เกาะหมาก หรือ Koh Mak เป็นเกาะขนาดใหญ่ 
		อยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ห่างจากฝั่งประมาณ 38 กิโลเมตร 
		มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 9,000 ไร่ มีรูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก 
		พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสวนมะพร้าว โดยรอบมีอ่าว ชายหาดที่สวยงาม 
		และน้ำใสสะอาดหลายแห่ง เช่น บริเวณอ่าวตานิด อ่าวไผ่ อ่าวโปร่ง อ่าวผาด 
		อ่าวแดง อ่าวส่วนใหญ่ 
		บริเวณชายฝั่งรอบเกาะและเกาะใกล้เคียงพบแนวปะการังที่สมบูรณ์ และสวยงาม 
		บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย 
		ช่วงฤดูท่องเที่ยวเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม-พฤษภาคม
             
				ชุมชนดั้งเดิมบนเกาะหมากส่วนใหญ่เป็นเขมรเชื้อชาติไทยที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานเมื่อครั้งเมืองประจันตคีรีเขตร 
				หรือเกาะกงเป็นของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2447 โดยมีหลวงพรหมภักดี 
				ต้นตระกูลตะเวทิกุล เป็นผู้ควบคุมคนจีนบนเกาะกง 
				คนบนเกาะส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกัน มีอาชีพเกษตรกรรมทำสวนยางพารา 
				และสวนมะพร้าว 
				จนเกาะหมากได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวที่สำคัญของจังหวัดตราด 
				บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย 
		 
		เมืองตราดสันนิษฐานว่าเพี้ยนมาจากคำว่า กราด 
		ที่เป็นชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ใช้ทำไม้กวาด 
		ต้นไม้ชนิดนี้มีขึ้นอยู่รอบเมืองตราด 
		ซึ่งในสมัยนั้นมีต้นกราดอยู่เป็นจำนวนมาก แต่พอถึงในสมัยกรุงศรีอยุธยา 
		รัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมืองตราดมีชื่อในขณะนั้นว่า บ้านบางพระ 
		จังหวัดตราด 
		หรือเมืองทุ่งใหญ่ปรากฏชื่อในทำเนียบหัวเมืองสมัยพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. 
		2178) ว่าเป็นหัวเมืองชายทะเล สังกัดฝ่ายการต่างประเทศ 
		ซึ่งเกี่ยวข้องกับด้านการคลัง ตราดเป็นหนึ่งในเมืองท่าชายทะเล 
		ที่มีชัยภูมิเหมาะกับการแวะจอดเรือ เพื่อขนถ่ายซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า 
		เติมเสบียงอาหาร น้ำจืดบริเวณอ่าวเมืองตราด 
		จึงเป็นแหล่งที่ตั้งชุมชนพ่อค้าชาวจีนที่เดินทางเข้ามาค้าขาย 
		
		ตราดนับเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงปลายอยุธยา 
		สินค้าที่ส่งออกขายยังแดนไกล โดยเฉพาะของป่า เช่น เขากวาง หนังสัตว์ ไม้หอม 
		และเครื่องเทศต่าง ๆ ล้วนมาจากเขตป่าเขาชายฝั่งทะเลตะวันออก แถบระยอง 
		จันทบุรี ตราด โดยลำเลียงสินค้าผ่านมาตามแม่น้ำเขาสมิง ออกสู่ปากอ่าวตราด
		
		เมื่อครั้งสงครามกู้เอกราชสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงเลือกตราดเป็นเมืองหน้าด่านกันชน 
		ทำหน้าที่ส่งเสบียงอาหารก่อนเคลื่อนกองทัพเรือออกจากจันทบุรี
		ในสมัยรัชการที่ 1 
		เมืองตราดยังเป็นเมืองท่าสำคัญแห่งหนึ่งเช่นเดียวกับในสมัยอยุธยา 
		ในสมัยรัชกาลที่ 3 ไทยทำศึกกับเจ้าอนุวงศ์ 
		เมืองเวียงจันท์ซึ่งต่อมาหันไปสวามิภักดิ์กับญวน 
		ไทยกับญวนผิดใจกันจนต้องทำสงครามกันในปี พ.ศ. 2371 ตราดเป็นแหล่งกำลังพล 
		และเสบียงอาหารมีการตั้งป้อมค่ายอยู่ที่บ้านแหลมหิน ปากอ่าวเมืองตราด
		สมัยรัชกาลที่ 5 ฝรั่งเศสได้ส่งกองทัพเรือเข้ายึดจันทบุรี 
		ปี ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) และคืนให้ไทยในปี พ.ศ. 2447 
		โดยแลกกับเมืองตราดตั้งแต่แหลมสิงห์ไปจนถึงเกาะกูด 
		รวมทั้งเมืองปัจจันตคีรีเขตร (เกาะกง) 
		ต่อมารัฐบาลไทยเห็นว่าตราดมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ 
		และพลเมืองส่วนใหญ่เป็นคนไทย 
		ด้วยพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 
		ฝรั่งเศสจึงยินยอมทำสัญญายกเมืองตราดกับเมืองด่านซ้ายฝั่งขวาของแม่น้ำโขง 
		(เมื่อหันหน้าไปทางปากแม่น้ำ) คืนให้กับไทยโดยแลกเปลี่ยนกับพระตะบอง 
		เสียมราฐ ศรีโสภณ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 
		โดยฝ่ายไทยมีพระยามหาอำมาตยาธิบดี 
		ซึ่งในขณะนั้นเป็นพระยาศรีเทพตำแหน่งปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทยเป็นหัวหน้าผู้แทนรัฐบาลไทย 
		ฝ่ายฝรั่งเศสมีเมอซิเออร์รูซโซเรซิดังเป็นหัวหน้าผู้แทนรัฐบาลฝรั่งเศสได้กระทำพิธีส่ง 
		และรับมอบกัน ณ ศาลากลางจังหวัด และฝรั่งเศสยอมถอนทหารออกไปเมื่อวันที่ 6 
		กรกฎาคม พ.ศ. 2450
		ในช่วงสงครามอินโดจีน (พ.ศ. 
		2483-2484) ฝรั่งเศสพยายามเข้ายึดเมืองตราดอีกเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 
		2484 
		กองทัพเรือไทยได้เข้าต่อสู้ขัดขวางกองทัพเรือฝรั่งเศสที่ล่วงล้ำน่านน้ำไทยอย่างกล้าหาญ 
		รักษาเมืองยุทธศาสตร์ที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้ได้
		ปี พ.ศ. 2521 เกิดสงครามสู้รบในกัมพูชา 
		ชาวเขมรนับแสนหนีตายทะลักเข้ามาในเขตไทยทางเทือกเขาบรรทัด 
		เขตพรมแดนด้านตะวันออก เส้นทางหลวงหมายเลข 318 
		จากตัวเมืองตราดเลียบขนานเทือกเขาบรรทัด 
		และชายฝั่งทะเลสู่อำเภอคลองใหญ่เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สายสำคัญ 
		เมื่อสงครามสงบลงในปี พ.ศ. 2529 
		เส้นทางสายนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นเส้นทางการค้าระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณตลาดหาดเล็ก 
		สุดเขตชายแดนไทย และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางต่อไปยังเกาะกง
		การขุดพบ พลอยแดง หรือ 
		ทับทิมสยาม ในเขตอำเภอบ่อไร่เมื่อปี พ.ศ. 2514 ก่อกระแสการตื่นพลอย 
		ผู้คนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้ามาแสวงโชคที่นี่ความเจริญทุกด้านมุ่งสู่บ่อไร่จนกลายเป็นเมืองใหญ่คู่กับตัวเมืองตราด 
		พื้นที่ที่เคยเป็นป่าทึบกลายเป็นหลุมบ่อ เมื่อทรัพย์สินในดินเริ่มหมดไป 
		ในปี พ.ศ. 2534 บ่อไร่กลายเป็นเมืองร้าง 
		เหลือไว้เพียงอาคารร้านค้าซึ่งเป็นอนุสรณ์แห่งความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ
 
		จังหวัดตราด อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 315 กิโลเมตร 
		มีพื้นที่ประมาณ 2,819 ตารางกิโลเมตร 
		เป็นจังหวัดชายแดนทางภาคตะวันออกของประเทศไทย แบ่งการปกครองออกเป็น 5 อำเภอ 
		กับ 2 กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอเขาสมิง อำเภอแหลมงอบ อำเภอคลองใหญ่ 
		อำเภอบ่อไร่ กิ่งอำเภอเกาะกูด และกิ่งอำเภอเกาะช้าง 
		สภาพภูมิอากาศ 
		จังหวัดตราดมีอากาศไม่ร้อนจัด หรือหนาวจนเกินไป แต่มีฝนตกชุกมาก 
		เพราะมีพื้นที่ติดทะเลและภูเขาโอบล้อม จึงทำให้รับอิทธิพลของลมมรสุม 
		แบ่งออกเป็น 3 ฤดู
		ฤดูหนาว เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ ช่วงเดือนพ.ย.-ก.พ. อากาศไม่หนาวมากนัก 
		อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20 องศาเซลเซียส
		ฤดูร้อน เป็นช่วงระหว่างเดือน มี.ค.-เม.ย. อุณหภูมิโดยเฉลี่ยไม่เกิน 34 
		องศาเซลเซียส 
		ฤดูฝน เกิดจากอิทธิพลลมมรสุมตัวันตกเฉียงใต้พัดผ่านทะเลอ่าวไทย ในช่วงเดือน 
		พ.ค.-ต.ค ของทุกปี ทำให้มีฝนตกชุกในเกือบทุกพื้นที่ 
		โดยเฉลี่ยจะมีปริมาณน้ำฝน 4,000 มม.ต่อปี
		
			เกาะหมาก หรือ Koh Mak 
			เป็นเกาะขนาดใหญ่ อยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ห่างจากฝั่งประมาณ 38 
			กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 9,000 ไร่ มีรูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก 
			พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสวนมะพร้าว โดยรอบมีอ่าว ชายหาดที่สวยงาม 
			และน้ำใสสะอาดหลายแห่ง เช่น บริเวณอ่าวตานิด อ่าวไผ่ อ่าวโปร่ง อ่าวผาด 
			อ่าวแดง อ่าวส่วนใหญ่ 
			บริเวณชายฝั่งรอบเกาะและเกาะใกล้เคียงพบแนวปะการังที่สมบูรณ์ และสวยงาม 
			บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย 
			ช่วงฤดูท่องเที่ยวเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม-พฤษภาคม
			
			ชุมชนดั้งเดิมบนเกาะหมากส่วนใหญ่เป็นเขมรเชื้อชาติไทยที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานเมื่อครั้งเมืองประจันตคีรีเขตร 
			หรือเกาะกงเป็นของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2447 โดยมีหลวงพรหมภักดี 
			ต้นตระกูลตะเวทิกุล เป็นผู้ควบคุมคนจีนบนเกาะกง 
			คนบนเกาะส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกัน มีอาชีพเกษตรกรรมทำสวนยางพารา 
			และสวนมะพร้าว 
			จนเกาะหมากได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวที่สำคัญของจังหวัดตราด 
			บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย 
			
			เดินทางไปเกาะกูด
			รถยนตร์ ขับรถไปเองเลือกได้ 2 เส้นทาง
			1. จากกรุงเทพใช้ทางหลวงหมายเลข 3 (บางนา-ตราด) 
			ผ่านชลบุรี ระยอง จันทบุรี เลยไปจนถึงจังหวัดตราดรวมระยะทางทั้งสิ้น 
			385 กิโลเมตร
			2. จากกรุงเทพฯใช้ทางหลวงหมายเลข3 
			(บางนา-ตราด)เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง หมายเลข 344(ชลบุรี-บ้านบึง-แกลง) 
			เมื่อถึงอำเภอแกลง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข3 
			ผ่านจังหวัดจันทบุรีจนถึงจังหวัดตราด รวมระยะทาง 315 กิโลเมตร
			รถโดยสารประจำทาง
			
			การเดินทางไปจังหวัดตราดสามารถเลือกขึ้นรถได้ทั้งสถานขนส่งเอกมัยและสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ 
			บริษัทโชคอนุกูลได้ชื่อว่าบริการดี แต่มีรถให้บริการน้อย 
			ต่างจากบริษัทสหมิตรเชิดชัยทัวร์ รถออกทุกๆชั่วโมง 
			และบริษัทศุภรัตน์ทัวร์นอกจากรถปรับอากาศชั้น 1 และรถปรับอากาศ VIP
			จะเลือกบริษัทไหนก็ตามแต่ชอบ
			บริษัท ขนส่ง จำกัด
			กรุงเทพฯ-ตราด รถออกตั้งแต่เวลา 06.00-24.00น. 
			โทรศัพท์ 0-2391-8097 ,0-2382-2098 
			ตราด-กรุงเทพฯ รถออกตั้งแต่เวลา 06.30-17.30น.โทรศัพท์ 0-3951-1986 
			บริษัท โชคอนุกูล
			กรุงเทพฯ(เอกมัย)-ตราด รถออกเวลา 14.00น. และ 
			23.30น.โทรศัพท์ 0-23924-7680 
			ตราด-กรุงเทพฯ(เอกมัย) รถออกเวลา 06.30 และ 23.30น.โทรศัพท์ 
			0-3951-1208 
			บริษัทเชิดชัยทัวร์
			กรุงเทพฯ(เอกมัย)-ตราด 
			รถออกตั้งแต่เวลา06.00-23.00น.โทรศัพท์ 0-2931-2237 
			ตราด-กรุงเทพฯ(เอกมัย) รถออกตั้งแต่เวลา07.00-23.30น.โทรศัพท์ 
			0-3951-1062 
			กรุงเทพฯ(หมอชิต) โทรศัพท์ 0-2936-0199 
			บริษัท ศุภรัตน์ทัวร์
			กรุงเทพฯ(เอกมัย)-ตราด 
			รถออกตั้งแต่เวลา08.30-22.30น.โทรศัพท์ 0-2391-2331 
			กรุงเทพฯ(หมอชิต)-ตราด รถออกตั้งแต่เวลา06.00-23.00น.โทรศัพท์ 
			0-2936-3388 
			ตราด-กรุงเทพฯ(เอกมัย) รถออกตั้งแต่เวลา08.30-23.00น.โทรศัพท์ 
			0-3951-1481 
			ตราด-กรุงเทพฯ(หมอชิต)รถออกตั้งแต่เวลา08.30-23.00น.โทรศัพท์ 
			0-3951-1481 
			ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
			http://www.kohmakisland.com
			
			
				แผนที่เกาะกูด เกาะหมาก
				