มรดกทางพระพุทธศาสนา
ศาสนสถานและศาสนวัตถุ
พระมงคลมิ่งเมือง
เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมือง ตั้งอยู่ที่พุทธอุทยาน ในเขตอำเภอเมือง
ฯ มีพุทธลักษณะตามอิทธิพลของศิลปะอินเดียเหนือ แคว้นปาละ ซึ่งได้แผ่อิทธิพลด้านศิลปะมายังภาคอีสานของไทย
เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๓ - ๑๖ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง
๑๑ เมตร ส่วนสูงจากฐานถึงยอดเปลว ๒๐ เมตร โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
ผิวนอกฉาบปูน ปูประดับด้วยกระเบื้องโมเสกสีทอง สร้างเสร็จ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๘
เป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดใกล้เคียง
ทุกปีในวันขึ้นสิบห้าค่ำ เดือนสาม (วันมาฆบูชา) ชาวบ้านจะจัดงานนมัสการ
พระมงคลมิ่งเมือง เป็นงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัด
![](amnatcharoen25.jpg)
พระเหลาเทพนิมิต
เป็นพระประธานประดิษฐานอยู่ในอุโบสถวัดพระเหลาเทพนิมิต ในเขตอำเภอพนา สร้างด้วยอิฐถือปูน
สูง ๒.๗๐ เมตร หน้าตักกว้าง ๒.๘๕ เมตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีพุทธลักษณะที่งดงามยิ่ง
และมีอภินิหารเป็นที่เล่าลือกัน ในบรรดาชาวบ้านทั้งหลาย เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไปมานานกว่า
๒๐๐ ปี
นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า ทั้งโบสถ์และองค์พระประธาน เป็นสถาปัตยกรรมในศิลปะลาว
มีอายุอยู่ประมาณปี พ.ศ.๒๒๖๓
ในวันเพ็ญเดือนสาม ของทุกปี ถือว่าเป็นเทศกาลปิดทององค์พระเหลาเทพนิมิต จะมีพุทธศาสนิกชนทั่วทุกสารทิศ
หลั่งไหลกันมานมัสการ และบำเพ็ญบุญ โดยนำปราสาทผึ้งมาถวาย นำดอกไม้ธูปเทียนมาเคารพสักการะ
เป็นประเพณีสืบต่อกันมา
![](amnatcharoen26.jpg)
พระเจ้าใหญ่ศรีเจริญ
ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ วัดพระศรีเจริญ ที่บ้านหัวตะพาน ตำบลพระศรีเจริญ อำเภอหัวตะพาน
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง หน้าตักกว้าง ๑.๓๐ เมตร
สูงเฉพาะองค์พระ ๒.๐๐ เมตร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ตามประวัติกล่าวว่า
สร้างมาแล้ว ๗๕๐ ปี
ในวันขึ้นแปดค่ำ และสิบห้าค่ำ เดือนสี่ ของทุกปี ชาวบ้านจะจัดงานนมัสการปิดทององค์พระ
เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
![](amnatcharoen27.jpg)
กลุ่มใบเสมาวัดโพธิศิลา
อยู่ที่บ้านเปือยหัวดง ตำบลเปือย อำเภอลืออำนาจ ปักอยู่บริเวณเนินศาสนสถาน
บนใบเสมาสลักเป็นรูปหม้อน้ำ หรือบูรณฆฏะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญงอกงาม
พบมากในศิลปะอินเดียแบบอมราวดี
นับเป็นกลุ่มใบเสมาหินทรายที่มีความเก่าแก่ที่สุด ในภาคอีสาน
![](amnatcharoen28.jpg)
กลุ่มใบเสมา วัดป่าเรไร
อยู่ที่บ้านเปือยหัวดง ตำบลเปือย อำเภอลืออำนาจ นับเป็นกลุ่มใบเสมาที่มีความหนาแน่น
แห่งหนึ่งในภาคอีสาน เป็นใบเสมาที่ทำด้วยศิลาแลง ไม่มีการสลักลวดลายมากนัก
เพียงแต่ตกแต่งรูปร่างให้เป็นใบเสมา และมีการสลักฐานบัวคว่ำบัวหงาย มีสันนูนคล้ายยอดสถูปตรงกลาง
![](amnatcharoen29.jpg)
กลุ่มใบเสมา หลังโรงเรียนชุมชนเปือยหัวดง
อยู่ที่บ้านเปือยหัวดง ตำบลเปือย อำเภอลืออำนาจ กลุ่มใบเสมาปักล้อมฐานหินทรายที่ตั้งรูปเคารพ
และพระพุทธรูปปางสมาธิ ทวารวดีตอนปลายองค์หนึ่ง ใบเสมาไม่มีลวดลาย แต่ตรงกลางเป็นแกนสันที่เรียวไปถึงยอด
ศาสนสถานแห่งนี้ น่าจะมีอายุอยู่ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๒ - ๑๓ และนับเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่
ที่มีการนับถือพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง
ใบเสมา ที่บ้านโพนเมือง
อยู่ในตำบลไม้กลอน อำเภอพนา เป็นใบเสมาหินทราย ลักษณะโดยทั่วไปคล้ายกับใบเสมาหินทรายที่พบในภาคอีสาน
คือ เป็นหินทรายสีชมพู บางชิ้นมีร่องรอยการจำหลักลงรูปเจดีย์ จำลองเจดีย์องค์เล็ก
ๆ เป็นใบเสมาที่อยู่ในสมัยทวารวดี มีอายุอยู่ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๒ - ๑๖
![](amnatcharoen30.jpg)
ใบเสมา วัดดงเฒ่าเก่า
อยู่ที่บ้านหนองเรือ ตำบลนาหมอม้า อำเภอเมือง ฯ เป็นการปักใบเสมาในพื้นที่กว้าง
มีการสลักลวดลายนูนต่ำ เป็นรูปดอกไม้ รูปหม้อน้ำ และตอนบนเป็นรูปวงกลมคล้ายธรรมจักร
มีอายุอยู่ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๒ - ๑๓ และในบริเวณดังกล่าวยังพบพระพุทธรูปหินทราย
แบบทวารวดีตอนปลายด้วย
|