นั่งรถไฟสายประวัติศาสตร์ ผ่านสะพานแม่น้ำแคว

0

ย้อนไปเมื่อประมาณ 70 กว่าปีก่อน หรือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 สมัยที่สงครามแปซิฟิคเริ่มก่อขึ้นโดยญี่ปุ่น บุกโจมตีเพิร์ล ฮาเบอร์ เกาะฮาวาย และบุกเข้ามาเลเซีย ต่อด้วยการบุกเข้าพม่า ต่อสู้กับทหารอังกฤษในพม่า เพื่อจะโจมตีอินเดียต่อไป ทีนี้การการส่งกำลังบำรุง หากต้องใช้ทางเรือ มันเสี่ยงกันการโจมตีทางทะเล ระหว่างสิงคโปร์และย่างกุ้ง ญี่ปุ่นจึงตัดสินใจสร้างทางรถไฟความยาว 415 กิโลเมตร โดยผ่านป่าภูเขาจากบ้านโป่งในประเทศไทย ไปยังเมืองบูซายัตในประเทศพม่า

train-historical (7) train-historical (1)

ในการสร้างเส้นทางรถไปสายนี้ญี่ปุ่นใช้กรรมกรจากทวีปเอเชียประมาณ 250,000 คน และเชลยศึก อังกฤษ ดัชท์ และอเมริกันกว่า 60,000 คน ในการสร้างทางนี้ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีอะไรใหม่ๆเลย ใช้จอบเสียม ใช้แรงคน ทำ ใช้ไม้ซุงจากป่ามาทำเป็นสะพานข้ามเหวทั้งนั้น หากตอนไปเที่ยวสังเกตจะเห็น ท่อนซุงปักเป็นเสา มีตัวเลขตั้งที่ 1 2 3 ชัดเจน นับว่าเป็นการสร้างที่ยากมากๆครับ ซึ่งในการสร้างทางแห่งนี้พลเรือนเสียชีวิตถึง 70,000 – 90,000 คน เชลยศึกเสียชีวิต 12,599 ราย  สาเหตุเพราะเขาเหล่านั้นไม่ได้รับการดูแลทางด้านการแพทย์ที่เพียงพอ อาหารก็มีเพียงข้าวกะผักแห้ง เสื้อผ้ารองเท้าไม่มีนั้นเอง

ภายหลังที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามเส้นทางส่วนหนึ่งที่สร้างคือตั้งแต่หนองปลาดุก ถึงสถานีน้ำตก ระยะทาง 130.3 กิโลเมตร รัฐบาลไทยได้ขอใช้ต่อ ส่วนที่เหลือได้ถูกถอดรางรื้อถอนทั้งหมด นับว่าเป็นเส้นทางที่เหลือเส้นทางสุดท้าย ของสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นเส้นทางที่คนทั่วโลกอยากลองมาสัมผัสสักครั้ง เมื่อ 70 ปีที่แล้วเป็นป่าดงดิบ เป็นภูเขา ทุกวันนี้เป็นอย่างไร กันแน่

train-historical (6) train-historical (3) train-historical (4) train-historical (2)

และแล้วเมื่อประมาณสิบปีที่ผ่านมา ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดขบวนรถเที่ยวพิเศษขึ้น เป็นเส้นทางรถไฟสายมรณะแห่งนี้ โดยเริ่มต้นจากสถานีกาญจนบุรี ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแคว ผ่านป่าเขา เลาะริมแม่น้ำแควน้อยไปเรื่อยๆ จนถึงสถานีบ้านน้ำตก ซึ่งห่างจากน้ำตกไทรโยกน้อยหรือนำตกเขาพังเพียง 3 กิโลเมตร ระหว่างเส้นทางมรณะนี้จะผ่านเหว ผ่านช่องภูเขาที่เชลยศึก ทำเป็นช่องให้รถไฟผ่าน และวิวทิวทัศน์อันสวยงามของแม่น้ำแควน้อย ตลอดเส้นทางมีไร่สวนของชาวบ้าน ทั้งสวนมันสำปะหลัง สวนกล้วย สวนมะม่วง บางช่วงเป็นป่าไม่มีคนอยู่เลย

 ไร่มันสำปะหลัง ตามทาง

ทุกวันนี้ขบวนรถเที่ยวนี้ก็ยังให้บริการอยู่ทุกวัน ผมเองหลังจากสืบเสาะจนรู้ข้อมูลก็เลยขอพาเที่ยว หากวันหน้าเพื่อนๆจะมาจะได้มีแบบอย่างมากันง่ายๆครับ รถขบวนพิเศษนี้ จะออกเวลาประมาณ 10.30 น. จากสถานีกาญจนบุรี ราคาคนไทย 100 บาท ฝรั่ง 300 บาท ใช้เวลาถึงสถานีน้ำตกประมาณ 2 ชั่วโมง บนรถจะมีอาหารว่างคุกกี้ น้ำอัดลม ชา กาแฟ (เบียร์ก็มีนะครับกระป๋องละ 70 บาท) มีน้ำให้คนละขวด ที่นั่งก็สบาย มีเบาะปูให้ด้วย นั่งฝั่งละ 1 คน ไม่ต้องเบียดกัน ขอแนะนำให้นั่งฝั่งซ้ายมือจะเห็นวิวไม่น้ำแควน้อยครับ

train-historical (5) train-historical (8) train-historical (9) train-historical (10)

ความสวยงามเคลือบร่องรอยประวัติศาสตร์ที่เจ็บปวดเริ่มต้นผ่านด่านแรกสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ นักท่องเที่ยวบนสะพานก็จะโบกไม้โบกมือให้เรา เป็นการทักทาย สะพานข้ามแม่น้ำแควแห่งนี้ เคยถูกเครื่องบินฝ่ายอเมริกาโจมตีจนพังมาแล้ว ผมเองได้คุยกับลุงเจ้าของรถสองแถว เส้นทางสถานีบ้านน้ำตก-ไทรโยกน้อย แกเล่าว่า “พอเครื่องบินมาทหารญี่ปุ่น ก็ต้อนพวกเชลยไปยืนบนสะพานเต็มไปหมด นักบินส่องกล้องลงมาก็เห็นแต่ฝรั่ง ไม่กล้าบอร์ม แต่จนแล้วจนรอดก็พลาดท่าโดนบอร์มสำเร็จจนได้”  นี่คือด่านแรกของเส้นทางสายมรณะครับ

 

หากมาเที่ยวจังหวัดกาญฯ อย่าลืมตามมาย้อนรอยประวัติศาสตร์กันให้ได้นะครับ อยากให้คนไทยมาดูชมกันเยอะๆ

เชิญแสดงความคิดเห็น