ดูเอเซีย.คอม พามาทำบุญไหว้พระ วัดที่มีความสำคัญกับรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรีของไทยเรากันอีกวัดหนึ่ง ซึ่งเป็นวัดที่รัชกาลที่ 5 ทรงสร้างขึ้น ถือเป็นวัดประจำรัชกาลในพระองค์ ภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสถานที่สำคัญมากมายไห้เราได้ค้นหา มีพระพุทธชินราชจำลองที่ตัวองค์เป็นเนื้อทอง สวยอร่ามงดงามให้เราได้ชมและกราบไหว้ขอพร และยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่หลายยุคหลายสมัยมากมาย นอกจากนั้นยังมีพระอุโบสถที่สวยงามอีกด้วย เราเข้าไปทำบุญไหว้พระกันเลย ที่วัด วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร ครับ
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เดิมเป็นวัดเก่าแก่มาทราบปีที่สร้าง ชื่อว่า วัดแหลม เพราะตั้งอยู่ปลายแหลมของที่สวนดุสิตกับทุ่งนา และยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดไทรทอง เนื่องจากมีต้นไทรทองปรากฏอยู่ให้เห็น เมื่อปี พ.ศ 2370 พระเจ้าบรมเธอ กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 2 ได้ทรงตั้งกองทัพรับขบถเจ้าอนุวงศ์ที่วัดนี้ หลังจากเสร็จจากการปราบขบถแล้ว ได้ทรงปฏิสังขรณ์วัด พร้อมกับสร้างพระเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์ 5 องค์ เรียงรายอยู่หน้าวัดด้วยต่อมาในรัชกาลที่ 4 พระองค์ได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดเบญจมบพิตร หมายถึงวัดของเจ้านาย 5พระองค์ เมื่อปีพ.ศ 2442 รัชกาลที่ 5ได้ทรงสร้าง สวนดุสิต และพระราชวังดุสิต กินเนื้อที่ของวัด ทำให้วัดมีพื้นที่น้อยลง ประกอบกับวัดกำลังมีสภาพเสื่อมโทรม พระองค์จึงสถาปนาวัดขึ้นใหม่ พร้อมกับเปลี่ยนนามวัดเป็น วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ซึ่งหมายถึง วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ใกล้สวนดุสิตอันเป็นเขตพระราชฐาน
พระอุโบสถสร้างด้วยหินอ่อนสั่งจากประเทศอิตาลี อย่างสวยงาม มีพระประทานคือพระพุทธชินราชจำลองมาจากองค์จริงที่ จ.พิษณุโลก รัชกาลที่ 5ทรงสร้างขึ้น วัดแห่งนี้ถือว่ามีความสำคัญกับรัชกาล ที่ 5 แห่งราชวงศ์จักกรีของเราครับ พระองค์แสดงพระราชประสงค์ไว้ว่า เมื่อพระองค์สวรรคตและถวายพระเพลิงพระบรมศพแล้ว ให้นำพระสรีรางคารไปบรรจุไว้ใต้รัตนบัลลังก์พระพุทธชินราช ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้โปรดเกล้าฯให้จัดพระราชพิธีบรรจุพระสรีรางคารตามพระราชประสงค์ การเข้ามากราบไหว้ของเรานอกจากเป็นสิริมงคลกับตนเองแล้ว เรายังได้ย้อนรำลึกถึงพระองค์ท่านได้อีกด้วยครับ ภายในวัดมีพื้นที่ กว้างขวางมาก ๆ มีสนามหญ้าและต้นไม้ต่าง ๆ สร้างความร่มรื่นได้เป้นอย่างดี ตรงกลางเป็นคลองน้ำทำเป็นสะพานเชื่อมในหลายจุด เป็นมุมที่สวยงามอีกมุมหนึ่งภายในวัด มีที่นั่งตลอดแนว นั่งพักผ่อนแบบเย็นสบายครับหลังจากนั้นเราก็เข้าไปไหว้พระพุทธชินราช ในอุโบสถกันเลยครับ
ตรงด้านหน้าเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถหลังใหญ่สร้างด้วยหินอ่อนสวยงามจากประเทศอิตาลีจากเมืองเยนัว กับหินอ่อนจากเมืองคาร์รารา ที่ถือว่าเป็นเมืองที่มีหินอ่อนมากและดีที่สุด เป็นศิลปะการสร้างรูปแบบอย่างไทยแท้ ๆ มีพระระเบียงที่ประดับตกแต่งวิจิตรงดงามสมบูรณ์แบบด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยโบราณอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งครับ
ลักษณะทั่วไปของพระอุโบสถ เป็นแบบจตุรมุข มุขด้านตะวันออกขยายยาว ด้านเหนือและใต้มีมุขกระสันต่อกับพระระเบียง หลังคา 4 ชั้น ด้านมุขกระสันทิศเหนือและทิศใต้ 5 ชั้น มีพระระเบียงโอบรอบด้านหลัง ด้านหน้าพระอุโบสถ มีกำแพงแก้ว บนมุมกำแพงแก้วซ้าย-ขวา มีเสาคอนกรีตหัวเสาเป็นศิลาสลักรูปดอกบัวตูม คือเครื่องหมาย สีมา สำหรับด้านหน้า ส่วนสีมาด้านหลังพระอุโบสถ สลักรูปเสมาธรรมจักรที่แผ่นหินแกรนิต ด้านหน้าข้างบันไดหินอ่อนมีสิงห์สลักหินอ่อน 2 ตัว ตัวขนาดใหญ่สวยงามด้วยฝีมือการปั้นที่ละเอียดมาก ๆ มุขตะวันตกด้านนอก มีเสาและสิงห์เช่นเดียวกับด้านหน้า และที่ซุ้มจรนำ ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณ เป็นพระยืนทรงเครื่องสมัยลพบุรี ปางห้ามญาติ ถวายพระนามว่า พระธรรมจักร เพราะที่ฝ่าพระหัตถ์สลักเป็นรูปพระธรรมจักรบริเวณหลังพระอุโบสถ เป็นลานกว้าง ปูด้วยหินแกรนิตสีชมพูอ่อนและสีเทา พื้นพระระเบียงปูหินอ่อนสีเหลืองอ่อนและสีขาวตลอด
ภายในพระอุโบสถ มุขตะวันตก ประดิษฐานพระพุทธชินราช ด้านหน้าพระพุทธชินราชเป็นรั้วหินอ่อนกลมสีเขียวหยก พระแท่นรัตนบัลลังก์พระพุทธชินราช ผนังเสมอกรอบหน้าต่าง ณ พระแท่นรัตนบัลลังก์นั้น ได้บรรจุพระสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เอาไว้ด้วย และพื้นพระอุโบสถ ประดับหินอ่อนหลากสี อย่างสวยงามและริยิบระยับ มาก ๆครับ ผนังอุโบสถเหนือกรอบหน้าต่างขึ้นไปซึ่งเป็นส่วนถือปูน ขียนลายไทยเทพนมทรงพุ่มข้าวบิณฑ์สีเหลืองบนพื้นขาวอมเหลืองอ่อน ตลอดถึงเพดาน เส้นลวดลายละเอียดลายเส้นลึกชัดทุกมุมสวยงามจับใจ คนได้ชมครับ มีประชนเข้ามากราบไหว้เยอะพอสมควรและจะมี ประชาชนเข้าสวดมนต์ภายในอุโบสถเป็นประจำพระอุโบสถเป็นหินอ่อน สวยงามมาก ๆครับ ร่วมกันกราบไหว้ พระพุทธชินราช เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว องค์พระพุทธชินราชสวยงามไม่แพ้องค์จริงที่พิษณุโลกเลยครับ แถมยังตั้งอยู่บนบัลลังที่มีพระสิริรางคารของรัชกาลที่ 5 อยู่ข้างใน ทำให้มีความศักดิ์มากยิ่งขึ้นครับ
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปนั่งสมาธิราบปางมารวิชัยสมัยสุโขทัย มีเรือนแก้วเป็นพระพุทธรูปเนื้อทอง ประทับนั่งเหนือรัตนบัลลังก์หินอ่อนพระพุทธชินราช มีขนาดหน้าตัก 5 ศอกคืบ 5 นิ้ว มีเศษ น้ำหนักทองที่ใช้หล่อ 3,940 ชั่งลงรักปิดทองทั้งองค์ เป็นพรพุทธรูปที่สวยงามอีกองค์หนึ่งของเมืองไทยเราครับ ตัวองค์เป็นสีทองอร่ามทั้งองค์ส่องแสงบารมีออกด้านข้าง คนที่ได้มองรู้สึกเหมือนเราได้รับแสงบารมีนั้นเข้าไปถึงสุดขั้วหัวใจกันเลยครับ ภายในอุโบสถออกแบบตกแต่งได้งดงามวิจิตรจริง ๆครับ
ประวัติ การสร้างพระพุทธชินราชองค์นี้ น่าสนใจมากครับ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯให้พระประสิทธิปฏิมา (ม.ร.ว.เหมาะ ดวงจักร เมื่อครั้งเป็น หลวงประสิทธิปฏิมา) จางวางช่างหล่อขวา ซึ่งเป็นช่างหล่อฝีมือดีที่สุด ขึ้นไปปั้นหุ่นถ่ายแบบจากพระพุทธชินราชองค์เดิม ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก แล้วเสด็จพระราชดำเนินทรงเททองหล่อเป็นส่วน ๆ อัญเชิญล่องเรือมาคุมองค์และแต่งที่กรมทหารเรือ เสร็จแล้วเชิญลงเรือมณฑปแห่ไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร ประดับตกแต่งสวยงามแล้วอัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพระอุโบสถสำเร็จเรียบร้อยดี ทรงปีติโสมนัสอย่างยิ่งจึงทรงเปลื้องสายสะพายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ นพรัตน์ราชวราภรณ์ ซึ่งกำลังทรงอยู่นั้น ถวายพระพุทธชินราชเป็นพุทธบูชา เมื่อเชิญพระพุทธชินราชขึ้นประดิษฐานในพระอุโบสถ เครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับราชตระกูล ซึ่งทางวัดได้เก็บรักษาไว้อย่างดี และอัญเชิญมาคล้องถวายที่พระหัตถ์พระพุทธชินราช ในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งในทุกปีจะมีประชาชนเข้ามาทำบุญไหว้พระภายในวัดเป็นจำนวนมากครับ
นอกจากมีพระพุทธชินราชที่งดงามแล้ว ภายนอกตรงบริเวณ ระเบียงหินอ่อนยังประดิษฐานพระพุทธรูป ในสมัยต่าง ๆ มาหมายหลายองค์ ไห้เราได้ชม ได้กราบไว้อีกด้วย ซึ่งในสมัยสร้างวัด รัชการที่ 5 พระองค์ทรงประสงค์จะไห้วัดแห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยต่าง ๆไว้ที่นี่ มีหลายยุดหลายปางครับ เช่น พระพุทธรูปปาง ทุกรกิริยา (ลำดับที่ 7) เป็นพุทธจริยาตอนที่พระพุทธองค์ ทรงบำเพ็ญเพียรทุกรกิริยา จนพระวรกายซูบผอม พระพุทธรูป ปางลีลา (ลำดับที่ 26) แสดงถึงพุทธจริยาหรือพุทธลีลาตอนที่พระพุทธองค์เสด็จลงจากดาวดึงส์ หรือเสด็จโปรดเวไนยสัตว์ เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะลีลางามเป็นเลิศ เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของผู้ชม นอกจากพระพุทธรูปภายในพระระเบียงแล้ว ด้านนอกใต้หน้าบันด้านตะวันตก ประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาโบราณในพระอริยายถยืน 4 องค์คือ พระศิลาสมัยทวาราวดี ประทับยืนบนฐานบัว มีจารึกอักษรปัลลวะ ภาษามอญโบราณ ซึ่งแปลได้ความว่า เจ้าปู่ (พร้อมกับ) ลูกหลานได้กระทำองค์พระพุทธรูปให้เปล่งปลั่ง ได้มาจากวัดข่อย จังหวัดลพบุรี, พระศิลาสมัยทวาราวดี ได้มาจากจังหวัดลพบุรี, พระศิลาสมัยอมราวดี ได้มาจากเมืองลังกา (ศรีลังกา) และพระศิลาสมัยอยุธยา ได้มาจากจังหวัดลพบุรี แต่ละองค์มีการสร้างที่สวยงามและมีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นแหล่งประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณอีกแห่งหนึ่งเลยครับ เราสามารถเดินชมได้อย่างใกล้ ๆ และร่วมกราบไหว้บูชากันได้เลย
หลังจากที่เราทำบุญไหว้พระกันเรียบร้อยแล้ว ดูเอเซีย.คอม ก็ไปไหว้พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบรมรูปทรงม้า และชมความงามของพระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัววัด ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทั้งสองแห่ง และมีความสวยงามด้วยการสร้างที่ยิ่งใหญ่ครับ พระบรมรูปทรงม้า มีการสร้างได้อย่างสวยและสง่างามโดยนำแบบอย่างมาจากพระบรมรูปของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ที่กรุงปารีส และทางด้านหลังพระบรมรูปก็เป็นที่ตั้งของพระที่นั่งอนันตสมาคมซึ่งเป็นหินอ่อนแบบตะวันตก เป็นสถาปัตยกรรมแบบอิตาเลียน สมัยเรอเนสซอง และมีลักษณะรูปโดมแบบเดียวกับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรมที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ถือเป็นวัดที่มีความสำคัญ อีกวัดหนึ่งของ ราชวงศ์จักรี และมีศิลปกรรมมี่วิจิตรสวยงามการสร้างเป็นแบบอย่างไทยแท้ ของเราครับ สมควรที่เราชาวไทยจำต้องเข้าไป กราบไหว้สักการบูชา และชื่นชมความงามอย่างไทยเรา ที่เป็นเอกลักษณ์ของศิลปวัฒนธรรม ที่สืบต่อกันมาตั้งแต่สมัยก่อนกาล เพื่อจะได้รักษาพุทธศาสนาไห้ยั่งยืนสืบไป และนอกจากนั้นเรายังได้ชมความงามของพระที่นั่งอนันตสมาคนและกราบไหว้พระบรมรูปทรงม้า ได้อีกด้วย มาครั้งเดียวคุ้มเลยครับ
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามตั้งอยู่ ริมถนนนครปฐมติดริมคลองเปรมประชากร 69 แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร การเดินทางมาโดยรถประจำทาง สาย 503,23,72,509,16,505
ถ้าใครอยากทำบุญไหว้พระดูเอเซีย.คอมขอแนะนำ ที่วัดวัดเบญจมบพิตรแห่งนี้ ครับ และในการไหว้พระเก้าวัดของท่าน วัดแห่งนี้ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่ต้องเข้ามากราบไหว้บูชาครับ ท่านจะได้แต่ความสุขกายสบายใจครับ เอาไว้ทริปหน้า ดูเอเซีย.คอม จะพาเข้าวัดทำบุญกันอีกนะครับ สุขสมหวังจงเป็นแด่ของทุก ๆ ท่านครับ