อุทยานแห่งชาติแม่จริม (ล่องแก่งลำน้ำว้า)อยู่ในเขตอำเภอแม่จริม ห่างจากตัวเมืองน่าน ประมาณ 60 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 1168 และ 1243 มีพื้นที่ 2
70,000 ไร่ หรือ 432 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำที่ไหลไปลงแม่น้ำน่านที่อำเภอเวียงสา สภาพป่าเป็นป่าดิบเขา ป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ มีสัตว์ป่าหลายชนิด
เนื่องจากองค์ประกอบของพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่จริมมีลักษณะเป็นภูเขาสูงชัน มีสภาพป่าที่ยังคงสมบูรณ์ และมีน้ำว้าไหลผ่านทางทิศตะวันตกของพื้นที่เป็นระยะทางถึง 7.5 กิโลเมตรทำให้มีจุดเด่นทางธรรมชาติ ทั้งที่เป็นป่าไม้ วัฒนธรรม และลำน้
ำ เหมาะสำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ อาทิ
ล่องแก่งลำน้ำว้า
เป็นการล่องแก่งโดยใช้แพยาง (ลำละไม่เกิน 8 คน) มีจุดเริ่มต้นบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่จริม ถึงจุดสิ้นสุด (ปางช้าง) ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมง หรือสิ้นสุดที่บ้านหาดไร่ ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางมีแก่งต
่างๆ ให้ผจญภัยและเล่นน้ำ กว่า 10 แก่ง สองข้างทาง เป็นหาดทรายและป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ มีธรรมชาติ สวนหิน และหุบเขาที่สวยงามตลอดเส้นทางสามารถล่องแก่งได้ตลอดทั้งปี ยกเว้นวันที่น้ำหลาก ไม่สมควรล่องแก่งเพราะอาจเกิดอันตรายได้ง่าย
ขับรถชมวิวเส้นทางบ้านน้ำพาง-บ้านร่มเกล้า
ตามเส้นทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1259 (บ้านน้ำพาง-บ้านร่มเกล้า) ระยะทาง 25 กิโลเมตร ตัดตามสันเขาผ่านสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ตลอดเส้นทาง สามารถจอดรถชมทิวทัศน์หุบเขาและหมู่บ้านทะเลหมอกยามเช้า ตลอดจนทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกดินได้หลายจุด ระหว
่างเส้นทางมีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่จริมที่ 1 (ห้วยเต่า) ตั้งอยู่ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการสิ้นสุดเส้นทางชมวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง และโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ลุ่มน้ำน่าน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
เดินป่าตามลำน้ำแปง
เป็นเส้นทางสัญจรในอดีตระหว่างบ้านร่มเกล้ากับบ้านห้วยทรายมูล มีจุดเริ่มต้นจากบ้านร่มเกล้าถึงปากน้ำแปงบรรจบลำน้ำว้า ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร เดินทางเลียบตามริมลำน้ำแปง ผ่านป่าดงดิบ และป่าเบญจพรรณระหว่างเส้นทางาจะพบน้ำตกขนาดเล็ก
ถ้ำ หน้าผา ธรรมชาติ และพรรณไม้ที่สวยงาม
เดินป่าบ้านน้ำพาง-บ้านร่มเกล้า
เป็นเส้นทางเดินสัญจรในอดีตของชาวบ้านร่มเกล้า ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ตามสันเขาผ่านสภาพป่าดงดิบเขาอันอุดมสมบูรณ์ มีป่าเต็งรัง ป่าสนเขา และป่าเบญจพรรณสลับบางช่วงสามารถพบเห็นนกได้หลายชนิด อากาศเย็นสบาย มีทะเลหมอก หุบเขาและพรรณไม้
ที่สวยงามตลอดเส้นทางใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
เดินป่า ปีนผาหน่อ
“ผาหน่อ” เป็นภูเขาหินปูน รูปแท่งเข็ม หรือหน่อไม้ มีความสูง 824 เมตร จากระดับน้ำทะเล สันนิษฐานว่าเกิดจากการยุบตัวของพื้นดินเชิงเขาบริเวณรอบๆ เป็นหน้าผาชันเกือบ 90 องศา เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินป่าและปีนเขา หากขึ้นถึงยอดเขาจุสาม
ารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามได้รอบด้าน ในผาหน่อพบถ้ำที่เป็นที่อยู่ของ ค้างคาว และเลียงผา บริเวณหน้าผาพบภาพเขียนโบราณเป็นรูปเลขาคณิตและรูปคล้ายผู้หญิงตั้งครรภ์ปรากฎอยู่ ระยะทางไป-กลับ ประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 6 ชั่วโมง
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ “ชบาป่า”
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระดำเนินศึกษาธรรมชาติในเส้นทางนี้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2542 ทรงพบดอกไม้ป่าสกุลเดียวกับชบา ดอกสีชมพูอมม่วงขนาด 2-3 เซ็นติเมตร. พระราชทานนามว่า “ชบาป่า” (Urena lobata) ทางเดินมีระยะทางป
ระมาณ 2 กิโลเมตร จากบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเป็นวงรอบไปสิ้นสุดบริเวณหาดทรายริมลำน้ำว้า ผ่านสภาพป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ มีสถานีสื่อความหมายธรรมชาติ 9 สถานี ได้แก่ เต็งรังกันไฟ การทดแทนกษัยการ (EROSION) เกื้อกูล ไตรลักษณ์ เป้ง ความเหมือนที่แตกต่า
งพรมแดนแห่งป่า (ECOTONE) และ”ไทร” นักบุญแห่งป่านักฆ่าเลือดเย็น ตามลำดับ มีจุดชมวิวทิวทัศน์ของลำน้ำว้า และขุนเขาหลายจุด ใช้เวลาเดินประมาณ 1.5 ชั่วโมง
อุทยานแห่งชาติแม่จริม มีบริการที่พัก ร้านอาหาร เต็นท์บริการสำหรับผู้ที่ต้องการค้างแรม สามารถติดต่อได้ที่ อุทยานแห่งชาติแม่จริม 35 หมู่ 5 บ้านห้วยทรายมูล ต.น้ำปาย อ. แม่จริม จ. น่าน 55170 โทรศัพท์ 0 5473 0040-1  
; เว็บไซต์ www.dnp.go.th/parkreserve
|