วันนี้ดูเอเซียก็เลยมีแผนเที่ยวเสาร์ – อาทิตย์ ใกล้ๆ กรุงเทพฯ ได้เดินตลาดน้ำชิล ๆ ชิมขนมไทยหวาน หอม อร่อย พร้อมกับชมวิถีชีวิตชาวมอญ บนเกาะเล็กๆ ในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อำเภอ เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นี่เองค่ะ
ขึ้นเรือกันก่อนค่ะ
เกาะเกร็ด เป็นอำเภอเล็กๆ ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา โดยนักท่องเที่ยวจะต้องน้ำรถไปจอดไว้ที่บริเวณวัด ที่ให้บริการจอดรถเพื่อขึ้นเรือข้ามฝั่งไปเกาะเกร็ด เราต้องไปลงเรือข้ามฟากที่ท่าเรือใน วัดสนามเหนือ ปากเกร็ด
สำหรับทางมาวัดสนามเหนือ ถ้าขับรถมา ใช้ทางด่วนก็สะดวกดี มุ่งหน้ามาทางแจ้งวัฒนะ แล้วใช้ทางออกที่มาทาง ปากเกร็ด ลงจากทางด่วนมาแล้ววิ่งตรงผ่านแยกปากเกร็ดมา (ไม่ต้องขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำ) พอพ้นแยกมานิดเดียวจะเลี้ยวเข้าซอยที่มีป้ายชี้ทางไปเกาะเกร็ดก็ได้ วิ่งมาเรื่อย ๆ จะเจอวัดสนามเหนืออยู่ทางซ้ายมือ
หรือถ้าไม่เลี้ยวที่ซอยแรก จะเลยมาเข้าซอยที่มีห้างโลตัสอยู่ปากซอยพอดีก็ได้ (สังเกตว่าตรงปากซอยจะเป็นจุดกลับรถพอดี) วิ่งต่อจนสุดซอยพอต้องโค้งซ้ายวัดสนามเหนือก็อยู่ตรงนั้นพอดี แต่แนะนำให้เลี้ยวตั้งแต่ซอยแรกเลย เพราะเลยเข้ามาจะผ่านตลาดที่รถจะค่อนข้างคับคั่ง มีค่าโดยสารเรือเพียงแค่ 2 บาท ไป- กลับ เท่านั้นค่ะ
เมื่อข้ามฝั่งมาเราก็จะพบกับ วิถีชาวมอญ ของชุมชนเกาะเกร็ด ทั้งวัดวาอาราม และขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ที่อยู่ภายในชุมชน และที่สำคัญ มีขนมขายตลอดทาง เกาะเกร็ดจะคับคั่งมาก ในวันเสาร์ – อาทิตย์ แบบนี้ ส่วนวันธรรมดา จะมาเที่ยวก็คงต้องเป็นการชมวัดวาอาราม เพราะที่เกาะเกร็ด มีวัดเยอะมาก ๆเลยล่ะค่ะ
เกาะเกร็ด เกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงส่วนที่เป็นแหลม ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระแห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2265 เรียกว่า “คลองลัดเกาะเกร็ดน้อย” (คลองลัดเกาะเกร็ดใหญ่อยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ขุดลัดแม่น้ำเจ้าพระยาตอนท้ายอำเภอสามโคกมาทางใต้ถึงคลองขวางเชียงราก) ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางแรงขึ้นเซาะตลิ่งทำให้คลองขยาย แผ่นดินตรงแหลมจึ่งเกลายเป็นเกาะ มีชื่อเดิมว่า เกาะศาลากุน
เกาะเกร็ด มีความเจริญมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สังเกตได้จากวัดวาอารามต่างๆ บนเกาะส่วนใหญ่จะเป็นศิลปะในสมัยอยุธยา แต่คงจะมาร้างคนเมื่อพม่ามายึดกรุงศรีอยุธยา หลังจากกอบกู้เอกราชได้ พระเจ้าตากสินมหาราชจึงโปรดให้ชาวมอญเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่ ชาวมอญบนเกาะเกร็ดนั้นมีทั้งที่เข้ามาในสมัยกรุงธนบุรี และสมัยรัชกาลที่ 2 ต่อมาเมื่อตั้งอำเภอปากเกร็ดขึ้นแล้ว เกาะศาลากุน จึงมีฐานะเป็นตำบล และเรียกกันว่าตำบลเกาะเกร็ด เกาะนี้จึงมีชื่อเรียกกันเป็น เกาะเกร็ด
เกาะเกร็ดมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม ร้านเครื่องปั้นดินเผาเล็กๆ น่ารัก ราคาถูก ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา และเครื่องปั้น ทางศิลปะแขนงต่างๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ บนเกาะเกร็ดยังมีกิจกรรมให้ทำกันอีกเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็น การปั่นจักรยานรอบเกาะ อย่าพลาดจอดแวะลงเดินเลือกซื้อของฝากจำพวกเครื่องปั้นดินเผา และ แวะชิมขนมไทย ทอดมันหน่อกะลา ข้าวแช่ กะละแม และคะนอนจิม อาหารชาวมอญโบราญ แล้วไปปิดท้ายด้วยการนั่งเรือกินลมชมทัศนียภาพรอบเกาะเกร็ดกันก็ได้
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญบนเกาะเกร็ด ได้แก่ วัดปรมัยยิกาวาส (วัดปากอ่าว) ในวัดนี้มีสิ่งที่น่าชมอยู่หลายอย่าง ที่ท่าเรือวัดจะพบปราสาทไม้ห้ายอดซึ่งเคยเป็นที่ตั้งเหม (โลงศพมอญ) ของอดีตเจ้าอาวาสตั้งตะหว่างอยู่ ส่วนพระอุโบสถมีการตกแต่งด้วยวัสดุนำเข้าจากอิตาลี ศิลปะยุโรปแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 5, วัดเสาธงทอง เป็นวัดเก่า เดิมชื่อ “วัดสวนหมาก” ด้านหลังของโบสถ์ที่วัดนี้ เป็นที่ประดิษฐานเจดีย์ที่สูงที่สุดของอำเภอปากเกร็ด ตัวพระเจดีย์เป็นศิลปะอยุธยาย่อมมุมไม้สิบสอง มีเจดีย์องค์เล็กเป็นบริวานโดยรอบอีก 2 ชั้น ส่วนด้านข้างโบสถ์มีเจดีย์องค์ใหญ่อีก 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังหรือทรงลังกา อีกองค์หนึ่งเป็นเจดีย์ทรงมะเฟือง สวยงามมาก, วัดไผ่ล้อม สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย มีโบสถ์ที่งดงามมาก ลายหน้าบันจำหลักไม้เป็นลายดอกไม้
มีคันทวยและบัวหัวเสาที่งดงามเช่นกัน คนมอญเรียกวัดนี้ว่า “เพี๊ยะโต้”, วัดฉิมพลีสุทธาวาส มีโบสถ์ขนาดเล็กงดงามมากและยังมีสภาพสมบูรณ์แบบดั้งเดิม หน้าบันจำหลักไม้เป็นรูปเทพทรงราชรถล้อมรอบด้วยลายดอกไม้ ซุ้มประตูเป็นทรงมณฑป ซุ้มหน้าต่างแบบหน้านาง ยังคงเห็นความงามอยู่ และฐานโบสถ์โค้งแบบเรือสำเภา, บ้านกวานอาม่าน (หมู่บ้านช่างปั้น) พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา จัดแสดงเครื่องปั้นดินเผามอญลายโบราณ, ศูนย์เครื่องปั้นดินเผาหมู่ 1 เป็นหมู่บ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผา ภาชนะของใช้ชีวิตประจำวัน เช่น กระถาง โอ่งน้ำ ครก สามารถเดินดูการสาธิตการแกะสลักลายเครื่องปั้นดินเผา และเลือกซื้อของที่ระลึกได้ค่ะ, คลองขนมหวาน หรือ คลองบางบัวทอง ชมการทำขนมไทย ทองหยิบ ทองหยอด ชิมและเลือกซื้อหาเป็นของฝากจากแหล่งผลิต
การเที่ยวเกาะเกร็ด
1.เดินเที่ยว – เกาะเกร็ดเป็นเกาะเล็กๆ สถานที่ท่องเที่ยวก็ตั้งติดๆ กัน สามารถเดินไปตามทางได้เรื่อย แดดไม่ร้อนมากค่ะ ลมแม่น้ำก็พัดเย็นสบาย ถ้าเหนื่อยก็แวะพักซื้อขนม หรือแวะนั่งร้านอาหารริมน้ำ สถานที่แต่ลแห่งก็อยู่ใกล้ๆ กัน ระยะเดินถึงค่ะ แต่อย่าคิดจะเดินรอบเกาะนะคะ หลายกิโลอยู่
2.ปั่นจักรยานรอบเกาะ – ค่าเช่าจักรยานคันละ 40 บาท มีให้เช่า 2 จุดคือ ท่าเรือวัดปรมัยยิกาวาส และเท่าเรือวันป่าฝ้าย ขาไปปั่นสบายลมเย็น ขากลับปั่นจะเอียงเพราะตะกร้าจักรยานเต็มไปด้วยขนมและของกิน แต่สนุกมากค่ะ ได้เที่ยวแล้วก็ได้ออกกำลังกายไปในตัว พอปั่นช่วงคนคึกคักอาจจะต้องมีลงมาจูงจักรยานบ้างนะคะ
3.นั่งเรือรอบเกาะ – มีเรือข้ามฟากที่วัดสนามเหนือ ข้ามมาที่ท่าน้ำวัดปรมัยยิกาวาส หากจะนั่งเรือรอบเกาะ มีเรือหางยาว นั่งได้ประมาณ 8 คน เหมาลำลำละ 500 บาท แต่แวะคลองขนมหวาน ราคา 700 บาท เรือเล็กเช่าจากปากเกร็ด เข้าคลองขนมหวาน ราคา 150 – 200 บาท
การเดินทางมาเกาะเกร็ด
รถยนต์ – ให้ขับมาทางห้าแยกปากเกร็ด พอผ่านไฟแดง 4 แยกปากเกร็ดแล้ว ให้เลี้ยวซ้ายแรก ก่อนถึงโรงหนังเมเจอร์ฮอลลีวูด ไปตามถนนภูมิเวท ตรงไปจนเกือบสุดทาง เลี้ยวขวา จอดรถ 2 ที่ คือในวัดสนามเหนือ (ค่าจอดรถคันละ 30 บาท) นั่งเรือข้ามฟากจะไปขึ้นเกาะตรงวัดปรมัยยิกาวาส จากตรงนี้สามารถเดินเที่ยวได้เลย เป็นจุดคึกคักมีของขาย หรือจะไปจอดที่วัดกลางเกร็ด ก็ได้ (ค่าจอดรถบางทีก็เก็บบางทีก็ไม่เก็บ) นั่งเรือข้ามฟากไปขั้นเกาะที่วัดป่าฝ้าย จากจุดนี้จะเดินเท้า หรือเช่าจักรยานวนรอบเกาะก็ได้ค่ะ ค่าเรือข้ามฟาก คนละ 2 บาทเท่านั้น เรือลำใหญ่พอสมควร
ทางเรือ – ขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยาออกจากท่าวัดราชสิงขร ลงที่ท่าน้ำจังหวัดนนทบุรี ค่าโดยสารคนละ 20 บาท จากนั้นเช่าเหมาเรือหางยาวที่ท่าน้ำนนทบุรีไปที่เกาะเกร็ด หรือนั่งรถประจำทางจากท่าน้ำนนฯ ไปปากเกร็ดแล้วลงเรือที่วัดสนามเหนือ หรือวัดกลางเกร็ด
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก travel.mthai.com