ล่องแก่งลำน้ำว้า

0

ใครเบื่อ ยกมือขึ้น!!! คราวนี้ดูเอเซียดอทคอมจะพาทุกคนไปเปลี่ยนบรรยากาศการท่องเที่ยวกันบ้างดีกว่า หลังจากที่เราพาเที่ยวแบบหมูๆมาเยอะแล้ว วันนี้เราจะพาไปเที่ยวแบบหินๆกันบ้าง พร้อมแล้ว เตรียมตัวและหัวใจให้ดีๆ เพราะทริปนี้มีแต่ความสนุกสนาน หวาดเสียว ตื่นเต้น เร้าใจ แบบต่อเนื่อง ขอย้ำว่าต่อเนื่องนะครับกิจกรรมคราวนี้ที่เราจะพาทุกคนไปสนุกก็คือ กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำว้า สายน้ำใส ไหลเย็น เห็นตัวปลา รายล้อมไปด้วยขุนเขา ป่าไม้ และน้ำตก แค่จินตนาการตามก็มีความสุขแล้วใช่มั้ยครับ

แต่การล่องแก่งที่ลำน้ำว้าที่เราจะไปล่องกันนั้น ระยะทางยาวกว่า 80 กม.เลยนะคร้าบ ไหวกันรึเปล่าเอ่ย? หากใครอยากมาสนุกที่นี่ แค่เตรียมสภาพร่างกายและสภาพจิตใจให้พร้อม ท่านก็จะลืมความเซ็ง เรื่องแย่ๆ และพร้อมออกผจญภัยแล้วละครับ

การล่องแก่งน้ำว้า แบ่งออกเป็นสามตอน คือ

ล่องแก่งน้ำว้าตอนล่าง อยู่ในเขตอุทยานนแห่งชาติแม่จริม บ้านทรายมูล ตำบลน้ำปาย ห่างจากอำเภอแม่จริม 16 กม. สนุกได้ตลอดทั้งปีมากกว่า 10แก่ง ตั้งแต่ระดับ 1-3 โดยจุดเริ่มต้นของการล่องแพยางที่เหมาะสมสำหรับน้ำว้าตอนล่าง เริ่มต้นจากที่ทำการอุทยานแม่จริมไปถึงหาดบ้านไร่ อำเภอเวียงสา ช่วงนี้แก่งต้นไทย แก่งหลวงที่สนุกและตื่นเต้น ได้ชมความหลากหลายของพรรณไม้ นานาพันธุ์สองฝั่งลำน้ำว้า สามารถล่องแก่งได้ตลอดทั้งปี

ล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง จุดเริ่มต้นล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง เริ่มจากบ้านสบมาง อ.บ่อเกลือ สิ้นสุดที่แก่งวังลูน ตำบลหนองแดง อ.แม่จริม ผ่านพื้นที่อุทยานแก่งชาติขุนน่าน และอุทยานแห่งชาติแม่จริม มีเกาะแก่งตั้งแต่ระดับ 1-5  ตามมาตรฐานสากลกว่า 100แก่ง ตลอดเส้นทางล่องแก่งกว่า 80กม. ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ น้ำตกเล็กๆ สองฟากฝั่งน้ำว้า นอกจากนี้ยังสามารถ เดินป่าไปเที่ยวชมน้ำตกภูฟ้า ที่ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดของเมืองน่านอีกด้วย การล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง สามารถล่องแก่งตั้งแต่ 1คืน หรือ 3วัน 2คืน สามารถล่องแก่งได้ระหว่างเดือนกันยายน-มกราคม

ล่องแก่งน้ำว้าตอนบน เป็นช่วงต้นๆ ของลำน้ำว้า มีความยาวของลำน้ำประมาณ 35กม. ลักษณะทั่วไป ช่วงแรกลำน้ำจะตื้น ไม่กว้างเท่าใดนัก แต่กระแสน้ำไหลเชี่ยว พอผ่านพ้นเขตหมู่บ้านไปจะมีแก่ง โขดหิน หินใต้น้ำ ติดต่อยาวตลอด ลำน้ำลึก แคบเป็นช่วงๆ มีความสูงชัน และคดเคี้ยว กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราด สิ่งที่เพิ่มความรุนแรง คือมีโขดหินขนาดใหญ่ขวางสายน้ำ ทำให้เกิดกระแสน้ำไหลวนรุนแรง มีน้ำตกเป็นระยะๆ บางช่วงของแก่งน้ำมีลักษณะเป็นน้ำตกสูง เบื้องล่างเป็นกระแสน้ำวน ดังนั้น การล่องแก่งน้ำว้าตอนบน เหมาะสมสำหรับนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบการผจญภัย สามารถล่องแก่งได้ระหว่างเดือนกันยายน – ตุลาคมที่เราพาไปล่องในครั้งนี้เป็นแก่งน้ำว้าตอนกลางนะครับ ซึ่งเป็นการล่องแบบ 2 วัน 1 คืนนะคับ ทริปนี้เราเริ่มจากเดินทางไปชมความงามของพระอาทิตย์ตกกันที่ ลานชมดาว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ที่นี่มีความพิเศษตรงที่ถ้าหากถึงฤดูดอกภูคาบานแล้วละก็ จะสวยงามมากๆและมีต้นดอกภูคาให้พบเห็นเพียงแห่งเดียวในโลกอีกด้วย จากนั้นเราจึงไปต่อกันที่บ่อเกลือวิวน่าน เพื่อรับประทานอาหารขึ้นชื่อของบ่อเกลือ พออิ่มหนำสำราญแล้วเราก็เข้าพักผ่อนกันที่ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา พักผ่อนเอาแรงเพื่อที่จะลุยกับแก่งน้อยใหญ่ในวันถัดไป

การล่องแก่งเริ่มต้นด้วยความตื่นเต้นของทุกๆคน เพราะเป็นการล่องแก่งในช่วงที่น้ำค่อนข้างจะเยอะและเป็นการเปิดฤดูกาลการล่องแก่งอย่างเป็นทางการ ก่อนลงล่องแก่งเราก็ต้องจำเป็นที่จะเรียนรู้วิธีการพาย การรับฟังคำสั่งของนายท้ายเรือ เพื่อที่จะได้ต่อสู่กับกระแสคลื่นธรรมชาติได้อย่างออกรส นอกจากนี้ยังต้องสวมเสื้อชูชีพ หมวกกันน็อค เพื่อป้องกันอุบัติเหตุอีกด้วย แค่นี้เราก็พร้อมที่จะลุยกันแล้ว เรือ 1 ลำสามารถนั่งได้ทั้งหมด 8คน รวมนายหัวและนายท้ายเรือแล้ว ที่แก่งลำน้ำว้าแห่งนี้มีความพิเศษมากๆ ด้วยลักษณะทางภูมิประเทศที่ใกล้ฝั่งลาว มีหินแก่งหลากสี น้ำตกน้อยใหญ่ให้พบเห็นตลอดทาง พืชพรรณป่าไม้อุดมสมบูรณ์ เราล่องแก่งไปสักพักก็จะเจอไร่ข้าวซึ่งมีสีสันเขียวอ่อนเขียวสดสลับกันไป งดงามเพลินตาไปอีกแบบ แรกๆในการล่องก็จะเน้นชมวิว ทิวทัศน์และหวาดเสียวเบาๆ เล็กน้อยถึงปานกลาง เล่นเอาหายใจหายคอกันเกือบไม่ทัน เพราะบางท่านอาจจะไม่เคยล่องแก่งมาก่อน ก็ต้องอาศัยเทคนิคส่วนตัวในการคว้าเชือกในเรือเวลาที่เจอแก่งใหญ่ๆ ไม่งั้นได้ลงไปว่ายน้ำเล่นแน่ๆเราพักทานอาหารเที่ยวฃงกันริมทาง ข้างๆสายน้ำเล็กที่ไหลไปบรรจบลำน้ำว้า บรรยากาศได้ใจจริงๆ กินข้าวห่อใบตอง น้ำพริกตาแดง ใส่อั่ว ไก่ทอด ผัดับแกงอีกสองอย่าง พร้อมด้วยผลไม้ล้างปาก ก่อนออกเดินทางล่องแก่งเพื่อเจอกันของจริง เพราะหลังจากนี้จะเจอแก่งอีกเยอะเลย จนจำชื่อแก่งไม่ได้กันทีเดียว อาทิ แก่งรถเมลล์ แก่งเสือเต้น แก่งโตน แก่งใหม่ ฯลฯ นับกันไม่หวาดไม่ไหวเลยหล่ะครับ ช่วงบ่ายนี้ต้องรวมพลังข้าวเหนียวช่วยกันพาย ช่วยกันจ้ำตลอดเวลา เพราะเวลาเจอกระแสน้ำแรงๆแล้วหากเราไม่พายเราก็จะถูกพัดวน หรือถูกดูดให้จมได้ง่ายๆเลยครับ การเล่นกันธรรมชาตินั้นทั้งสนุกตื่นเต้น และอันตรายในเวลาเดียวกัน แต่หากเราไม่ประมาท การเล่นครั้งนี้ก็จะผ่านพ้นไปด้วยดีอย่างแน่นอน การล่องแก่งเราจะรู้ก่อนเลยว่าแก่งข้างหน้าหวาดเสียวและความยากอยู่ในระดับไหน สังเกตง่ายๆจากเสียงกรี๊ดของลำข้างหน้าหนะครับ เพราะจะมีเสียงร้องโหยหวยกรีดร้องกันจนลืมตัวดังมาเป็นระยะๆ สิ้นสุดการล่องแก่งวันแรกที่ 60 กม.และแวะพักผ่อนในป่าข้างลำน้ำว้า ทางผู้ประกอบการค่อนข้างจัดการพื้นที่ในการการเต้นและตั้งแคมป์ได้เป็นอย่างดี ทั้งห้องน้ำ และที่อาบน้ำก็มีสะดวกสบาย ไม่ต้องกลัวลำบากนะครับ

วันที่สองของการล่องแก่งนี่ มีแต่ไฮไลท์ทั้งนั้นเลยนะครับ เพราะตั้งแต่ลงเรือไปแป๊บเดียวก็เจอแก่งยากๆเข้าให้เลยครับ สนุกตื่นเต้นเร้าใจมากๆ ตลอดเส้นทาง 20 กม.ในวันที่สองนี้ เราล่องแก่งกันอย่าสนุกสนานจนลืมเหนื่อยไปเลย ทั้งๆที่หลายๆคนเมื่อยเนื้อตัวจากการพายเรือเมื่อวาน และเป็นที่น่าจดจำประทับใจของหนุ่มดูเอเซียเรามากๆ ก็คือแก่งสุดท้าย (กรุณาอย่าเรียกว่าแก่งสุดท้าย เพราะลำไหนเรียกเค้าบอกว่า คว่ำทุกราย ฮ่าฮ่าฮ่า) แก่งนี้เป็นแก่งที่เราตั้งใจว่าจะมาดักถ่ายภาพเป็นลำแรก เพราะเป็นแก่งที่สวยงามและยาวมากๆ แต่แล้วความบังเอิญ เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็มาเยือนเมื่อลำเราที่เป็นลำแรก ออกเดินทางมาก่อนพายเรือจ้ำเอ้าอย่างสุดกำลัง ผ่านแก่งน้อยใหญ่มาด้วยประสบการณ์โชกโชนกว่า 70 กม. ใครจะคาดคิดละครับว่า เรือลำนี้ซึ่งไม่เคยคว่ำเลย กลับต้องพ่ายแพ้ให้กับธรรมชาติ คว่ำไปแบบสวยงาม ด้วยสติที่ทุกคนมีและได้รับการอบรมก่อนลงล่องแก่งว่าหากเรือล่มต้องทำอย่างไรบ้าง จำทำให้ทุกคนปลอดภัยครบ 32ประการ เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนเลยจริงๆ บอกได้คำเดียวว่าน้ำว้าอร่อยกว่าที่คิด ฮ่าฮ่าฮ่า

จากนั้นเราจึงได้ร่ำลากับสายน้ำว้าที่แสนจะบริสุทธิ์เหมือนสาวน้อยแรกแย้ม เพื่อไปพักต่อกันในเมืองน่าน ที่ศศิดารา รีสอร์ท แต่ก่อนไปแวะทางก๋วยเตี๋ยวที่อำเภอแม่จริมเพื่อเพิ่มพลังงานกันสักนิด ตอนเย็นก็เป็นงานแถลงข่าวเปิดฤดูกาลล่องน้ำว้าตามที่เราได้ประชาสัมพันธ์ไปแล้ว เช้าวันต่อมาเราออกเดินทางมาซื้อของฝากกันที่ ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP เมืองน่าน ที่นี่เป็นแหล่งรวมของดีทุกอย่างของเมืองน่านเลยก็ว่าได้ เลือกซื้อของติดไม้ติดมือกันได้แล้ว เราจึงไม่รอช้าไปแวะนมัสการพระธาตุช่อแฮ พระธาตุประจำปีเกิดปีขาล วัดพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่กันเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว สิ้นสุดทริปด้วยการรับประทานอาหารกันที่ร้านระเบียงบึงจ.แพร่ และออกเดินทางสู่จังหวัดพิษณุโลกเพื่อขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ แล้วพบกันใหม่นะจ๊ะสาวน้อยสุดแสนตื่นเต้นเร้าใจ “ลำน้ำว้า”

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณผู้ประกอบการท่องเที่ยวล่องแก่งที่ให้ความช่วยเหลือดูแลตลอดการเส้นทางของกิจกรรมล่องแก่ง ไม่ว่าจะเป็น น่านทัวร์ริ่ง น้ำว้าทัวร์ ริเวอร์ราฟท์ น่านม่วนทัวร์ น่านแอ็ดเวนเจอร์ น่านปางช้าง และแจงแอนเจทัวร์ ที่ส่งตัวแทนมาดูแลทริปนี้อย่างสุดกำลัง ด้วยรอยยิ้มและความเต็มใจ รักเมืองไทย เที่ยวน่านกันเยอะๆนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าน่านสวยบริสุทธ์ขนาดไหนสนใจสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานแพร่ 34/130-131 ถนนเหมืองหิต ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ 54000 โทรศัพท์ 0 5452 1118, 0 5452 1127 โทรสาร 0 5452 1119
E-mail: tatphrae@tat.or.th

เชิญแสดงความคิดเห็น