เทศกาลเที่ยวหอยหิน กินลำไย ไหว้หลวงปู่ขาว

0

จังหวัดหนองบัวลำภู จัดงานเทศกาล “เที่ยวหอยหิน กินลำไย ไหว้หลวงปู่ขาว” ในปีนี้จัดขึ้นระหว่าง 5-7 ส.ค. 54  ณ พิพิธภัณฑ์หอยหิน 150 ล้านปี เผยกำหนดให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี หวังเฉลิมพระเกียรติในหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา เทศกาลเที่ยวหอยหิน กินลำไย ไหว้หลวงปู่ขาวเป็นงานเทศกาลประจำปี ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ/วิสาหกิจ/ภาคเอกชน/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/และ ประชาชนชาวจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกันจัดขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดหนองบัวลำภูให้ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และสนับสนุนเกษตรกรจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์ OTOP ในจังหวัดหนองบัวลำภู

พิธีเปิดงานมีขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคม 2554 เวลา 09.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์หอยหิน 150 ล้านปี บ้านห้วยเดื่อ โดยมีกิจกรรมที่หลากหลาย รวมถึงการแข่งขันและการจัดประกวดในงาน ประกอบด้วย กิจกรรมไหว้หลวงปู่ขาว การปฏิบัติธรรม ที่วัดถ้ำกลองเพล , กิจกรรมเทศกาลปลอดเหล้าและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ , การแสดงของนักเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 , การแข่งขันกินลำไย , การแข่งขันส้มตำลีลา (เขยฝรั่ง)  ,การแข่งขันจักรยานเสือภูเขา , การแข่งขันวิ่งมินิมาราธอน , ชกมวย , ประกวดธิดาลำไย , ประกวดขบวนแห่ , การประกวดธิดาลำไย , แข่งขันเต้นฮูล่าฮูป , การประกวดอาหารสะอาดรสชาติอร่อย , ประกวดมิสฟอสซิล (สาวประเภทสอง) , การแสดงนิทรรศการ และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร พร้อมทั้งการแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ด้วย

จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นดินแดนที่แยกตัวออกมาจากจังหวัดอุดรธานี เมื่อปี 2534 พื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นเทือกเขาที่มีแมกไม้นานาพันธุ์และสวยงาม มีพื้นที่ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ๆ หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น วัดถ้ำกลองเพล ที่หลวงปู่ขาว อนาลโย เกจิอาจารย์ชื่อดังสายหลวงปู่มั่นเคยจำวัดนี้ ภูหินลาดช่อฟ้า สมรภูมิรบของนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เมื่อครั้งเสียงปืนแตกและคอมมิวนิสต์เคยยึดครองพื้นที่ซึ่งเป็นจุดปะทะ ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐและสหายเก่ามานานแล้ว นอกจากนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์สุสานหอยหนึ่งร้อยห้าสิบล้านปีที่เป็นที่เก็บ ฟอสซิลของซากหอย และกระดูกไดโนเสาร์ที่หาชมได้ยาก มีหมู่บ้านปั้นหม้อดินที่มีฝีมือ และลำไยซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนลำไย มีพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกลำไย ซึ่งนับถึงวันนี้มีพื้นที่ 1,500 ไร่ เกษตรกรผู้ปลูกลำไย 156 ราย ซึ่งในแต่ละปีสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึง 1,326 ตัน สร้างรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนลำไยปีละประมาณ 10 ล้านบาท สำหรับปีนี้เมื่อช่วงฤดูหนาว ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นติดต่อกันเป็นเวลานาน ส่งผลให้ลำไยออกผลผลิตได้ดีในทุกพื้นที่ คาดว่าจะผลิตลำไยออกสู่ตลาดมากกว่าปีที่ ผ่าน ๆ มา ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีผลผลิตและรายได้ดีกว่าทุกปี

เทศกาลเที่ยวหอยหิน กินลำไย ไหว้หลวงปู่ขาว” จะเป็นการ ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยในตำบลโนนทัน ให้สามารถมีตลาดและจำหน่ายได้ในราคาที่เหมาะสม ตลอดจนให้ประชาชนได้เลือกซื้อสินค้าที่เป็นของป่า ศึกษาวิวัฒนาการของซากหอยและฟอสซิล ไดโนเสาร์ และทำใจให้สงบอยู่ในเนื้อนาบุญ ตลอดจนท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่หลากหลาย องค์การบริหารส่วนตำบลโนนทัน จึงร่วมมือกับจังหวัดหนองบัวลำภู และองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู จัดเทศกาลส่งเสริมการท่องเที่ยว เที่ยวหอยหิน กินลำไย ไหว้หลวงปู่ขาว ประจำปี2552 ขึ้นภายใต้คำขวัญที่ว่า “พิพิธภัณฑ์หอยหิน แดนไดโนเสาร์ หลวงปู่ขาวแดนธรรม หัตถกรรมปั้นหม้อดิน ถิ่นลำไยหวาน สวยตระการภูช่อฟ้า” มาที่นี่ครั้งเดียวเที่ยวชมได้หลายประเภท 24-28 กรกฎาคม นี้ ณ บริเวณตลาดลานค้าชุมชนบ้านห้วยเดื่อ ต.โนนทัน อ.เมืองหนองบัวลำภู เลือกชม เลือกซื้อ และท่องเที่ยวได้หลากหลายกิจกรรม

หลวงปู่ขาว เป็นพระธุดงค์กรรมฐานที่มีนิสัยใจคอเด็ดเดี่ยว มี ความอุตสาหวิริยะ พากเพียร และพร้อมด้วยความกล้าทั้ง 3 อิริยาบถ ท่านออกธุดงค์และพบปะกับศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป ตั้งแต่ร่างกายแข็งแรงด้วยพละกำลังจนกระทั่งย่างเข้าวัยชราสุขภาพไม่แข็งแรง จึงมิได้ออกบิณฑบาต และคณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมใจกันสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์ในบริเวณที่พระราชทาน เพลิงศพ โดยรวบรวมบริขารและของใช้ประจำวันที่จำเป็น พร้อมทั้งประดิษฐานรูปปั้นของท่านไว้ ณ สถานที่นี้ เพื่อเป็นที่สักการบูชาและรวม จิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวพุทธตลอดกาลนาน นอกจากภายในวัดถ้ำกลองเพลจะมีเจดีย์หลวงปู่ขาว อนาลโย แล้วภายในวัดที่สำคัญอีกแห่งคือ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง หลวงปู่ขาว อนาลโย ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์จะมีภาพวาดที่เป็นภาพของหลวงปู่นั่งบำเพ็ญเพียรภาวนาตาม ลำพังในป่า มีช้างเชือกหนึ่งเดินมุ่งมาที่หลวงปู่บำเพ็ญเพียรอยู่ในกลด ช้างใช้งวงเป่ากลดจนปลิว หลวงปู่นั่งอย่างสงบ แผ่เมตตาจิตให้แก่ช้าง ซึ่งดูเหมือนช้างจะเข้าใจ แต่ยังวนเวียนอยู่แถวนั้นเป็นเวลานานจนหลวงปู่รำคาญ สงสัยช้างจึงยังไม่ไปเสียที คิดจะเทศนาให้ช้างฟัง จึงกล่าวขึ้นว่า “เรา มานั่งอยู่นี้ไม่เป็นอันตรายกับ ใครดอกแต่มุ่งบำเพ็ญเพียรแสวงหาวิมุติสุขต่างหาก ทำไมจึงมารบกวน เรา…เจ้าเกิดมาเป็นสัตว์ ถ้าต้องการสร้างกุศลทั้งภพนี้และภพหน้าก็ จงรับเอาธรรมะของพระพุทธองค์ไปปฏิบัติ…”

หลังจากหลวงปู่เทศนาโปรดสัตว์จบแล้ว ช้างก็จากไป…นี่เป็นภาพ ๆ หนึ่งที่บรรยายให้เห็นถึงบารมี ความมีเมตตาสงสารของหลวงปู่ที่มีต่อสรรพสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่ทั้งหลาย…แล้ว ท่านแวะไปเยี่ยมชมและนมัสการอัฐิธาตุสังขารของ ท่านแล้วหรือยัง ที่สำคัญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน เป็นการส่วนพระองค์ทรงวางศิลา ฤกษ์เจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ขาว อนาลโย เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2525และต่อมาเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2532 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงบรรจุอัฐิธาตุ และเปิดเจดีย์พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว อนาลโย ซึ่งเจดีย์พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นศูนย์กลางที่ตั้งเมรุ พระราชทานเพลิงศพและเป็นที่เคารพสักการะ ของพุทธศาสนิกชนทั่วสารทิศที่หลั่งไหลมานมัสการอัฐิธาตุของหลวงปู่ขาว อนาลโย สำหรับเจดีย์แห่งนี้ใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 8,500,000 บาท

เชิญแสดงความคิดเห็น