เอกลักษณ์ทางธรรมชาติ
คอคอดกระ
เป็นผืนแผ่นดินที่แคบที่สุดของแหลมมลายู เชื่อมระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิคกับมหาสมุทรอินเดีย
ส่วนที่แคบที่สุดยาวประมาณ ๔๔ กิโลเมตร อยุ่ในเขตตำบลมะมุ อำเภอกระบุรี ช่วงหลักกิโลเมตรที่
๕๔๕ ของเส้นทางหลวงหมายเลข ๔ ช่วงจังหวัดชุมพร - ระนอง ผู้ที่เดินทางผ่านเส้นทางสายนี้
สามารถแวะชมทิวทัศน์แม่น้ำกระบุรี ณ ริมทางหลวง โดยเฉพาะในยามเย็นจะมองเห็นดวงอาทิตย์ตกลับเหลี่ยมเขาในเขตพม่า
แม่น้ำกระบุรี
เป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ต้นน้ำอยุ่ที่ปลายทิวเขาตะนาวศรี
ไหลลงสู่ทะเลอันดามัน ในเขตอำเภอเมือง มีลำคลองหลายสายไหลมาบรรจบแม่น้ำกระบุรี
ปากแม่น้ำกระบุรีกว้าง ๕ กิโเมตร แม่น้ำกระบุรีมีความยาวทั้งสิ้น ๑๓๙ กิโลเมตร
ใช้เป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ภูเขาหญ้า
อยู่ในเขตตำบลหงาว อำเภอเมือง ฯ อยุ่ห่างจากตัวเมืองระนอง ไปตามทางหลวงหมายเลข
๔ (ช่วงระนอง - พังงา) ประมาณ ๑๓ กิโลเมตร เป็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าสีเขียวขจีตามแแนวเนินเขาจากเหนือจรดใต้
ในช่วงฤดูร้อนหญ้าจะแห้งเป็นสีน้ำตาล ตรงที่ราบเชิงเขามีทางเดินเท้าขึ้นอยู่สันเขา
ซึ่งจะสามารถชมทิวทัศน์ได้โดยรอบ เนินเขาบริเวณนี้ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น คงมีแต่หญ้าขึ้นปกคลุมอยู่ตลอดปี
ประวัติความเป็นมาคือ เมื่อประมาณ ๑๐๐ ปีมาแล้ว เขตพื้นที่ตำบลหงาวเป็นป่าทึบ
บริเวณภูเขาหญ้าเป็นทุ่งว่างเปล่า มีฝูงวัวและฝูงม้าป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
ชาวบ้านเรียกฝูงวัวป่าเหล่านี้ว่า
โหง่ว
ต่อมาจำนวนสัตว์ดังกล่าวได้ลดลงเป็นลำดับ แต่คนรุ่นต่อมายังคงเรียกสถานที่ดังกล่าวว่า
หงาว
ซึ่งเพี้ยนมาจากคำว่า โหงว
ปัจจุบันภูเขาหญ้า เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวระนอง
บ่อน้ำพุร้อน
อยู่ในสวนสาธารณะรักษะวาริน ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งหนึ่งของคลองหาดส้มแป้น อยู่ห่างจากตัวเมืองระนองไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข
๔๐๐๕ (ถนนชลระอุ) เลียบไปตามคลองหาดส้มแป้นประมาณ ๑ กิโลเมตร
บ่อน้ำร้อนมีอยู่ ๓ บ่อ ด้วยกันคือ
บ่อพ่อ บ่อแม่
และ
บ่อลูก
เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมีอุณหภูมิประมาณ ๕๐ - ๖๕ องศาเซลเซียส
ประกอบด้วยแร่ธาตุที่สำคัญคือ เหล็ก สังกะสี แมงกานีส ฟลูออไรด์ ไนเตรท ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์
ธารน้ำแร่
ในสมัยก่อนจังหวัดระนอง มีแร่ดีบุกมากมายในแม่น้ำลำธาร ปะปนอยู่กับกรวด และทรายตามท้องน้ำ
เมื่อใช้ภาชนะร่อนแร่ที่เรียกว่า เลียง มาร่อนหาแร่ก็จะหาแร่ดีบุกได้ในปริมาณไม่น้อย
แต่เมื่อราคาแร่ดีบุกตกต่ำ ทำให้อาชีพการร่อนแร่ตามแม่น้ำลำคลองหมดไป
ป่าชายเลน
ชาวจังหวัดระนองเรียกป่าชายเลนว่า
ป่าโกงกาง
เพราะไม้โกงกาง เป็นพันธุ์ไม้ที่พบมากที่สุดในป่าชายเลน แต่ป่าชายเลนยังมีพันธุ์ไม้ชนิดอื่น
ๆ อีกมากเช่น แสม ประสัก ตะบูน และเสม็ด เป็นต้น
ป่าชายเลนจะขึ้นอยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเลที่มีน้ำทะเลท่วมถึง สภาพดินส่วนใหญ่เป็นโคลนหรือเลน
บางแห่งมีทรายปนอยู่ ลักษณะดินเป็นดินเหนียวที่อัดตัวแน่น บริเวณที่พบส่วนใหญ่ได้แก่
ปากอ่าวชายฝั่งทะเล ริมตลิ่ง แม่น้ำ หาดเลน และบริเวณที่อยู่ในอิทธิพลของน้ำจืดและน้ำเค็ม
ที่เรียกว่า เขตน้ำกร่อย ดินในบริเวณป่าชายเลนจะมีสีดำอันเนื่องมาจากเศษซากพืชและสัตว์สะสมทับถมกันอยู่นอกจากนั้นบริเวณป่าชายเลน
ยังมีสิ่งมีชีวิตบนผิวดินเช่น ปู หอย กุ้ง และปลา อาศัยอยู่ด้วยกัน
ป่าบกและป่าชายเลน
มีความแตกต่างกันตรงที่ป่าชายเลนมีความสลับซับซ้อนมากกว่า อันเนื่องจากปัจจัยของน้ำเค็ม
น้ำจืด และแผ่นดิน
พืชพันธุ์ไม้ในป่าชายเลนเมื่อได้แสงอาทิตย์จะเกิดการสังเคราะห์แสง โดยส่วนหนึ่งของธาตุอาหาร
ซึ่งพืชไปใช้ได้มาจากธาตุอาหารทั้งจากพื้นที่บนบก และการพัดพาของคลื่นในกระแสน้ำ
เมื่อพืชเจริญเติบโตและมีซากของพืชทับถมลงสู่พื้นดินเบื้องล่าง ก็จะสลายกลายเป็นอินทรีย์วัตถุ
เช่นเดียวกับการสลายตัวของซากสัตว์ เป็นอาหารให้แก่พืชและสัตว์เล็ก ๆ เช่น
แพลงตอน แบคทีเรีย ฟังโจ โปรโตซัว เมื่อพืชและสัตว์ดังกล่าวเจริญเติบโตขึ้นก็จะกลายเป็นอาหารของสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ได้แก่
กุ้ง หอย ปู ปลา ซึ่งมนุษย์สามารถนำมาใช้เป็นอาหารได้ จึงกล่าวได้ว่าบริเวณป่าชายเลนเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลก
|