เที่ยวชมสังคมทะเล (SEA SOCIETY) กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดกิจกรรม ในโครงการเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนภาคกลาง ในวันที่ 18-20 มิถุนายน 2554 โดยจัดการเรียนรู้ในตอน เที่ยวชมสังคมทะเล (SEA SOCIETY) เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว แบบสร้างจิตสำนึกเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะปลุกระดมแนวคิดของนักท่องเที่ยวให้หันมาท่องเที่ยวแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อม และท่านจะได้มีส่วนร่วมในการร่วมกันลดภาวะโลกร้อนเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากภาวะโลกร้อน เพื่อมุ่งสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตั้งแต่เส้นเทางจากกรุงเทพมหานคร – เพชรบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ เป็น เวลา 3 วัน 2 คืน โดยมีน้อง ๆนักศึกษาคณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ กว่า 80 คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยค่ะ
กิจกรรมในโครงการเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนภาคกลาง ในตอน เที่ยวชมสังคมทะเล (SEA SOCIETY) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง ในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมให้เยาวชน ใช้เวลาในวันหยุดทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและตอบสนองนโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และการกระจายรายได้สู่ภูมิภาค นอกจากนี้ยังช่วยปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนและเยาวชนรุ่นใหม่ เป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้แก่นักท่องเที่ยว และการ พัฒนาจิตสำนึกความเข้าใจของนักท่องเที่ยวในการทำคุณประโยชน์ให้แก่สิ่งแวดล้อม
เริ่มจากการเดินทางในวันแรกด้วยรถโค้ชปรับอากาศ VIP นำน้องๆ ไปสู่ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 6 (จ.เพชรบุรี) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่ง ของกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่หน้าวัดบางขุนไทร มีหน้าที่ในการจัดการทรัพยากรป่าชายเลน เพื่อการสงวน อนุรักษ์ และฟื้นฟู โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน และปกป้องกันปราบปรามการบุกรุก ทำลายป่าชายเลนใน พื้นที่จังหวัดเพชรบุรีกว่า 35,000 ไร่ รวมทั้งประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ แก่ประชาชนทั่วไปให้มีจิตสำนึกในการ ปกป้องดูแลรักษาไว้ ซึ่งความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้คงอยู่ และอำนวยประโยชน์สูงสุดอย่างยั่งยืน
น้องๆ ทุกคนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศของป่าชายเลน รวมถึงร่วมกันปลูกป่า (ต้นโกงกาง) โดยจะต้องเปลี่ยนรองเท้านินจาเพื่อเตรียมตัวลุยโคลนตม ในป่าโกงกาง เพื่อนำต้นไม้ เข้าไปปลูกคนละ 2 ต้น ซึ่งบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน น้องๆ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการปลูกป่าโกงกาง นอกจากนี้ยังมีน้ำใจ และความสามัคคี ในการช่วยเหลือเพื่อนๆ ในทีมอีกด้วย การปลูกต้นโกงกางในภารกิจแรก น้องๆ ร่วมกันปลูกต้นไม้ได้ถึง 160 ต้นเลยทีเดียวค่ะ เสร็จภารกิจแรก น้องๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ก็รีบมุ่งหน้าไปทานอาหารร้านครัวเม็ดทราย ที่ อ.ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ร้านอาหารริมทะเล บรรยากาศดี ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลางได้จัดเตรียมไว้ให้พร้อมหมดแล้ว
ภารกิจที่ 2 ณ ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศน์ป่าชายเลนสิรินาถราชินี อยู่ใน ตำบลปากน้ำปราณ เป็นหนึ่งในโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ ที่ บ.ปตท.จำกัด ( มหาชน) น้อมเกล้าฯ ถวายแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเนื่องในวดรกาศที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ทรงพระชนมายุครบ 72 พรรษา ทาง ปตท.จึงพัฒนาแปลงปลูกป่าโกงกางในบริเวณพื้นที่นากุ้งเก่าเพื่อให้กลับมาอุดมสมบรูณ์และสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์จากพื้นที่เสื่อมโทรมได้ โดยจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศน์ป่าชายเลนขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน นักเรียน ได้เข้ามา ศึกษา วิจัย หรือเที่ยวชม ซึ่งพื้นที่แห่งนี้เป็นศูนย์ศึกษาเรียนรู้พื้นที่ที่ถูกทำลายแห่งแรกของประเทศไทย
น้องๆ จะถูกแบ่งเป็น 6 ทีมเพื่อทำกิจกรรม walk rally ศึกษาเกี่ยวกับระบบนิเวศของป่าชายเลน รวมถึงประเภทของพืช และสัตว์ต่างๆ ในระบบนิเวศป่าชายเลน โดยร่วมหา TC ในแต่ละฐาน และร่วมเล่นเกมส์ไปพร้อมๆ กับการตอบคำถามเก็บคะแนนเพื่อชิงรางวัล ในงานเลี้ยงคืนนี้ ..,, ซึ่งในทุกๆ กิจกรรม แต่ละฐาน น้องๆ ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศป่าชายเลน พร้อมกับสนุกสนานไปกับเกมส์ที่พี่ๆ เตรียมไว้ให้ …เรียกว่าตลอดทางต้องคอยตอบคำถาม กับแผ่นป้ายปริศนา,, น้องๆ ก็สนุกสนามตอบคำถามกันอย่างเต็มที่ .. เรียกว่าสนุกด้วย ได้ความรู้ด้วย คุ้มจริงๆ เลย
จากนั้น มุ่งหน้าสู่ที่พักบนชายหาดปราณบุรี พักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ ริมชายหาด ณ โกลเด้น บีช รีสอร์ทแอนด์สปา น้องๆ ก็พักผ่อนตามอัธยาศัย และรับประทานอาหารค่ำรวมกัน ที่โรงแรม โดยมีงานเลี้ยงแจกของรางวัล จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง และผู้สนับสนุน มาแจกให้น้องๆ เพียบเลยค่ะ ทั้งเล่นเกมส์ ประกาศรางวัลทีมผู้ชนะเลิศการแข่งขัน Walk rally ตอบคำถามชิงรางวัล บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน นอกจากนี้ยังมีมินิคอนเสิร์ต ให้น้องๆ ได้สนุกสนาน ก่อนนอน
ตื่นเช้า สดใส รับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ที่โรงแรม เตรียมตัว เดินทางไปปฏิบัติภารกิจ เยาวชนท่องเที่ยวหัวใจใหม่ ในโครงการเรียนรู้วิถีชิวิตภาคกลาง กันต่อ เริ่มด้วยการเดินทางไปกราบสักการะหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่วัดตาลเจ็ดยอด ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัดตาลเจ็ดยอดก็คือรูปหล่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ขนาดหน้าตักกว้างถึง 11 เมตร สูง 18 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นรูปหล่อองค์ สมเด็จพระพุฒาจารย์โตที่ใหญ่ที่สุดในโลก และด้านหน้าองค์สมเด็จโต มีการเทหล่อรูปเหมือนขนาดบูชาเท่าองค์จริง ของครูบาอาจารย์หลายรูป อาทิ พระอาจารย์มั่น หลวงปู่ทวด หลวงปู่ศุข หลวงปู่สด และพระพุทธรูปอีกหลายองค์นอกจากนี้ได้ทำการปรับปรุงสถานที่ ภูมิทัศน์ บริเ วณวัดตาลเจ็ดยอดให้ดีขึ้นมีความร่มรื่น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยี่ยมเยือนวัด นับว่าวัดแห่งนี้ก็เป็นวัดที่มีความน่าสนใจอีกวัดหนึ่งมากทีเดียว นอกจากจะได้ไปกราบนมัสการรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ก็ยังจะได้ไปพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย
จากนั้น ก็เดินทางไปปฏิบัติภารกิจ เที่ยวชมสังคมทะเล (SEA SOCIETY) ตามคอนเซ็บต์ที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หว้าก้อ จ.ประจวบคีรีขันธ์ น้องๆ จะได้สัมผัสกับมหัศจรรย์โลกใต้น้ำ มีทั้งสีสันความสวยงามของสัตว์น้ำหลากหลายชนิดทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มในมิติใหม่ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ ซึ่งภายในแบ่งพื้นที่เป็น 6 ส่วน คือ ส่วนอัศจรรย์โลกสีคราม, ส่วนจากขุนเขาสู่สายน้ำ, ส่วนสีสันแห่งท้องทะเล, ส่วนเปิดโลกใต้ทะเล, ส่วนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและส่วนกิจกรรมปฏิบัติการ ต่อด้วย สัมผัสกับ โลกดาราศาสตร์และอวกาศ ในอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ที่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาเพื่อทรงพิสูจน์การเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ที่ทรงคำนวณไว้ล่วงหน้าถึง 2 ปี จนเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ
แล้วน้อง ๆ ทั้ง 80 คน ก็กลับมาพักผ่อน และร่วมทำกิจกรรมในโรงแรม เล่นวอลเล่บอลชายหาด พักผ่อนตามอัธยาศัย ทานอาหารค่ำร่วมกัน และตื่นเช้าชมชายหาดปราณบุรี และอำลาภารกิจด้วยการซื้อของฝากที่ร้านขายของฝาก จ.เพชรบุรี ที่ร้าน ชิดชนก ..
เรียกว่าได้เที่ยวชมกันแบบเต็มอิ่ม ได้ทั้งความรู้และความสนุกสนาน,, จากกิจกรรมในโครงการเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนภาคกลาง ตอน เที่ยวชมสังคมทะเล (SEA SOCIETY) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง ที่น้องๆ ทั้ง 80 คน ได้ร่วมกันทำกิจกรรมแบบการท่องเที่ยวสีเขียวเพื่อแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงการใส่ใจสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมอันหลากหลาย ที่แต่ละคนเลือกทำได้ตามความสมัครใจ ได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน แถมยังได้คืนความสมดุลให้กับธรรมชาติ พร้อมทั้งเต็มอิ่มกับกิจกรรมท่องเที่ยวด้วยความสุขและใส่ใจไปพร้อมกับการสร้างโอกาสในการรับรู้ และประสบการณ์ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ทั้งได้เที่ยวและยังได้ตอบแทนโลกใบนี้ ด้วยการทำกิจกรรมแบบส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม สนุก ได้ความรู้ และคุ้มค่าจริงๆ ค่ะ
ทั้งนี้ ดูเอเซียดอทคอม ต้องขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคกลางที่เชิญดูเอเซียดอทคอมร่วมทริปเก็บภาพความสนุกสนาน และแสนประทับใจจากการท่องเที่ยวดีๆคืนธรรมชาติสู่โลกกับน้องๆ 80 คนที่ได้ร่วมปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาส ส่งเสริมและตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติ ทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น