ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศแห่งธรรมชาติ สายลม แสงแดด และต้นไม้เขียวชอุ่ม วันนี้ดูเอเซียจะพาเพื่อนๆไปค้นหาความงามในป่าใหญ่ที่มีชื่อว่า หินกูบ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติบนป่าเขาสอยดาวในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ที่ใครๆ ต่างรู้จักกันดีในเรื่องเป็นดินแดนผลไม้ที่เลื่องชื่อ ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน มังคุด เงาะ ลงกอง ขนุน กระท้อน ระกำ สละ เป็นต้น ซึ่งจะให้ผลผลิตในช่วงต้นฤดูฝน
เส้นทางสู่ยอดเขาหินกูบ ที่เราจะพาไปค้นแหล่งธรรมชาติที่สวยงามนั้น ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง และป่าทึบ โดยเราคาดว่าในช่วงยามเย็นต้นห้วงวสันต์ จะเกิดเป็นภาพที่งามงดดั่งคำร่ำลือว่าเป็นจุดชมทะเลหมอกที่งามที่สุดในภาคตะวันออก การเดินทางสู่หินกูบ ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาสอยดาวใต้ อันเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เราต้องต้องไปเริ่มต้นที่หน่วยพิทักษ์ป่าทุ่งเพล ตั้งอยู่บริเวณบ้านทุ่งเพล ตามเส้นทางสายจันทบุรี-โป่งน้ำร้อน เมื่อเลยอำเภอมะขาม เลยบ้านโป่งโรงเซ็นก็จะมีทางแยกซ้ายไปยังวัดเขาบรรจบซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกันที่เข้าไปยังบ้านทุ่งเพลนั่นเอง
การเที่ยวป่า หรือเดินป่าแต่ละครั้ง เราต้องติดต่อคนนำทางที่ชำนาญเส้นทาง พร้อมกับอุปกรณ์เดินป่าที่เหมาะสมโดยเฉพาะป่าดิบชื้นเช่นนี้จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ทั้งเสื้อกันฝน เสื้อกันหนาว ถุงนอน เต็นท์ เตาแก๊ส รองเท้าเดินป่าและเป้บรรจุสัมภาระที่มีขนาดเหมาะสม และอุปกรณ์เหล่านี้สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ www.outdoor.co.th ที่จัดจำหน่ายอุปกรณ์เดินป่าคุณภาพดีแต่ราคาเกินคุ้มค่ะ
เราอาจได้เห็นทะเลหมอก ถ้ามีฝนตกช่วงกลางวันอย่างนี้ ตอนเช้าน่าเจอทะเลหมอกที่ยอดหินกูบค่อนข้างแน่นอน เจ้าหน้าที่นำทางบอกให้ทราบถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ไม่มีความแน่นอนนัก พร้อมกับบอกให้เตรียมตัวเรื่องฝน และทากที่อาจต้องเจอในเส้นทางขึ้นยอดเขาด้วย เมื่อสัมภาระขึ้นหลังพร้อมย่ำเท้าก้าวสู่ป่าใหญ่ เมื่อเริ่มแรกสภาพเส้นทางยังเป็นที่ราบ ทำให้เราเดินได้สบายๆไม่เหนื่อยล้าเท่าใด และเมื่อเดินขึ้นไปสูงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งได้พบเห็นป่าระกำที่ให้ผลสุกแดง น่าอร่อยประเภทว่าเด็ดมากินได้เลย รสชาติเปรี้ยวจี๊ดสุดๆ มีเขล็ดลับว่าหากจะกินระกำหวานๆ ให้เลือกพวงที่มีร่องรอยสัตว์ป่าแทะกิน ซึ่งอาจเหลือพวงไม่กี่ผลก็ตามแต่รับประกันความหวานได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ เมื่อผ่านเส้นทางป่าระกำ จากนั้นก็จะเป็นเส้นทางที่เริ่มขึ้นเขา ผ่านป่าดิบชื้นขึ้นไปยังระดับสูงประมาณ 900 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าจะต้องเวลาเดินขึ้นเขาไปอีก 3-4 ชม. เป้าหมายข้างหน้าคือเราจะเห็นเพิงถ้ำใหญ่ที่เราต้องเดินลอดผ่านจากถ้ำแรกแล้วขึ้นไปยังถ้ำที่สอง นั่นหมายความว่าเรากำลังใกล้ถึงเป้าหมายไปทุกขณะ แม้ว่าฝนจะตกหนักแค่ไหน เราก็ต้องขึ้นให้ถึงเพิงถ้ำอันเป็นจุดที่พักบนยอดหินกูบที่สามารถกันแดดกันฝนได้ เมื่อเราไปถึงจุดหมายที่ปลายหมอกเราก็ได้สัมผัสม่านหมอกที่แผ่ปกคลุมกระจายทั่วป่า พร้อมกับภาพวิวข้างหน้าที่เป็นหมอกขาวโพลน สวยงามจริงๆค่ะ สภาพอากาศเช่นนี้ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นวิวในช่วงเย็นได้เลย จึงต้องเก็บตัวอยู่ในเต็นท์และใกล้กองไฟเพื่อความอบอุ่น รอลุ้นว่าวันรุ่งขึ้นว่าจะพบกับบรรยากาศ และวิวทิวทัศน์ที่สวยๆ ได้มากน้อยแค่ไหน
ประมาณตี 4 ครึ่ง เราตื่นขึ้นมาต้องการเก็บบันทึกภาพทะเลหมอก สำหรับเช้าวันนี้มีสิทธิ์ได้ลุ้น เพราะเราได้ห็นสายหมอกล่องไหลอยู่ในหุบเขาด้านล่าง หากว่าจะเลือกหามุมที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์พระอาทิตย์ขึ้น ก็ต้องออกไปชะง่อนหน้าผาที่อยู่ห่างจากเพิงถ้ำใหญ่ไปประมาณ 20 เมตร ภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้าจะเห็นกลุ่มทะเลหมอกเคลื่อนตัวจับกลุ่มเป็นฟูฟ่อง มองเห็นผาหน้าหมีมีลักษณะเป็นโขดเขากลมๆ พร้อมกับมีก้อนหินก้อนหนึ่งคล้ายกับหมีก้มหน้าวางทับซ้อนบนยอดจนได้เรียกตามลักษณะเช่นนั้น เมื่อเวลาล่วงเลยจนเริ่มมองเห็นแสงจากพระอาทิตย์ที่เคลื่อนตัวขึ้นมาเหนือกลุ่มทะเลหมอก และเป็นโอกาสจังหวะที่ดี เมื่อลำแสงที่ส่องลอดทะเลหมอกออกมาเป็นแสงสีทองที่เกิดเป็นพลังความงดงามในช่วงยามเช้า มันคุ้มค่ากับการเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อว่าจะเกิดภาพความงามเช่นนี้หรือไม่
ในบริเวณยอดหินกูบจะมีลักษณะเป็นป่าหินที่วางคลุมบนยอดเขาและเป็นหินขนาดใหญ่ เมื่อเราขึ้นไปยังด้านหลังที่พัก ก็จะเป็นตำแหน่งบริเวณที่ตั้งของหินกูบ อันความหมายของคำว่า “กูบ” คือที่นั่งบนหลังช้างนั่นเอง หากว่าเราจะค้นหาหินกูบกันให้เห็นกันชัดๆ ก็ต้องเดินขึ้นไปยังก้อนหินใหญ่ มีลักษณะเป็นสันแคบๆ ที่เรียกว่า “หลังช้าง” แล้วจะมีแท่งใหญ่ตั้งวางเด่น นั่นก็คือ “หินกูบ” สรุปแล้วก็คือ ที่มาของหินกูบซึ่งเราขึ้นมาค้นความหมายของธรรมชาติที่มีความสวยงามของผืนป่าเขาสอยดาวในภาคตะวันออก และคงแฝงด้วยความทรัพยากรป่าไม้ที่สมบูรณ์ ซึ่งจะให้เกิดความสมดุลของวงจรสรรพสิ่งชีวิตอีกมากมาย แต่สำหรับหินกูบก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เรานำเสนอแค่ภาพความงดงามของธรรมชาติที่หลายๆ คนสามารถขึ้นไปสัมผัสได้
เพียงแค่การบรรยายเท่านี้ ก็สัมผัสได้ถึงลมเย็นๆ สายหมอกที่แผ่ปกคลุมขุนเขา และอากาศที่แสนสดชื่นบริสุทธิ์ที่หาได้ยากในเมืองใหญ่ เพื่อนๆสนใจจะเดินป่าหินกูบ สามารถติดต่อสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากคุณเดชา สุทธิแพทย์ หัวหน้าหน่วยฯ ทุ่งเพล โทร.084-864-9357
เอาท์ดอร อินโนเวชั่น
ที่อยู่ : 3899 สันติคามซอย 1 ถนนสุขุมวิท 109 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10270
โทร : 02-744-6350-4
Email : Shopbaring@outdoor.co.th
Fax : 023994017-18
ติดต่อสอบถาม สั่งซื้อสินค้า ช็อปแบริ่ง : 02-7446350 ต่อ 409
มือถือ : 081 939 7401
Website : http://www.outdoor.co.th/