรียงกันเป็นแถวยาว เรานับทั้งหมด 22 ตัว ว่ายเรียงกันเป็นแถวเดียวให้เราได้ชื่นชม เพราะว่าจะเจอปลาหมึกได้ต้องดำน้ำลึกเช่นกัน และปลาที่หายากที่สุดกว่าปลานีโม่ ก็คือ ปลาแดงดำ ลักษณะคล้ายปลานีโม่แต่เป็นสีแดง-ดำ เราเจอทั้งหมดประมาณ 15 ตัว ปลาสิงห์โตก็เยอะ และมีหลากหลายสีมาก ปลาสิงโตเป็นปลาที่อลังการงานสร้างมาก แต่เห็นสวยอย่างนั้น เราขอเตือนท่านๆไว้ว่าอย่าแตะต้องเด็ดขาด เพราะว่าพิษร้ายแรงมาก ดูอยู่ห่างๆก็พอครับ
การเดินทาง
ไปหมู่เกาะตะรุเตานี้ ต้องใช้ความพยายามอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับยากเย็นแสนเข็ญ ไปได้ก็ดีแต่ไม่ไปก็ไม่ดี กาดเดินทางก็มีอยู่ 2 อย่าง ใครที่มีเวลาเยอะก็ควรจะไปแบบส่วนตัว(ลาพักร้อนอย่างน้อยสักอาทิตย์) หากใครที่มีเวลาน้อย(ลางานไป3-4วัน) ก็สามารเลือกที่จะไปแบบเพกเกจทัวร์ที่เค้ามีขายก็ได้ เพราะการเดินทางต้องใช้เวลาและงบประมาณพอสมควร เนื่องจากว่าต้องขึ้นรถลงเรือกันหลายเที่ยว แต่ถ้าไปกับทัวร์ก็ดีตรงที่ว่าค่ารถค่าเรือก็ถูกลง เพราะแชร์กันออกครับ นี่ก็เป็นทริกเล็กๆน้อยๆจากดูเอเซียที่นำเสนอในหลายแง่มุมเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดครับอาหารการกินก็ไม่ยากครับ เพราะแต่ละเกาะของหมู่เกาะตุลุเตาส่วนใหญ่แล้วจะมีน้ำจืดธรรมชาติที่เกาะนั้นๆเช่นเกาะหลีเป๊ะ ก็มีบ่อน้ำบาดาร แต่ของใช้ต่างก็แพงพอควร เพราะกว่าจะมาจากฝั่งก็นานแสนนาน หากใครได้เยือนหมู่เกาะตะรุเตาก็คงเข้าใจพอควรครับ ใช้วิจารญาณในการซื้อการชมครับ
หมู่เกาะตุละเตานี้เค้าอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียง รีสอร์ทส่วนใหญ่เน้นธรรมชาติ ไม่หรูหราเท่าเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ เพราะธรรมชาติก็มีจำนวนจำกัด ไฟฟ้าก็เปิดปิดเป็นเวลา ตอนกลางวันไม่มีไฟใช้เพราะเค้าจะเปิดแค่ช่วงกลางคืนเท่านั้น สามารถใช้ไฟได้แค่เวลากลางคืนตั้งแต่ 18.00 น.- 06.00น. ดูเอเซีย.คอม อยากให้นักท่องเที่ยวทั้งหลาย ใช้น้ำไฟอย่างประหยัดด้วยนะครับ เพื่อการท่องเที่ยวของเราจะได้ยั่งยืนไปชั่วลูกชั่วหลานไงครับท่าน
ทริกน้อยๆที่ดูเอเซียนำเสนอท่านเกี่ยวกับการดำน้ำ หากใครที่ดำน้ำอยู่แล้วแสบๆคันๆนั่นหมายความว่าท่านได้มาถึงทะเลแล้ว เพราะทะเลที่มีความสมบูรณ์จะมีแตนทะเลอยู่ พิษของมันจะทำให้เราแสบๆคันๆ ทางแก้ก็ไม่ยากครับ อย่าตกใจไปแค่เราอดทนไว้ เพราะถ้าเราไปเกามันจะทำให้ลุกลามได้ บางคนแพ้ถึงต้องเข้าโรงพยาบาลได้เลย ไม่ต้องใช้ยาอะไรทั้งนั้น เราแค่เด็ดผักบุ้งทะเลก่อนขึ้นเรือมาก็พอแล้ว เอามาขยำๆ บดๆ แล้วมาถูหรือมาปิดตรงที่โดนแตนทะเลต่อย(ตรงที่มีอาการคัน) สักพักก็จะหายไปครับ
แมงกระพุน เราก็ต้องระวังด้วย เนื่องจากว่าแมงกระพุนมีพิษร้ายแรงมากหากโดนเข้าจังๆ แต่อย่าตกใจไปครับเนื่องจากว่ามันไม่ใช่ปลาฉลาม หากเจอมันให้เราพยายามว่ายหนีทันที อย่าหยุดดูความสวยงามของมัน(เพราะมันสวย) เพราะถ้าหากเราโดนเข้าที่หางที่สลวยๆของมัน สามารถทำให้เราเป็นอันตรายแสนสาหัสได้ เพราะพิษของมันสามารถทำให้ผิวเราไหม้เหมือนโดนไปคลอกได้เลย แต่ไม่ต้องกลัวครับลูกเรือเค้าจะคอยดูแลเราตลอดทริป ารดำน้ำ แต่ถ้าหากใครที่โดนพิษของมันก็ไม่ต้องตกใจถึงขนาดทำอะไรไม่ถูก ให้เราเอาปัสาวะหรือฉี่ของเรานี่แหละมาราดตรงแผลที่โดนพิษแมงกระพุน เพราะปัสาวะหรือฉี่ของเราเป็นกรดทำให้มีปฏิกิริยาต่อต้านพิษของแมงกระพุนได้ดีทีเดียว
หอยแม่น หากโดนเข้าพิษของมันเข้าจะทำให้เราเจ็บปวดมาก หากใครที่โดนโดยบังเอิญให้กลั้นหายใจทันทีเนื่องจากว่าการกลั้นหายใจทำให้พิษของมันไม่แล่นเข้าหัวใจและไม่ทำให้เรารู้สึกเจ็บ และรีบว่ายน้ำเข้าฝั่งทันที แล้วหาผักบุ้งทะเลมาบดๆ แล้วทาที่แผลทันที จะบรรเทาอาการของกาแพ้พิษหอยแม่นได้ดีเยี่ยม ทริกทั้งหมดนี้เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ขอขอบคุณ “พี่บัง”ไกด์ท้องถิ่นที่ให้ความรู้กับดูเอเซียครับ
ปะการังที่สวยงามของหมู่เกาะตะรุเตาสมบูรณ์มากหันซ้ายหันขวาไปทางไหนก็เจอดูเอเซีย.คอมอยากให้ทุกท่านได้เห็นได้ชมน้ำทะเลเขียวครามความสวยงามของธรรมชาติครบถ้วนดั้นด้นไปเก็บข้อมูลมาให้ท่านๆได้ชมครับ
หมู่เกาะตะรุเตานี้ห่างไกลมากจึงทำให้มีตำนานที่หลายๆคนเคยได้ยิน “คุกกลางทะเล” ด้วยความห่างไกลของท้องทะเลที่นี่จึงทำให้มี “คุกกลางทะเล” เรื่องจริงของประวัติศาสตร์ที่ทุกคนควรรู้ ดูเอเซีย.คอม จะนำเสนอเรื่องราวนี้ในตอนหน้าเราจะนำเสนอเรื่องราว “คุกกลางทะเล” ให้ทุกคนได้รู้ถึงการแหกคุกหลางมหาสมุทรที่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในอดีตแน่นอนครับ