สงสารสุดอุศเรนเมื่อรู้สึก |
ทรวงระทึกแทบจะแยกแตกสลาย |
พอเห็นองค์พระอภัยยิ่งให้อาย |
จะใคร่ตายเสียให้พ้นก็จนใจ |
คลำพระแสงแฝงองค์ที่ทรงเหน็บ |
เขาก็เก็บเสียเมื่อพบสลบไสล |
ให้อัดอั้นตันตึงตะลึงตะไล |
พระอภัยพิศดูก็รู้ที |
จึงสุนทรอ่อนหวานชาญฉลาด |
เราเหมือนญาติกันดอกน้องอย่าหมองศรี |
เมื่อแรกเริ่มเดิมก็ได้เป็นไมตรี |
เจ้ากับพี่เล่าก็รักกันหนักครัน |
มาขัดข้องหมองหมางเพราะนางหนึ่ง |
จนได้ถึงรบสู้เป็นคู่ขัน |
อันวิสัยในพิภพแม้นรบกัน |
ก็หมายมั่นจะใคร่ได้ชัยชนะ |
ซึ่งครั้งนี้พี่พาเจ้ามาไว้ |
หวังจะได้สนทนาวิสาสะ |
ให้น้องหายคลายเคืองเรื่องธุระ |
แล้วก็จะรักกันจนวันตาย |
ทั้งกำปั่นบรรดาโยธาทัพ |
จะคืนกลับให้ไปดังใจหมาย |
ทั้งสองข้างอยู่ตามความสบาย |
เชิญภิปรายโปรดตรัสสัตยสัญญา
ฯ |
ค
อุศเรนเอนเอกเขนกสนอง |
ตามทำนององอาจไม่ปรารถนา |
เราก็รู้ว่าท่านเจ้ามารยา |
ที่เรามาหมายเชือดเอาเลือดเนื้อ |
ไม่สมนึกศึกพลั้งลงครั้งนี้ |
จะกลับดีด้วยศัตรูอดสูเหลือ |
เราก็ชายหมายมาดว่าชาติเชื้อ |
ไม่เอื้อเฟื้อฝากตัวไม่กลัวตาย |
จงห้ำหั่นบั่นเกล้าเราเสียเถิด |
จะไปเกิดมาใหม่เหมือนใจหมาย |
แกล้งจ้วงจาบหยาบช้าพูดท้าทาย |
จะใคร่ตายเสียให้ยับอัประมาณ
ฯ |