ตลาดน้ำถือเป็นตลาดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ต่างชื่นชอบในบรรยากาศแบบชาวบ้านและอาหารของอร่อยแบบท้องถิ่นดั้งเดิมโบราณ ตลาดน้ำในแถบภาคกลางนั้นมีอยู่หลายแห่งหลายที่ ทริปนี้เราจะพาย้อนกลับไปสู่วิถีชีวิตของคนเมืองหลวงในอดีต หนีห่างจากมลพิษในถนน ไปนั่งพักผ่อนริมน้ำกินของอร่อยกับอากาศดี ๆ ที่ ตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาดน้ำของคนกรุงครับ
ตลาดน้ำตลิ่งชัน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางขุนศรี หรือที่คนทั่วไปคุ้นเคยเรียกกันติดปากว่า คลองชักพระ ก่อตั้งขึ้น เมื่อปี พ.ศ 2530 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นศูนย์ รวมผลิตภัณฑ์และผลิตผลทางการเกษตร โดยความคิดสร้างสรรค์ ของท่านผู้อำนวยการเขตตลิ่งชันในสมัยนั้นที่ชื่อ นายประชุม เจริญลาภ โดยให้เป็นตลาดของการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า ต่าง ๆ ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวตลิ่งชัน เช่นก๋วยเตี๋ยว ซึ่งในเขตตลิ่งชันมีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่มาก เริ่มแรกได้ทำเป็นแพไม้ไผ่ขึ้นประมาณ 4 แพ และในปี พ.ศ 2542 ก็ได้สร้างเป็นแพเหล็กขึ้นใหม่มีทั้งหมด 11 แพ และต่อมาก็ได้สร้างสะพานปูนเป็นแนวที่นั่งกลางน้ำสำหรับทานอาหารพักผ่อนมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นตลาดน้ำที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองหลวงครับ เราเข้าไปชมไปชิมกันเลย
ระหว่างทางเดินลงไปตลาดริมน้ำก่อนจะลงไปสู่ตัวแพ สองข้างทางเต็มไปด้วยของขายละลานตามากมาย ทั้งขนมหวานแบบตำรับโบราณขนานแท้ที่หาทานได้ยาก ผลไม้เนื้อนุ่มหวานฉ่ำมากมายหลายชนิด อาหารการกินอีกเพียบแต่ละร้านต้องมีชื่อติดตลิ่งชันทุกร้านสูตรโบราณทั้งนั้นครับ เช่นก๋วยเตี๋ยวตลิ่งชัน,เนื้อย่างตลิ่งชัน,ขนมหวานตลิ่งชัน,ก๋วยจั๊บตลิ่งชันและอีกเยอะตลิ่งชันครับ นอกจากนั้นยังมีงานหัตถกรรมฝีมือดีน่าชื่นชมจากภูมิปัญญาชาวบ้าน รวมถึงของดีฝั่งธนหลายชนิด มีต้นไม้และกล้วยไม้นานาพันธุ์ที่เพาะส่งตรงมาจากสวนในละแวกเขตตลิ่งชัน,บัวสามสี,ดอกไม้สีสันสวยงาม และอีกมากมายหลายชนิดเหลือเกิน มีเหล่าคุณลุงคุณป้าที่นั่งยิ้มแย้มแจ่มใส ส่งเสียงทักทายกันแบบชาวบ้านสวนริมฝั่งคลองของแท้ แต่มีเสน่ห์ตรงภาษาพูดที่ออกเหน่อ ๆ นิด ๆ ทำไห้ได้บรรยากาศของตลาดแบบท้องถิ่นเดิมมากขึ้นครับ
พอดูเอเซีย.คอม เดินมาก่อนถึงตัวแพก็รู้สึกหอมหมูย่างมาก อดไม่ไหวแล้วขอชิมหน่อย เพราะหอมเหลือเกิน ร้านหมูสะเต๊ตลิ่งชันครับท่าน ริมทางเดินก่อนลงแพ อันนี้ขอยกนิ้วให้กับน้ำจิ้มสูตรเด็ด ที่มีถั่วลิสงบด ผสมลงไปด้วย ความข้นของตัวน้ำจิ้มและมีรสหวานมันหน่อย ๆ กับเนื้อหมูที่ย่างสุกแบบนุ่มนิ่ม สุด ๆ มันช่างเข้ากันอย่างลงตัว เด็ดจริง ๆ
เดินกินหมูยังไม่หมดปากก็มาเจอร้านขนมเบื้องญวณ ตลิ่งชัน ที่คนขายยืนยิ้มแป้นอยู่ติดกับทางลงแพ การันตีว่าขนมเบื้องญวณร้านนี้ ครบเครื่องสูตรแท้ดั้งเดิม ส่วยผสมข้างในใส่ไข่คลุกเคล้าเป็นอย่างดีจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว สีสันนี่น่าทานมาก พอได้ทานชิ้นแรกก็รูสึกว่ารสชาติแปลกกว่าขนมเบื้องทั่วไป อร่อยหวานมันและหอมหวนชวนใจเป็นพิเศษ อร่อยแบบตลิ่งชันครับ
เพลินเลยครับ เดินชมเดินชิมกันจนแบบลืมตัวไปกับความอร่อยของอาหารตลิ่งชัน จะรู้ตัวอีกทีก็อิ่มแบบสุด ๆ และข้าวของเต็มมือหมด แล้วก็ถึงตลาดริมน้ำพอดิบพอดีเลยโอ้ของกินเยอะอีกแล้วพวกเรา เอาท้องไหนใส่นี่ ของกินเยอะจริง ๆ
ในตัวตลาดจัดเป็นแบบบรรยากาศริมคลองในอดีต มีอากาศที่บริสุทธิ์วิ่งวนเข้าไปในลมหายใจของผู้คนที่เข้าไปสัมผัส ราวกับได้ย้อนยุคกลับไปสู่วิถีชีวิตในอดีตที่มลพิษยังไม่เบียดเบียนธรรมชาติดังเช่นทุกวันนี้ เป็นตลาดกึ่งวิถีดั้งเดิม ที่ผสมผสานวิถีชีวิตริมน้ำของชาวบ้านกับความสมัยใหม่และธรรมชาติเอาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้เป็นบรรยากาศของตลาดน้ำในอดีต ที่ผู้คนต่างทำมาหากินในแบบพอเพียง ด้วยการเก็บพืชผัก ผลไม้ จากไร่สวนมาขาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามฤดูกาล บางคนก็แปลงกายเป็นแม่ค้าโชว์ฝีมือทำอาหารรสเด็ดตามสไตล์ที่ถนัดในเรือลำเล็กที่พายมาจากท่าน้ำหน้าบ้าน เข้ามาจอดลอยลำรวมตัวกันสรรค์สร้างความอร่อยกันแบบพึ่งพาอาศัยของคนในลำเรือกับคนบนฝั่ง เป็นวัฒนธรรมของตลาดที่อบอุ่นเต็มไปด้วยกลิ่นไอของความเอื้ออาทรและสายสัมพันธ์ที่แนบแน่น ซึ่งอาหารส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปที่ ก๋วยเตี๋ยว,ก๋วยจั๊บ ,ปลาเผา กุ้งเผา ,อาหารซีฟู้ด, และอาหารชนิดต่าง ๆ ที่บรรทุกมาอย่างเต็มที่และความเป็นแม่ค้าใจดีก็พกมาเต็มรำเรือเช่นกัน
ในน้ำนั้นเต็มไปด้วยเรืออาหารอร่อยนานาชนิด เป็นของดีฝั่งธนทั้งนั้น ส่วนทางด้านบนก็เต็มไปด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศที่นั่งทานอาหารและร้องเรียกสั่งอาหารการกินกับแม่ค้าที่อยู่ด้านล่างในเรือที่แต่งตัวแบบย้อนยุคใส่เสือหม้อฮ่อมสะอาดสะอ้านมีทั้งรุ่นหนุ่มสาวไปจนถึงรุ่นคุณตาคุณยาย ด้านบนก็มีน้อง ๆ ที่รับหน้าที่เป็นสารถีส่งอาหารให้กับลูกค้าอย่างรวดเร็วทันใจ ถึงที่นั่ง
คนเข้ามาเที่ยวเยอะ มาก ๆ บรรยากาศของตลาดน้ำคึกคักทั้งบนฝั่งและในพื้นน้ำ ในเรือแต่ละรำก็เต็มไปด้วยอาหารการกินมากมายโดยเฉพาะ ปลาช่อนเผาเกลือ,อาหารทะเลย่าง,ปลาดุกย่าง, ก๋วยเตี๋ยว,ก๋วยจั๊บ, หอยทอด,ผัดไทย,ขนมจีน,ผลไม้ชาวสวน,ยำชนิดต่าง ๆ, ส้มตำ,เต้าหู้ทอด,ข้าวแกง,ขนมหวาน และอีกหลายชนิด มีอาหารอร่อยเพียบเลยครับ นั่งชมนั่งชิมกันแบบอร่อยไปเลย แถมราคาไม่แพงอีกด้วย
หลังจากที่เราเดินชมเดินชิมก็มาหยุดที่เรือของร้านปลาเผาครูติ๋ม เพราะว่าแม่ค้าหรือครูติ๋มแกส่งเสียงเรียกลูกค้าแบบเสียงแปดหลอดเลย ช่วยเพิ่มสีสันของตลาดน้ำได้เป็นอย่างมาก เมนูอาหารก็จะเป็นปลาเผากุ้งเผาทะเลเผา เรื่องรสชาตินั้นไม่ต้องห่วงเพราะเขาย่างให้แบบสดๆ กินกันแบบร้อน ๆ แต่ที่ร้านของครูติ๋มมีจุดเด่นตรงที่แกป่าวประกาศบอกลูกค้าทุกคนที่มากินว่า ที่ร้านปราศจากผงชูรสและเน้นมากก็คือตัวน้ำจิ้มที่จะไม่ใส่ผงชูรส ทำไห้รู้สึกเหมือนว่าอร่อยแบบฝีมือไทยไร้การปรุงแต่งครับ รสชาติปลาช่อนเผาเกลือของครูติ๋ม บอกได้เลยว่าอร่อยเด็ด แบบเนื้อนุ่นน้ำมันเยิ้มทั่วทั้งตัวปลาเนื้อปลาสีขาวสวย รสออกเค็มนิด ๆ ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมเหลือเกิน ไม่มีกลิ่นคาวแต่มีกลิ่นของสมุนไพรในครัวเรือนเข้ามาแทนที่ ปลาช่อนที่ใช้เป็นปลาช่อนรสชาติดีของเมืองสุพรรณรับรองคุณภาพเรื่องความอร่อย ปลาช่อนเผาตัวใหญ่พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ถ้าได้เครื่องดื่มซักแก้วสุดยอด ปลาช่อนเผาร้านครูติ๋มรสเด็ดจริง ๆ ถ้าใครมาที่ตลาดน้ำแห่งนี้ก็อย่าลืมไปชิมนะครับรับรองไม่ผิดหวังแถมแม่ค้าใจดีอีกต่างหาก
หลังจากที่กินปลาเผาจนเหลือแต่ก้างเราก็สังเกตเห็นอีกฝั่งหนึ่งคนยืนออกันเต็มต้องมีอะไรเด็ด ๆแน่ ๆ เราตรงเข้าไป จึงรู้ว่าเป็นร้านหมี่กรอบโบราณตลิ่งชัน มีพ่อค้านั่งทอดในเรือที่ใช้กระทะขนาดใหญ่สามใบถึงกระนั้นยังทอดกันแทบไม่พอกับลูกค้า พอทอดเสร็จแล้วนำมาผึ่งไว้ด้านบน สีสันสวยน่าทานมาก ถือเป็นเมนูเด็ดอีกเมนูของที่นี่เลยเพราะมีคนที่เขามาเพื่อซื้อหมีกรอบที่นี่โดยเฉพาะ ของเขาอร่อยกรอบจริง ๆ ดูเอเซีย.คอม ชิมเอง บอกได้เลยว่าสุดยอดครับ เป็นอีกอย่างที่ต้องเข้ามาชิม
หลังจากกินอาหารจนแน่นท้องแล้ว เราก็มาสนุกสนานกับการให้อาหารปลาตรงบริเวณส่าวกลางตลาด มีปลาสวายอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นก็ไปทำบุญปล่อยปลากันต่อ คนท้องถิ่นที่ตลิ่งชันบอกว่า การปล่อยปลาแต่ละชนิดนั้นนั้นมีความหมายในตัวเอง ดูเอเซีย.คอมก็เลยนำเก็บเรื่องราวมาฝากกันสำหรับคนที่ชอบทำบุญ อย่างแรกการปล่อยปลาไหลจะได้การเงินการการเรียนคล่องคัว , 2 การปล่อยปลาหมอเพื่อสุขภาพที่ดีหายโรคภัย, 3การปล่อยปลาดุกเพื่อศัตรูแข่งต้องพ่ายแพ้ , 4การปล่อยปลาสวายเพื่อเงินทองคล่องตัว, 5การปล่อยปลาช่อน จะช้อนเงินช้อนทองสิ่งซ้อนเร้นจะได้พบ ,6 การปล่อยปลาดุกเผือกจะเป็นมงคลแก่ชีวิต,7ปล่อยปลานิลทรัพย์สินเพิ่มพูนทวีมั่นคง, 8 ปล่อยปลาทับทิมกิจการงาน ความรักราบรื่น, 9ปล่อยปลาตะเพียนเงินทองมั่งมี, 10ปล่อยเต่าน้ำสะเดาะเคราะห์ ต่ออายุ, 11 ปล่อยหอยขมจะพบแต่ความร่มเย็นเป็นสุข การปล่อยปลาแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันไป แต่ที่สำคัญที่สุดคือจิตใจที่ต้องเป็นทานด้วย อันนี้เชิญทำบุญกันตามสบาย วันนี้ดูเอเซีย.คอมเลือกปล่อยปลาสวายเพราะจะได้มีเงินเยอะ ๆครับ
นอกจากมีอาหารอร่อยมากมายแล้วทางสำนักงานเขตตลิ่งชันยังจัดท่องเที่ยวทางน้ำ เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นั่งเรือทัวร์คลอง สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติอันหลากหลาย ของสองฟากฝั่งคลอง และเที่ยวชมตลาดน้ำในบริเวณใกล้เคียงอีกหลายที่ ใครที่อยากสัมผัสชีวิตติดสายน้ำก็เชิญได้เลย ราคาไม่ถึงร้อยบาทครับ ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้เลย
ที่ตลาดน้ำตลิ่งชันแห่งนี้มีความครบครันของวิถีชีวิตริมน้ำกับ ธรรมชาติ และ บรรยากาศในตลาดน้ำที่ไหลวิ่งเวียนวนอยู่คู่กับชาวบ้านริมฝั่งและผู้คนจากทั่วสารทิศ ที่ต่างแวะเวียนกันเข้ามาเยี่ยมเยือนในวันหยุดสุดสัปดาห์แบบไม่ขาดสายทำให้ตลาดน้ำแห่งนี้ยังคงอยู่คู่กับท้องฟ้าเมืองกรุงของเราต่อไป อีกนานเท่านานครับ
ตลาดน้ำตลิ่งชัน ตั้งอยู่ที่ ริมฝั่งแม่น้ำบางขุนศรี บริเวณหน้าสำนักงานเขตตลิ่งชัน แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น ที่จอดรถก็สะดวกครับจอดรถใน สนง.เขตตลิ่งชันเลย ถ้าเต็มให้ขับรถตรงออกมา จะมีที่จอดรถของเขตอีกที่นึ่งทางด้านซ้ายมือ (อยู่ใกล้เคียงกับ วัดกาญจนสิงหาสน์ วัดรัชฏาธิฐาน วัดเรไร ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-8813829
การเดินทาง
รถยนต์ส่วนตัว ใช้ถนนบรมราชชนนี โดยถ้าใช้ถนนพื้นราบ มาจากทางสะพานกรุงธนหรือสะพานพระปิ่นเกล้าพอข้ามสะพานข้ามคลอง (ที่มีขนส่งสายใต้อยู่ทางซ้าย) ก็ให้ชิดซ้ายสุดเข้าทางคู่ขนาน แล้ว เลี้ยวซ้าย เข้าซอยแรกทันที ตรงนี้ต้องขับรถระวังหน่อยเพราะต้องรีบชิดเข้าซ้าย พอเข้าซอยมาได้แล้วก็มา เลี้ยวขวา ที่แยกแรกที่เจอ แล้วตรงไปจนเจอสามแยก เลี้ยวซ้าย เข้าไปก็จะถึงแล้ว
ถ้าใช้ทางยกระดับคู่ขนานลอยฟ้าฯ มาจากสะพานพระราม 8 ขาออก หรือปิ่นเกล้าให้ใช้ทางออก ตลิ่งชัน ลงมา วิ่งผ่าน สน.ตลิ่งชันมานิดเดียวก็ ชิดซ้ายเลี้ยวเข้าถนนฉิมพลี ได้เลย สังเกตว่าแยกเข้าถนนฉิมพลีจะอยู่ตรงทางลาดขึ้นสะพานลอยกลับรถ ขับเข้ามาตามถนนฉิมพลีเรื่อยๆ ไม่ต้องเลี้ยวที่แยกไหน ก็จะมาเจอกับตลาดน้ำตลิ่งชัน ระวังอย่าขับเพลินเลยทางเลี้ยวเข้าถนนฉิมพลีไป เพราะเลยไปอีกนิดจะเป็นถนนราชพฤกษ์ ที่เลี้ยวซ้ายไปเพชรเกษมโน้นเลย
ขากลับ
สำหรับใครจะใช้บรมราชชนนีขาเข้ากลับเข้ามา เพื่อจะข้ามสะพานพระปิ่นเกล้าหรือสะพานกรุงธน แนะนำว่าให้กลับออกมาทางถนนฉิมพลี คือ ถนนที่ถ้าเดินออกจากตลาดก็ตรงต่อไปเลย วิ่งตามทางไปเรื่อยพอมาถึงถนนบรมราชชนนีแล้ว ไม่ต้องวิ่งไปหาสะพานลอยกลับรถที่อยู่ไกล เราจะมาใช้ถนนราชพฤกษ์ช่วยพาเรากลับเข้าเมืองกัน
พอเลี้ยวออกจากถนนฉิมพลีมาเข้าบรมราชชนนีกันแล้ว เลยมานิดเดียวก็ให้ เลี้ยวซ้าย เข้าถนนราชพฤกษ์ที่ชี้ว่าไป “เพชรเกษม” ได้เลย เข้าราชพฤกษ์มาจะมี ทางกลับรถลอดใต้สะพาน อยู่ข้างหน้า ให้กลับรถ มาแล้วชิดขวาเข้ามาในทางด่วนวิ่งข้ามบรมราชชนนีมา แล้วก็ ใช้ทางออกด้านซ้าย ตามป้ายชี้ทาง “ปิ่นเกล้า” มา แค่นี้ก็สามารถย้อนกลับเข้าเมืองมาได้แล้ว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-881-3829
ตลาดน้ำตลิ่งชัน เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้คนรู้จักวิถีชาวบ้าน ชาวน้ำเป็นแห่งแรกๆ”
รถสาธารณะ ก็มีรถสาย 79 ที่ผ่านหน้าตลาดน้ำเลย