หมู่บ้านทุ่งโฮ้ง 
	เป็นแหล่งผลิต 
	และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าม่อฮ่อมดั้งเดิมของจังหวัดแพร่ซึ่มีชื่อเสียงเลื่องลือมากคนนิยมมาซื้อหาไปใช้สอยพร้อมทั้งวิถีชีวิตของคนในหมูในบ้าน
	
	ประวัติไทยพวนบ้านทุ่งโฮ้ง 
	ไทยพวนบ้านทุ่งโฮ้ง ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่า 
	ผู้แก่และจากการค้นคว้าในหนังสือประวัติศาสตร์พบว่า อพยพมาจากเมืองพวน 
	แขวงเมืองเชียงราย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประมาณ พ.ศ. 2360  2380 
	ไทยพวนบ้านทุ่งโฮ้ง หรือชื่อเดิมเรียกว่า บ้านทั่งโฮ้ง คำว่าทั่ง หมายถึง 
	ทั่วที่รองรับการตีเหล็ก คำว่า โห้ง เป็นภาษาไทยพวน 
	หมายถึงสถานที่เป็นแอ่งลึกลงไป คนพวนว่า มันโห้งลงไป 
	สมัยก่อนนั้นคนพวนบ้านทุ่งโฮ้งจะมีเตาตีเหล็กกันแทบทุกหลังคาเรือน 
	เขาจึงเรียกว่า บ้านทั่งโห้ง ส่วนคำว่า ทุ่งโฮ้ง คงจะเป็นคำเพี้ยงจากคำว่า 
	ทั่งโห้ง
	ผลิตภัณฑ์โดดเด่น
	    ผ้าหม้อห้อม หม้อห้อมเป็นคำพื้นเมือง จากคำสองคำคือ หม้อ และ ห้อม 
	หม้อเป็นภาชนะอย่างหนึ่งที่ใช้ในการบรรจุน้ำ หรือของเหลวมีทั้งเล็กและใหญ่ 
	ส่วนห้อมนั้น เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ที่ใช้ลำต้นและใบมาหมัก 
	ในน้ำตามกรรมวิธีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ 
	จะให้เป็นสีกรมท่าโดยนำผ้าขาวไปย้อมให้เป็นสีกรมท่าที่เรียกว่า ผ้าหม้อห้อม
	ประเพณี
	ประเพณีที่สืบทอดกันมา 
	ของชาวไทยพวนบ้านทุ่งโฮ้ง คือประเพณีกำฟ้า 
	กำฟ้า หมายถึง การบวงสรวงเทพยดา และบูชาฟ้า เพื่อให้เทพยดาบนฟ้าให้การคุ้มครอง 
	โดยชาวไทยพวนบ้านทุ่งโฮ้งจะถือกันอย่างเคร่งครัด
	กำฟ้าครั้งแรก เดือน 3 ใต้ (เดือน 5 เหนือ ) วันขึ้นสี่ค่ำ
	กำฟ้าครั้งที่ 2 เดือน 3 ใต้ (เดือน 5 เหนือ) วันขึ้นแปดค่ำ
	กำฟ้าครั้งที่ 3 เดือน 3 ใต้ (เดือน 5 เหนือ) วันขึ้นสิบสองค่ำ
	เรื่องราวของประเพณีกำฟ้า
	ในปี ค.ศ. 1787 (พ.ศ. 2330) เจ้านันทะเสน เจ้าเมืองเวียงจันทร์ 
	เห็นว่าเจ้าเมืองชมพู เมืองพวนไม่ยอมมาอ่อนน้อมและส่งส่วนตามปกติ 
	จึงให้นายทหารชื่อเขียวไปปราบปราม ฝ่ายเจ้าชมพู เจ้าเมืองพวนสู้ไม่ได้ 
	จึงถูกจับมายังเวียงจันทร์ เจ้านันทะเสนจึงให้ทหารนำเจ้าชมพูไปลานประหาร 
	ขณะทหารจะใช้หอกแทงเจ้าชมพูนั้น เกิดมีลมฝนขึ้นอย่างกะทันหัน 
	และฟ้าได้ผ่าลงมาที่หอกจนขาดสะบั้น ทหารเพชฌฆาตพากันแตกตื่น ไปรายงานให้เจ้านันทะเสนทราบ 
	ทำให้เจ้านันทะเสนไม่กล้าประหารชีวิตเจ้าชมพู 
	และให้เจ้าชมพูกลับไปปกครองเมืองพวนเหมือนเดิม 
	วันที่ฟ้าช่วยชีวิตเจ้าชมพูไว้เป็นวันขึ้น 2 ค่ำ เดือน 5 
	ชาวพวนจึงถือเอาวันดังกล่าวเป็นวัน กำฟ้า  
	จนเกิดเป็นประเพณีกำฟ้าของชาวไทยพวนทุกหมู่เหล่า 
	สืบมาจนทุกวันดังที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่าชาวไทยพวน ไม่มีใครถูกฟ้าผ่าตาย
	ประเภทการท่องเที่ยว 
	ท่องเที่ยวเชิงเกษตร 
	การเดินทาง
	
	ตั้งอยู่ที่ถนนยันตรกิจโกศล ห่างจากตัวเมืองประมาณ 4 กิโลเมตร 
	ตามทางหลวงหมายเลข 101 (สายแพร่ - น่าน) 
	
	
	
	 
	 
	