อากาศเริ่มหนาวแล้วครับที่ดอยอินทนนท์วันที่ 17 ตุลาคม 2557 วัดได้ 8 องศาเซลเซียส เริ่มหนาวนักท่องเที่ยวก็เริ่มเยอะครับ ดูเอเชียพาไปอัพเดท จุดท่องเที่ยวบนดอยอินทนนท์ชมสองพระมหาธาตุเจดีย์ที่ตั้งตะหง่านบนดอยอินทนนท์ ดอยที่สูงที่สุดของประเทศไทยสูงจากระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยครับ (พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงจะแล้วเสร็จทันหนาวนี้) จากนั้นเดินทางต่อไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร เพื่อไปชมจุดสูงสุดในประเทศไทย และเดินชมธรรมชาติในป่าที่สวยงามในเส้นทางดอยอ่างกา ส่วนดอยกิ่วแม่ปานมีการปิดปรับปรุงเส้นทาง และจะเปิดให้เดินเที่ยวได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 ครับ
บันไดเลื่อนขึ้นพระธาตุเจดีย์
พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริกำลังอยู่ในช่วงการปรับปรุง |
ประวัติคราวๆ ของพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
สองพระมหาธาตุนี้สร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย โดยพระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบเมื่อปี พ.ศ. 2530 และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริสร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบเมื่อปีพ.ศ. 2535 พระมหาธาตุทั้ง 2 องค์นี้มีรูปทรงคล้ายคลึงกัน คือมีฐานเป็นรูป 12 เหลี่ยม มีระเบียงแก้วโดยรอบเป็น 2 ระดับ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปบูชา รอบบริเวณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์โดยรอบได้อย่างสวยงาม สภาพภูมิอากาศมีเมฆปกคลุมและฝนตกเกือบตลอดทั้งปี ประชาชนและนักท่องเที่ยว ให้ความสนใจเดินทางไปนมัสการและเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก
หมอกลงจัด
บริเวณพื้นที่โดยรอบพระมหาธาตุเจดีย์ ได้จัดเป็นสวนพรรณไม้หลากหลายชนิดที่สวยงาม มีมุมถ่ายภาพสวยเก็บเป็นที่ระลึกมากมาย พระมหาธาตุเจดีย์ทั้ง 2 องค์มีบันไดเลื่อน ฟรี ไว้บริการคนชราไม่ต้องกลัวขึ้นไม่ไหวครับ กองทัพอากาศเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น. (ค่าเข้าชมคนละ 40 บาท) ภายในมีร้านค้าร้านอาหารห้องน้ำบริการครับ
จากป้ายสูงสุดแดนสยามเดินตามทางไปอีกนิดจะพบจุดสูงสุดที่แท้จริง วัดจากระดับน้ำทะเลได้ 2,565 เมตร
จุดที่สูงที่สุด
กู่พระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครองค์สุดท้าย และกู่เจ้าพระชายาเจ้าดารารัศมี
เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาใกล้กับจุดสูงสุดแดนสยาม
เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาอยู่ใกล้ๆ กับยอดดอยอินทนนท์จุดสูงสุดแดนสยาม โดยมีถนนกั้นกลางเดินข้ามถนนมาอีกฝั่งจะพบป้ายชัดเจนครับว่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยอ่างกา มีทางเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางสีเขียว สร้างด้วยสะพานไม้อย่างดีชมป่าโบราณที่อุดมสมบูรณ์
ทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้เขียนไว้บริเวณทางเข้าดอยอ่างกาว่า “จากย่างก้าวนี้ ท่านกำลังจะเข้าสู่ดินแดนหิมาลัยที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงลดหลั่นกัน ทำให้ยอดดอยอินทนนท์และบริเวณนี้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย ได้รับอิทธิพลจากอากาศที่หนาวเย็น”
บริเวณอ่างกานี้เป็นป่าดงดิบในเขตอบอุ่นที่มีระบบนิเวศเป็นแบบพิเศษ กล่าวคือ กลางป่าจะเป็นแอ่งน้ำซับที่มีลักษณะเป็นพรุในเขตอบอุ่น มีการทับถมของเศษซากกิ่งไม้ใบไม้ และมอส ที่ไม่ผุสลายตัวอย่างสมบูร์จากอากาศที่หนาวเย็นตอลดปีเนืองจากเป็นเขตที่มีระบบนิเวศแบบพิเศษนี่เองจึงทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งพันธุ์พืช และสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่นกุหลาบพันปี ข้าวตอกฤาษี เฟินชนิดต่างๆ หนูผีอ่างกา หนูน้ำดอยอ่างกา และนกกินปลีหางยาวเขียว เป็นต้น
ข้ามถนนมาก็เจอป้ายทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยอ่างกา
มุมให้ความรู้ที่จุดบริการประชาชน
เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เขียวขจีทั้งปี หนาวด้วย
เดินบนสะพานไม้ที่มีมอส เฟินเกาะเต็มไปหมด
ตอกฤาษี
ตลอดเส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยอ่างกา มีข้อมูลให้ความรู้เป็นระยะๆ
การเดินทาง
โดยรถยนต์
จากตัวเมืองเชียงใหม่ขับตามถนนทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-จอมทอง พอถึงตัวเมืองจอมทองจะมีป้ายใหญ่เด่นชัดมากให้เลี้ยวขวาทางหลวง 1009 ขึ้นดอยอินทนนท์ไปอีก 40 กิโลเมตร (สองพระมหาธาตุเจดีย์จะเห็นเด่นอยู่ซ้ายมือก่อนถึงจุดสูงสุดแดนสยาม 5 กิโลเมตร)
ทางรถโดยสารประจำทาง
นั่งรถสีเหลืองที่ประตูเชียงใหม่ สายเชียงใหม่-จอมทอง แล้วต่อรถสีเหลืองอีกครั้งสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ครับ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-5346000 ต่อ 52450