เกาะเต่า เกาะสวรรค์ในไทย

0

เกาะเต่า ในอดีตจัดว่าเป็นดินแดนทุรกันดาร เป็นเกาะที่แทบไร้ผู้คนอาศัย จะมีชาวบ้านจากเกาะพะงันมาอพยพมาตั้งรกรากเมื่อนานมาแล้ว

อีกภาพหนึ่งของเกาะเต่า ที่เคยเป็นสถานที่กักกันนักโทษทางการเมือง จะมีนักโทษจากกบฏบวรเดช รวมถึงนักโทษที่ย้ายมาจากเกาะตะรุเตา ภาพและเรื่องราวความทุกข์ของนักโทษที่ต้องล้มตายด้วยความอดอยากและไข้ป่าก็มีบันทึกเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้หวนนึกภาพของเกาะเต่าในสมัยนั้น

ถึงวันนี้ เกาะเต่าได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและเกินกว่าที่คิดไว้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เลื่องชื่อ จากสวนมะพร้าวกลายเป็นบังกาโล รีสอร์ท ร้านค้าร้านอาหารมากมาย สิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะเต่ามีครบครัน อย่างบริเวณหาดทรายรีกลายเป็นศูนย์รวมการท่องเที่ยวที่แทบไม่ต่างจากพัทยา หรือถนนข้าวสาร พื้นที่ทุกซอกทุกมุมเป็นขุมทรัพย์ที่มีค่ามหาศาล

จากอดีตที่แทบเป็นเกาะร้าง ภาพครั้งแรกที่เราได้มาเยือนเกาะเต่าเมื่อหลายปีก่อน  คือได้เห็นชาวเกาะธรรมดาๆ ชาวบ้านมีน้ำใจโอบอ้อมอารีย์ เรายังจดจำกับมิตรภาพไมตรีของกำนันผู้ใหญ่บ้านบนเกาะเต่าที่ให้การต้อนรับของผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี และทุกครั้งที่เราไปเกาะเต่า ก็ต้องแวะไปเยี่ยมท่านอยู่เสมอ

จากแผ่นดินที่แทบไร้ค่า แม้ว่าแผ่นดินเกาะแห่งนี้จะไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากเป็นที่ดินของราชพัสดุ กรมธนารักษ์ แต่ชาวบ้านได้เปลี่ยนมือซื้อขาย จนกลายไปเป็นส่วนของนายทุนและชาวต่างชาติไปมากมาย ยังมีบางส่วนที่ชาวเกาะเต่ายังคงใช้สิทธิ์ของคนเกาะเต่าดูแลรักษาเอาไว้

ภาพความงดงามของเกาะเต่านั้นมีอยู่ตามเวิ้งอ่าวต่างๆ บริเวณหาดทรายรี หาดจปร. เคยเป็นวิถีชีวิตแบบชาวบ้านๆ  ปัจจุบันกลายเป็นท่องเที่ยว หรือที่พักบังกะโลไปหมดแล้ว แม้กระทั่งตามโขดเขา บนหินผา ก็ยังสามารถแปรสภาพมาเป็นบังกะโลได้ และอีกเกาะหนึ่งที่ทุกคนต้องกล่าวขานถึงความงดงาม คือ เกาะนางยวน เป็นเกาะสามเส้า ที่มีหาดทรายขาวเชื่อมต่อถึงกัน 

ถึงวันนี้ความเปลี่ยนแปลงของเกาะนางยวนได้เปลี่ยนไปมาก ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไปได้ เราไม่ได้ยึดติด เพราะกระแสและทิศทางการท่องเที่ยวย่อมเติบโตไปตามกาลเวลา  จากอดีตที่เราต้องเดินทางสู่เกาะเต่าต้องใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง แต่วันนี้เรือโดยสารความเร็วสูงที่ใช้เวลาสู่เกาะเต่าประมาณชั่วโมงครึ่ง

เริ่มจากตรอกข้าวสารที่มีบริการจำหน่ายตั๋วเดินทางสู่เกาะเต่า ทั้งรถโดยสารปรับอากาศและเรือสู่เกาะเต่าที่เราเลือกใช้ของเรือลมพระยา ราคาไปกลับอยู่ที่ 1,500 บาท หากเป็นวันธรรมดาจะน่าถูกกว่านี้

ช่วงเวลาที่ไม่นานเกินรอ เรือโดยสารก็มาจอดเทียบท่าที่เกาะนางยวน เพื่อส่งผู้โดยสารส่วนหนึ่ง ต่อจากนั้นก็เข้าไปเทียบท่าที่เกาะเต่า ขึ้นเกาะแล้วก็พบกับสิ่งบริการของธุรกิจท่องเที่ยวคือ การขายบริการที่พัก หรือรถแท๊กซี่ ที่เป็นรถปิกอัพ ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อไปส่งยังที่พักรีสอร์ทต่างๆ สำหรับเราก็เลือกหาเช่ามอเตอร์ไซค์มาหนึ่งคัน เพื่อตระเวนเที่ยวถ่ายภาพตามอ่าวต่างๆ ส่วนที่พักก็เลือกพักแบบง่ายๆ ไม่ไกลจากท่าเรือมากนัก เพราะจุดประสงค์ของเราเน้นเรื่องการถ่ายภาพ มากกว่าที่จะมาพักผ่อนท่องเที่ยว

ส่วนข้อมูลของเกาะเต่าก็มีโบรชัวร์ แผนที่แจกให้เรามาศึกษา โดยมีมอเตอร์ไซค์ขับไปตามเส้นทางต่างๆ ขอเน้นว่าอย่าซิ่ง มิเช่นนั้นแล้วเราอาจกระเป๋าฉีกเพราะมอเตอร์ไซค์ก็ได้ กระจกมองหลังแตกข้างหนึ่ง ต้องเปลี่ยนใหม่เป็นคู่ ร้านเขาขายเป็นคู่ ราคาในเมืองประมาณ 100-120 บาท บนเกาะเต่า 180-250 บาท แต่โทษทีครับ จะเปลี่ยนตามร้านบนเกาะก็เปลี่ยนได้ แต่ทางร้านรู้ว่าเป็นรถเช่า เขาจะไม่เปลี่ยนให้ ด้วยเหตุผลทางร้านรถเช่าจะมาโวยวายด่าเขา จึงตัดปัญหาไม่ยอมเปลี่ยนให้ แต่ทางร้านรถเช่าเขาจะคิดค่าเสียหายอยู่ที่ 500 บาท ซึมไปเลยพี่

อีกรายหนึ่งเจอไป 6 แผล เป็นรถล้มสีถลอก จ่ายไป 2,500 บาท แถมยังบอกว่า นี่เป็นราคาคนไทยน่ะครับ ถ้าเป็นชาวต่างชาติก็ไม่รู้จะมากกว่าเท่าไหร่

เส้นทางแรกที่เราเลือก คือ เส้นทางไปยัง อ่าวลึก และ อ่าวโตนด เป็นเส้นทางเดียวกัน แต่อ่าวลึกจะแยกขวาลงไป หากใครขับมอเตอร์ไซค์ไม่แข็งจริง อย่าเสี่ยงขับลงไป จอดรถตรงปากทางแล้วเดินลงไปดีกว่า เมื่อถึงบริเวณรีสอร์ทริมทะเล เราจะเห็นผืนน้ำทะเลสีครามใสในเวิ้งอ่าวของอ่าวลึก จัดว่าเป็นผืนน้ำทะเลที่สวยงามมาก

ภาพจากมุมสูงจะมองเห็นเวิ้งอ่าวลึกได้อย่างสวยงามและมีมิติ จะเห็นเฉดสีน้ำทะเลที่ไล่ระดับตามความลึกของผืนน้ำ มองเห็นฝรั่งมาเล่นน้ำและนอนอาบแดด ซึ่งเป็นภาพที่ชินตาสำหรับหมู่เกาะท่องเที่ยวเหล่านี้

จากอ่าวลึกกลับขึ้นมาแล้วเดินทางไปอ่าวโตนด ระหว่างทางจะมีจุดชมวิวจากร้านอาหารของพี่ เจ้าของแสนใจดีอีกรายหนึ่งให้เราได้เข้าไปถ่ายรูปในบริเวณร้าน ซึ่งจะมองเห็นเวิ้งอ่าวโตนดได้อย่างลงตัว แถมยังบอกว่าจากรีสอร์ทของเขาสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นในเวิ้งอ่าวโตนดได้อย่างงามทีเดียว

เดินถ่ายภาพทั่วหาดจนเหงื่อไหลท่วมตัว  จากนั้นก็เดินทางกลับ จนมาถึงทางแยกเข้าโกลเด้นวิว ขึ้นไปแล้วต้องไปเจอด่านเก็บเงินค่าผ่านพื้นที่ของเขา คิดหัวละ 50 บาท “เรื่องเงินน่ะมันเหนียวเฉพาะเรื่องเท่านั้น” เลยตัดสินใจกลับ เพราะคิดว่าแผ่นดินตรงบริเวณนี้ไม่ใช่ของคนเกาะเต่าซะแล้ว เราควรไปค้นหาในสิ่งที่ดีๆ ที่อื่นซะดีกว่า

ออกมายังถนนหลักแล้วเลี้ยวไปยังบ้านโฉลกบ้านเก่า ไปค้นหาภาพมุมสูงจุดชมวิว “จอห์น-สุวรรณ” ก็ถามทางชาวบ้านไปเรื่อย จนถึงฟรีดอมบีชรีสอร์ท เด็กก็บอกทางขึ้นไป จนเราได้พบภาพทิวทัศน์ของเกาะเต่าที่จุดชมวิวจอห์น-สุวรรณ มีลักษะเป็นเวิ้งอ่าวสองข้าง คล้ายกับเกาะพีพี อ่าวด้านซ้ายเป็นอ่าวโฉลกบ้านเก่า ส่วนอ่าวด้านขวาเป็นอ่าวเทียนออก มีผืนน้ำทะเลลึกกว่าอ่าวด้านซ้าย ซึ่งมีสีน้ำทะเลที่เข้มกว่า

หนึ่งวันสำหรับการท่องเที่ยวถ่ายภาพบนเกาะเต่านั้นยังไม่เพียง ตกเย็นเรามาเฝ้าชมพระอาทิตย์ตกทางด้านหน้าหาดบริเวณท่าเรือ หรืออ่าวแม่หาด ตลอดจนหาดจปร. หาดทรายรี จะเป็นมุมชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างดี โดยเฉพาะทางด้านหน้าท่าเรือจะเห็นหางยาวจอดเรียงราย เป็นการเติมแต่งให้มีเรื่องราวมากขึ้น

วันรุ่งขึ้นเราได้เลือกเดินทางภาพทิวทัศน์บนเกาะเต่า โดยเลือกเส้นทางหาดทรายรี ที่เราได้เห็นบรรยากาศไม่ต่างไปจากพัทยาหรือถนนข้าวสาร ช่วงเวลาไม่กี่ปี เกาะเต่าสามารถเปลี่ยนสภาพได้ถึงขนาดนี้ เมื่อออกจากหาดทรายรีเราเลือกไปเส้นทางสู่ อ่าวหินวง  สภาพเส้นทางก็ยากลำบากสำหรับคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ได้ไม่แข็งพอ เมื่อถึงจุดทางลาดชัน เราก็ไม่เสี่ยง จอดรถไว้ด้านบน แล้วเดินไปซะดีกว่า ทางลงยาวไปจนถึงที่ราบด้านล่าง ก็อยู่ชิดติดเวิ้งอ่าว ผืนน้ำทะเลสีครามเข็ม จะไม่มีหาดทราย จะมีแนวโขดหินน้อยใหญ่อยู่กลางผืนน้ำสีคราม มองเห็นสะพานเล็กที่ทอดบนโขดหิน เพื่อสะสะดวกในการเดิน มีฝรั่งนอนอาบแดด ในผืนน้ำก็ฝรั่งกำลังดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น

ช่วงบ่ายเราได้นัดเรือหางยาวเพื่อวนรอบเกาะ  เพราะบางจุดรถไม่สามารถเข้าถึงได้ เราจึงต้องใช้การเดินทางด้วยเรือ วนรอบเกาะมาถึงหาดทรายนวล หาดทรายทอง ก่อนถึงแหลมตาโต๊ะเราก็เจอคลื่นใหญ่ จนต้องไปจอดหลบคลื่นอยู่พักใหญ่ แล้วออกเดินทางต่อไป สภาพอากาศยังถือว่าแย่ มีเมฆฝนจนต้องผ่านเลยไปหลายอ่าว จนมาถึง อ่าวม่วง  ก็จอดเรือขึ้นไปถ่ายภาพบนรีสอร์ท ซึ่งเป็นจังหวะเดียวที่สภาพอากาศเปิด แสงแดดส่องจนเห็นน้ำทะเลใส ถ้าสภาพอากาศมีแดดอย่างนี้ ที่เกาะนางยวนก็ไม่น่าผิดหวัง

เราวนเรือหางยาวมาถึง เกาะนางยวน ขึ้นเกาะต้องเสียเงินคนละ 30 บาท ชัดเจนที่สุด เป้าหมายที่เกาะนางยวน คือ ภาพจากมุมสูงที่จุดชมวิวบนยอดเขา แต่เราได้เลือกมุมย้อนกลับไปยังยอดเขาชมวิว เนื่องจากว่าท้องฟ้าด้านดังกล่าว มีท้องฟ้าแจ่มใส เลยต้องถ่ายภาพด้านนี้ให้เต็มที่เสียก่อนจากนั้นจึงเดินขึ้นเขาชมวิว ชมเวิ้งอ่าวและสันทรายหมู่เกาะสามเส้าที่เชื่อมต่อด้วยสันทรายขาวสะอาด เป็นภาพที่สวยงามอยู่เสมอ แม้ว่าจะมีสิ่งก่อสร้างหรือไม่มีสิ่งก่อสร้าง เกาะนางยวน เป็นสวรรค์เล็กๆ ที่สงบเงียบด้วยกติกาของผู้ถือกฎที่ทุกคนต่างยอมรับในสิ่งที่เป็นอยู่

เราเลือกถ่ายภาพเกาะนางยวนในมุมต่างๆ  แต่ยังมีมุมด้านหลังที่เราต้องปีนป่ายหินขึ้นไปอีกหน่อย มองย้อนกลับออกไปก็จะเห็นเกาะเต่า ทางด้านหน้ามองเห็นหาดทรายรี หาดจปร. และหาดแม่หาด เป็นโค้งอ่าวที่โอบผืนทะเลสีครามกว้างใหญ่กลับมาเกาะเต่า ก็ยังมีจุดเด่นที่ให้เราได้เดินทางถ่ายภาพอีกมากมาย จุดมุมสูงอีกหลายมุมที่เราพยายามค้นหา ในเวลาที่จำกัด ซึ่งก็นับว่าคุ้มค่ากับการเดินทางสู่ดินแดนเกาะสวรรค์เล็กที่อยู่ไม่ไกลเกินฝัน ถึงวันนี้ เกาะเต่า ใครๆ ก็ไปได้

เชิญแสดงความคิดเห็น