| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |
คริสตศาสนานิกายโปรเตสแต้นท์ สภาคริสตจักรในประเทศไทย (The Church of Christ in Thailand) เป็นกลุ่มคริสตศาสนิกชนของคนไทย อยู่ในนิกายโปรเตสแต้นท์ ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นคริสตจักรในสยาม เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๗ (ค.ศ.๑๙๓๔) และในปี พ.ศ.๒๔๘๖ คริตจักรในสยามได้เปลี่ยนชื่อเป็น สภาคริสตจักรในประเทศไทย คณะมิชชันนารี ได้เริ่มเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.๒๓๗๑ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า ฯ มิชชันนารีคณะแรกเป็นชาวยุโรปได้แก่ อังกฤษและเยอรมัน ต่อมาในปี พ.ศ.๒๓๗๕ มิชชันนารีจากสหรัฐอเมริกาก็ได้เริ่มเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทย เช่น คณะเพรสไบทีเรียน และคณะดิสไซเบิล เป็นต้น ปัจจุบันคณะมิชชันนารีที่อยู่ในสังกัดสภาคริสตจักรในประเทศไทย มีอยู่ถึง ๒๕ คณะด้วยกัน เช่น คณะบริติช เคาน์ซิล ออฟ เชิร์ช (The British Council of Churchs - BBC) คณะคริสเตียนเชิร์ช (Thd Christian Church) คณะลูเธอแรนเชิร์ชออฟ อเมริกา (The Lutheran Church of America) เป็นต้น ความเชื่อและหลักคำสอน คัมภีร์ที่ใช้คือ คัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม (Old Testament) และคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ (New Testament) หลักความเชื่อมีสามแบบที่เป็นมรดกสืบทอดต่อ ๆ มาคือ หลักข้อเชื่อของอัครธรรมทูต (Aposlleis Creed) ข้าพเจ้าเชื่อ วางใจพระเจ้า พระบิดาผู้ทรงฤทธิ์ที่สุด ผู้สร้างฟ้าสวรรค์และโลก ข้าพเจ้าเชื่อ วางใจในพระเยซูคริสต์ พระบุตรองค์เดียวของพระบิดา ทรงปฏิสนธิ์โดยวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงกำเนิดจากมาริย์สาวกพรหมจารี ทรงทนทุกข์ทรมานในสมัยที่ปอนทิอัสปีลาดปกครอง ทรงถูกตรึงที่กางเขน ทรงถูกบรรจุไว้ในอุโมงค์ เสด็จลงสู่แดนมรณา ในวันที่สามทรงกลับฟื้นคืนพระชนม์ เสด็จขึ้นสวรรค์ ประทับ ณ เบื้องขวาของพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ที่สุด จากที่นั่นพระองค์จะเสด็จมาพิพากษาคนเป็น และคนตาย ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระวิญาณบริสุทธิ์ และเชื่อมั่นในสากลคริสตจักรบริสุทธิ์ ในการร่วมสมานฉันท์ระหว่างธรรมิกชน การอภัยโทษบาป การที่กายคืนชีพและสมบูรณ์ชีพนิรันดร์ หลักข้อเชื่อในเซีย (Nicene Creed) ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระองค์เดียว พระบิดาผู้ทรงฤทธิ์ที่สุด ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และโลก และทุกสิ่งที่ประจักษ์ และไม่ประจักษ์แก่ตา ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์เดียว ผู้ทรงเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า ทรงกำเนิดจากพระบิดาก่อนสร้างกัลปจักรวาลทั้งมวล ทรงเป็นพระเจ้ากำเนิดจากพระเจ้า กำเนิดจากพระเจ้า แสงสว่างจากแสงสว่าง พระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้ ทรงกำเนิดไม่ได้ถูกสร้างขึ้น ทรงเป็นสาระเดียวกันกับพระบิดา ทรงสร้างสรรพสิ่ง เสด็จลงมาแต่สวรรค์เพื่อมนุษย์ และเพื่อช่วยเราให้รอดพ้น ทรงกำเนิดเป็นมนุษย์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทางมารีย์ สาวพรหมจารี ทรงสภาพมนุษย์ ในสมัยที่ปอนทิอัสปีลาดปกครอง พระองค์ถูกตรึงที่ไม้กางเขนเพื่อเราทั้งหลาย ทรงทุกข์ทรมานจนสิ้นพระชนม์ ถูกบรรจุไว้ในอุโมงค์ และในวันที่สามทรงฟื้นคืนพระชนม์ ตามที่คัมภีร์ทำนายไว้ เสด็จขึ้นสวรรค์ประทับ ณ เบื้องขวาของพระบิดา พระองค์เสด็จมาอีกด้วยพระสิริ เพื่อพิพากษาคนเป็น และคนตาย พระราชอาณาจักรของพระองค์ไม้รู้สิ้นสุด ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระวิญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าผู้ประทานชีวิต ผู้ทรงเป็นมาจากพระบิดาและพระบุตร ผู้ทรงรับนมัสการ และการสรรเสริญพร้อมกับพระบิดา และพระบุตร พระองค์ได้ตรัสทางพวกผู้เผยพระวจนะ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในสากลคริสต์จักรที่สืบมาจาก อัครธรรมทูตคริสตจักรเดียว ข้าพเจ้ารับว่ามีพิธีปัพติศมา เพื่อยกบาปแต่พิธีเดียว ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในการคืนชีพของผู้ที่ตาย แล้วและชีวิตในโลกหน้า สภาคริสตจักรในประเทศไทยมีหลักข้อเชื่อร่วมกัน คือ หลักข้อเชื่อและมาตรฐานของคริสตจักรนี้ให้ถือตามความในคริสตธรรมคัมภีร์เป็นหลัก ข้าพเจ้ายอมรับหลักข้อเชื่อของอัครธรรมทูต และหลักข้อเชื่อไนเซีย ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากคริสตจักรสากลดึกคำบรรพ์ ข้าพเจ้ายอมรับและเชื่อว่า พระเยซูคริสต์เป็นองค์พระเจ้า และพระผู้ช่วยให้รอดของมนุษย์ตามข้อความในคริสตธรรมคำภีร์ อันเป็นพยานศักดิ์สิทธิ์ถึงพระองค์ และปฏิบัติพระองค์ผู้เป็นประมุข แต่องค์เดียวของคริสตจักรเพื่อเทิดทูนสิริของพระเจ้าองค์เดียว ผู้ทรงสภาพพระบิดา พระบุตร และพระวิญาณบริสุทธิ์ คำอธิษฐานที่พระเยซูทรงสอน ข้าแต่พระบิดาแห่งข้าพระองค์ทั้งหลายผู้ทรงสถิตย์ในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก ขอทรงโปรดประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในกาลวันนี้ และขอโปรดยกบาปผิดของข้าพระองค์ เหมือนข้าพระองค์ยกโทษผู้ทำผิดต่อพระองค์ และขออย่านำข้าพระองค์ไปในกาลทดลอง แต่ขอให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย เหตุว่าราชอำนาจและฤทธิ์เดช และพระสิริเป็นของพระองค์สืบ ๆ ไปเป็นนิตย์ หลักคำสอน จะถือหลักคำสอนของพระเยซูคริสต์ เป็นมูลฐานของการดำเนินชีวิตทุกด้าน และโดยเฉพาะในกฎบัญญัติที่ว่า "จงรักพระเจ้าด้วยสุจริตใจจากเจ้า และด้วยสิ้นสุดความคิดของเจ้า จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง" วัตถุประสงค์ขององค์การ มีอยู่สามประการด้วยกันคือ ๑. เพื่อรวบรวมคริสตชนทั้งหลายในประเทศไทยเข้าด้วยกัน ๒. เพื่อให้มีความสัมพันธ์ในการเผยแพร่พระกิตติคุณ และรับใช้พระเจ้าและชุมชนตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ด้วยวิธีการเลี้ยงตนเอง ปกครองตนเอง และสร้างเสริมกิจกรรมทั้งปวงให้เจริญเติบโตมั่นคงยิ่งขึ้น ๓. เพื่อกระทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ การบริหารงาน มีธรรมนูญการปกครองคริสตจักรเป็นบันทัดฐานในการดำเนินงาน และการปกครองสภาคริสตจักรในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ของสภาคริสตจักร ฯ มีสี่ตำแหน่งคือ ประธาน รองประธาน เลขาธิการ และเหรัญญิก ที่ประชุมใหญ่สามัญจะทำหน้าที่กำหนดนโยบายสำคัญให้คริสตจักรภาค โรงเรียน โรงพยาบาล กอง ฯ และหน่วยงานต่าง ๆ ปฏิบัติ และจะเป็นผู้เลือกคณะบุคคลขึ้นชุดหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นกรรมการอำนวยการของสภาคริสตจักร ฯ ด้วย คริสตจักรภาค มีอยู่ ๑๔ ภาค ด้วยกันคือ ภาคที่ ๑ เชียงใหม่ - ลำพูน ภาคที่ ๒ เชียงราย ภาคที่ ๓ ลำปาง ภาคที่ ๔ แพร่ ภาคที่ ๕ น่าน ภาคที่ ๖ กรุงเทพ ฯ - พิษณุโลก ภาคที่ ๘ เพชรบุรี ราชบุรี ประจวบ ฯ ชุมพร ภาคที่ ๙ นครศรีธรรมราช - ตรัง ภาคที่ ๑๐ เชียงราย ภาคที่ ๑๑ นครปฐม ภาคที่ ๑๒ ทวิประเทศ (จีน) ภาคที่ ๑๓ อุดรธานี ภาคที่ ๑๔ เชียงใหม่ งานหรือโครงการระยะยาว ประกอบด้วยโรงเรียนต่าง ๆ และโรงพยาบาลต่าง ๆ คือ โรงเรียน มีอยู่ ๑๗ แห่งด่วยกันได้แก่ รร.เชียงรายวิทยาคม - เชียงราย รร.ปรินส์รอยแยลส์ วิทยาลัย - เชียงใหม่ รร.ทราวิทยาลัย - เชียงใหม่ รร.เดนเน็ตแม็คเคนซี่ - ลำปาง รร.วิชชามารี - ลำปาง รร.เจริญราษฎร - แพร่ รร.น่านคริสเตียนศึกษา - น่าน รร.ผดุงราษฎร - พิษณุโลก รร.วัฒนาวิทยาลัย - กรุงเทพ ฯ รร.สุริยวงศ์ - ราชบุรี รร.เยนเฮส์เมนโมเรียล - กรุงเทพ ฯ รร.บำรุงวิทยา - นครปฐม รร.สหบำรุงวิทยา - นครปฐม รร.อรุณประดิษฐ - เพชรบุรี รร.ศรีธรรมราชศึกษา รร.ตรังคริสเตียนศึกษา - ตรัง รร.กรุงเทพ ฯ คริสเตียน - กรุงเทพ ฯ โรงพยาบาล มีอยู่ ๗ แห่งด้วยกันคือ รพ.แมคคอร์มิค - เชียงใหม่ วรพ.โอเวอร์บรุ๊ค - เชียงราย รพ.แวพร่คริสเตียน - แพร่ รพ.แวนแซนต์ - ลำปาง รพ.กรุงเทพคริสเตียน - กรุงเทพ ฯ รพ.คริสเตียนนครปฐม - นครปฐม สถาบันผู้ป่วยโรคเรื้อนแมคเคน - เชียงใหม่ ศาสนสถาน มีคริสตจักรทั้งหมด ๒๐๘ คริสตจักร (ตัวโบสถ์) มีหมวด ๘๐ หมวด มีสมาชิกทั่วประเทศ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๕ ประมาณ ๓๑,๐๐๐ คน มีศาสตราจารย์ ๙๗ คน ครูศาสนา ๗๐ คน ผู้ประกาศ ๓ คน และศิษยาภิบาล ๑๐๘ คน
| ย้อนกลับ | บน | หน้าต่อไป |