ดินแดนแห่งความสุข วังน้ำเขียว กับทัวร์รถไฟสวัสดีจ้า ทัวร์รถไฟกลับมาแล้ว !! ทริปนี้ น้องครึกครื้นฯ ฉึกฉักทัวร์ จะพาเพื่อนๆ นั่งรถไฟไปสูดโอโซนกันที่ “วังน้ำเขียว” พร้อมด้วยกิจกรรมผจญภัย ที่สนุกสนานท้าทาย อย่างเช่น ปีนหน้าผา โรยตัว โดดหอ ขับ ATV และพาไปดู “ละลุ” ซึ่งเป็น “แกรนด์แคนยอนแดนบูรพา” ปฏิมากรรม ธรรมชาติ ที่มหัศจรรย์ น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ยังไปเติมความรู้ด้านเกษตรกรรม และการผลิตสินค้าเกษตร กันที่ สวนลุงไกร และฟาร์มเห็ด “วังน้ำเขียวฟาร์ม” ถ้าพร้อมกันแล้ว เก็บกระเป๋า ตามดูเอเซีย.คอม มาขึ้นรถไฟกันเลยจ้า
ทริปนี้สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวแห่งประเทศไทย(สนท.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) พาเราออกเดินทางจากสถานีหัวลำโพงพร้อมคณะนักท่องเที่ยว 28 เมษายน 2555 เวลา 8:00 น. ด้วยรถไฟตู้ปรับอากาศพิเศษสุดหรู มีห้องคาราโอเกะ เคาน์เตอร์เครื่องดื่มอย่างดี ที่นั่งสะดวกสบาย และกิจกรรมชิงรางวัลสนุกๆจากมักคุเทศน์ในระหว่างการเดินทาง ขบวนรถไฟวิ่งปู๊นๆ ผ่านสถานี มักกะสัน คลองตัน หัวหมาก ทับช้าง ลาดกระบัง พระจอมเกล้า ฯลฯ ไปสุดปลายทางที่สถานีรถไฟ กบินทร์บุรี ในเวลา 11:30 น. ตรงตามกำหนดเวลาเป๊ะเลย
จากนั้นเราเดินทางต่อด้วยรถโค้ชปรับอากาศ ถึง “บ้านผึ้งหลวง Campground” ที่นี่เป็นรีสอร์ตที่มี บ้านพักหลากหลายสไตล์ ให้คุณได้เลือก จุดเด่นของที่นี่คือ กิจกรรมผจญภัย Adventure ทั้งปีนหน้าผา โรยตัว รถ ATV หลังจากทานอาหารกันเสร็จแล้ว คุณ พูลผล แพทอง คาวบอยผู้จัดการของที่นี่ ได้พาเราไปทำกิจกรรม “เติมปุ๋ยให้ป่า” ซึ่งมีที่มาจากกิจกรรมปลูกป่าที่หน่วยงานต่างๆ พากันจัดขึ้น แต่ขาดการดูแลอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นไม้ที่ปลูกไว้ เฉาตายไปบางส่วน พี่พูลผล ก็เลยปิ๊งไอเดีย เอาปุ๋ย บรรจุในวัสดุที่ย่อยสลายได้ ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆท่านๆ นำไปวางในโคนต้นไม้ อย่างสะดวกสบาย เมื่อฝนตกลงมา น้ำก็จะทำให้กระดาษที่บรรจุเปื่อยยุ่ย ปล่อยให้ปุ๋ยออกมาเป็นอาหารให้ต้นไม้ต่อไป
หลังจากทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์กันแล้ว ก็ถึงเวลาแห่งความมันส์ กับกิจกรรมผจญภัย “ปีนหน้าผา” บนหน้าผาจำลอง สูงประมาณตึก 3 ชั้น และกิจกรรม “โรยตัว” ลงจากหอเดียวกัน ปีนขึ้นด้านหนึ่ง โรยตัวลงอีกด้านหนึ่ง เป็นกิจกรรมวัดใจ ที่คนหนุ่มสาวพลาดไม่ได้เลย เจ้าหน้าที่ของ “บ้านผึ้งหลวง Campground” ท่านหนึ่งได้สาธิตให้เราดู ในขณะที่อีกท่านหนึ่ง คอยคุมเชือกนิรภัย พร้อมอธิบายเทคนิคการปฏิบัติต่างๆ จากนั้นก็ถึงคิวของ หนุ่มผู้กล้า ที่ไม่ยอมสยบต่อคำท้าทายใดๆ ก็ออกไปปีนหน้าผา และโรยตัว ท่ามกลางเสียงเชียร์ที่ลุ้นระทึกของครอบครัว
หันมาอีกด้านหนึ่ง ฐาน “TreeTop” เป็นเชือกผูกตามต้นไม้เป็นเส้นทางให้นักผจญภัย ได้ปีนป่าย ห้อยโหน โดดหอสูง และเดินบนเส้นเชือกท้ามฤตยู สำหรับฐานนี้ ดูเอเซีย.คอม ไม่รีรอที่จะสวมเครื่องป้องกัน และขึ้นไปลุยด่านแรก ซึ่งเป็นสะพานเชือกแบบง่ายๆ ฝึกการทรงตัว ต่อด้วย การปีนตาข่าย ด่านต่อมาเป็นการโหนด้วยรอกจากต้นไม้ต้นหนึ่ง ไปอีกต้นหนึ่ง และต่อด้วยด่านสะพานเชือก ที่ยากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดไคลแม็กซ์ เป็นฐานโดดหอสูงข้ามบ่อน้ำ ไปยังฝั่งตรงข้าม ที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตร หลังจากที่ ฟิ้ววววววว ข้ามฝั่งไปแล้ว ก็ต้องเดินสะพานเชือกกลับมาเป็นด่านสุดท้าย ด่านนี้เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆได้มากที่สุด เพราะระหว่างทาง สะพานจะโคลงเคลงไปมา ด้วยมือที่มองไม่เห็น (อิอิอิ)
กิจกรรมอีกอย่างหนึ่ง ที่พลาดไม่ได้ของที่นี่ ก็คือการ “ขับรถ ATV” ซึ่งมีให้บริการมากถึง 8 คัน แม้ว่าจะไม่เคยขับรถมาก่อน ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ แต่ ทุกคน ก็สามารถขับรถ ATV ได้อย่างคล่องแคล่ว พร้อมตะบึงลุยทุกสนาม โดยมีเจ้าหน้าที่ของ “บ้านผึ้งหลวง Campground” ขับรถนำนักท่องเที่ยว พร้อมดูแลอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง เส้นทาง ATV ของ “บ้านผึ้งหลวง Campground” นับว่าไกลพอสมควร สภาพสนาม มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งทางเรียบ ขึ้นลงเนิน ลูกระนาด ป่าเขา ดูเอเซียและพื่อนๆ ขับตะบึงลุยไปเต็มสูบ เป็นประสบการณ์สุดมันส์ยากที่จะลืม
บ่าย 3 โมง เราออกจาก “บ้านผึ้งหลวง Campground” เดินทางต่อไปที่ “A cup of love” ร้านกาแฟสุดโรแมนติก แห่งวังน้ำเขียว ร้านกาแฟบรรยากาศชิวๆแห่งนี้ มีมุมนั่งดื่มกาแฟริมสระน้ำ และมุมถ่ายภาพ ให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพ บรรยากาศของ “A cup of love” ชวนให้นึกถึง ฟาร์มในการ์ตูน ที่มีเพื่อนพ้อง สัตว์น้อยใหญ่นาๆชนิด ทั้งคุณ แกะ คุณเป็ดน้อยลอยน้ำ คุณปลา นับเป็นสถานที่น่ารักๆอีกแห่งหนึ่ง ที่คู่รักไม่ควรพลาด
ยามเย็น คณะของเราดินทางไปที่ “สวนลุงไกร” สวนผักปลอดสารพิษของลุงไกร ชมน้อย เกษตรกรที่ได้รับการขนามนามว่า เกษตรกรศิลปิน เพราะนอกจากจะให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมแปลงผักแล้ว ลุงไกรยังควงกีต้าร์ตัวโปรดโชว์เพลงสไตล์คันทรี่ และเล่าประสบการณ์ชีวิตให้นักท่องเที่ยวฟังด้วย ลุงไกรเล่าว่า ลุงเคยใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ นานถึง 12 ปี ก่อนจะมาเป็นเกษตรกร ลุงไกรเป็นผู้บุกเบิกการปลูกพืชเมืองหนาวที่วังน้ำเขียว เพราะอากาศที่วังน้ำเขียวจะเย็นตลอดปี ลุงไกรมีแนวคิดที่ต่างกับคนทั่วไป การปลูกผักของลุงไกร จะไม่ใช้ยาฆ่าแมลง แต่กลับให้หนอนแมลงศัตรูพืชกัดกินผักของลุงไกรได้ตามอัธยาศัย เพื่อให้มันมีโอกาสเติบโตขยายพันธ์ได้ตามธรรมชาติ ลุงไกรทำแค่เพียง ใช้น้ำเปล่า ฉีดให้มันตกลงจากใบสู่พื้นดินเท่านั้น ผักที่สวนลุงไกรจึง สด สะอาด อร่อย และ ปลอดภัยต่อร่างกาย ปรัชญาแนวคิดของลุงไกร ได้รับการยกย่องทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ ลุงไกรได้รับใบประกาศนียบัตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง
ตอนค่ำเราเข้าที่พักกันที่ บ้านวังน้ำเขียว ลอดจ์ รีสอร์ท รีสอร์ทบรรยากาศดี ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ค่ำวันนี้เรามีกิจกรรมชิงรางวัลให้นักท่องเที่ยวร่วมสนุก ในระหว่างทานอาหารค่ำ ก่อนจะแยกย้ายกันเข้าที่พัก
เช้าวันที่ 29 เมษายน หลังจากทานอาหารเช้าและเก็บภาพบรรยากาศภายในรีสอร์ท มาให้เพื่อนๆชม ก็ออกเดินทางไปฟาร์มเห็ด ณ วังน้ำเขียวฟาร์ม ฟาร์มเห็ดที่ใหญ่ที่สุดในภาคอิสาน บนพื้นที่ 60 ไร่วังน้ำเขียวฟาร์ม เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน มีวิทยากรบรรยายขั้นตอนการเพาะเชื้อเห็ด และพาชมโรงเพาะเชื้อเห็ดในสถานที่จริง ด้านหน้าโรงงานมีผลิตภัณฑ์จากฟาร์มวางขายกว่า 20 ชนิด ท้งเห็ดสด เห็ดดอง เห็ดหอมอบแห้ง น้ำพริกเห็ด ข้าวเกรียบเห็ดหอม น้ำผึ้ง และร้านอาหารเมนูอร่อยที่ดีต่อสุขภาพ
12:00 ได้เวลาอำลาจาก “วังน้ำเขียว” ออกเดินทางสู่ จังหวัด สระบุรี ไปชม Unseen Thailand “ละลุ” ที่ได้ชื่อว่า เป็น Grand Canyon แดนบูรพา เอ่ยถึง Grand Canyon เพื่อนๆคงจะนึกถึงสถานที่ๆมีชื่อเสียงในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเสาหินสูงตระหง่านแห้งแล้งที่เกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำเชี่ยวกรากที่ อยู่เบื้องล่าง “ละลุ” ของบ้านตาพระยา ก็เกิดขึ้นมาในลักษณะเดียวกัน เมื่อฝนตกลงมา น้ำที่ไหลเวียนอยู่ใต้ดินก็กัดเซาะเอาดินทรายใต้ดินออกไป นานวันเข้าก็กลายเป็นโพรงและยุบตัวลง คงเหลือ แต่ส่วนที่แข็งแรงกลายเป็นเสาหินตั้งตระหง่าน เป็นปฏิมากรรมธรรมชาติรูปร่างแปลกตา บริเวณ ละลุ เป็นลักษณะเป็นแอ่งกระทะความกว้างประมาณ 200 เมตร และยาวประมาณ 200 เมตร รอบๆเป็นหน้าผาเตี้ย มีหลืบ มีร่อง บ้างก็เป็นแท่งโผล่กลางลานเรียบ มียอดเหลม บางจุดก็เป็นโพรงยุบลงใต้ดิน การเดินทางสู่ละลุ จะต้องเดินทางมาที่โรงเรียนบ้านตาพระยา เพื่อเปลี่ยนพาหะนะเป็น “รถอีแต๊ก” พาหนะยอดนิยมของท้องถิ่น ที่สามารถเข้าสู่บริเวณ “ละลุ” ได้คล่องตัวปลอดภัยกว่ารถยนต์ธรรมดา ค่าบริการรถอีแต๊ก ไปกลับ เที่ยวละ 200 บาท นั่งได้ 8 ท่าน
13:30 น. เดินทางสู่ “ร้านอาหารบ้านเสบียง” ร้านอาหารอร่อยของจังหวัดสระแก้ว ใครที่แวะเวียนมาที่นี่ ขอแนะนำ เมนูอร่อยเป็น ขาหมู , ห่อหมกปลา, ต้มยำ อร่อยมากๆค่ะ หลังจากที่ทานอาหารอิ่มท้องแล้ว ก็เดินทางกลับสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ระหว่างทางแวะกราบไหว้หลวงพ่อโสธร ณ วัดโสธรวรารามวรวิหาร แต่เป็นที่น่าเสียดายที่เวลาที่มาถึง โบสถ์ก็ปิดไปแล้ว จึงได้แต่เพียงเก็บภาพความงดงามภายนอกมาให้เพื่อนๆได้ชมกัน ก่อนจะเดินทางกลับสู่กรุงเทพ ด้วยรถไฟธรรมดาขบวนที่ 286 สู่สถานีรถไฟหัวลำโพง โดยสวัสดิภาพ
ข้อมูลติดต่อ บ้านผึ้งหลวง แคมป์กราว
ที่ตั้ง 139 หมู่ 10 ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี 25220
เบอร์โทร 037-486761
เว็บไซต์ http://www.pungluang.net
ข้อมูลติดต่อ a cup of love
ที่ตั้ง ร้านตั้งอยู่บนเส้น 3052 ห่างจากเขาใหญ่ 60กม. ห่างจากถนน ทางหลวง 304 7กม.
เบอร์โทร 084-388-1518, 084-388-1528, 081-752-3636
แผนที่ http://www.acup-oflove.com/contact.php
เว็บไซต์ http://www.acup-oflove.com
ข้อมูลติดต่อ สวนลุงไกร
ที่ตั้ง ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 บ้านสุขสมบูรณ์ ตำบลไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
เบอร์โทร 08-1274-6961, 08-6259-5755
ข้อมูลติดต่อ วังน้ำเขียวลอดจ์ รีสอร์ท
ที่ตั้ง 191 หมู่ 8 เขาแผงม้า ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา 30370
เบอร์โทร 083-299-9099, 086-182-7000 โทรสาร 044-760-063
เว็บไซต์ http://www.baanwangnamkeaw.com/baanwangnamkeawlodge/accom.php
ข้อมูลติดต่อ วังน้ำเขียวฟาร์ม
ที่ตั้ง 155 หมู่ 2 บ้านสุขสมบูรณ์ ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา 30370
เบอร์โทร 081-0011555,081-0022555
เว็บไซต์ http://www.wnkfarm.com/
ข้อมูลติดต่อ รถอีแต๊กนำเที่ยว ละลุ
ที่ตั้ง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ม.12 บ้านคลองยาง ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
เบอรโทร 089-0980772
ข้อมูลติดต่อ ร้านอาหาร บ้านเสบียง
ที่ตั้ง 525 หมู่หมู่ 3 ถนนสุวรรณศร ตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว สระแก้ว
เบอร์โทร 08-1450-0200,0-3742-5419