อำเภออุ้มผาง
อยู่ห่างจากจังหวัดตาก 249 กิโลเมตร มีพื้นที่ 2,703,362 ไร่ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในแปดอำเภอที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีชายแดนติดต่อกับสหภาพพม่า และเคยเป็นที่อยู่ของชาวกะเหรี่ยงมาก่อน ต่อมาจึงมีคนไทยภาคเหนืออพยพเข้ามาอาศัยอยู่มากขึ้น เดิมอุ้มผางเป็นเมืองหน้าด่านขึ้นอยู่กับจังหวัดอุทัยธานี เป็นจุดตรวจชาวพม่า ซึ่งเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ต่อมาในปี พ.ศ. 2502 ได้ประกาศให้ขึ้นกับจังหวัดตาก คำว่า อุ้มผาง เพื้ยนมาจากคำภาษากะเหรี่ยงว่า อุ้มผะ แปลว่า การแสดงหนังสือเดินทางของผู้เข้าออกไทย - พม่า
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร ถึงตาก ระยะทางประมาณ 425 กิโลเมตร ก่อนถึงตัวจังหวัดตาก 7 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายเข้าสู่เส้นทางหลวงหมายเลข 105 สายตาก-แม่สอด ถึงอำเภอแม่สอดระยะทาง 86 กิโลเมตร และจากอำเภอแม่สอดมีทางแยกซ้ายให้เข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 1090 สายแม่สอด-อุ้มผาง ทางไปอำเภออุ้มผาง ระยะทาง 164 กิโลเมตร บนเทือกเขาถนนธงชัย เป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวสลับซับซ้อนมีทั้งหมด 1,219 โค้ง เป็นที่รู้จักกันในนามของ ถนนลอยฟ้า จากอำเภอแม่สอดถึงอำเภออุ้มผางใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4-5 ชั่งโมง รวมระยะทาง 689 กิโลเมตร
หมายเหตุ เส้นทางช่วงแม่สอด-อุ้มผาง นักเดินทางควรขับรถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ และรถที่ใช้ควรมีสภาพดี หรือรถที่มีสมรรถนะสูง เพราะเป็นเส้นทางตัดผ่านเทือกเขา ถนนมีความคดโค้งมาก มีจุดแวะพักบริเวณกิโลเมตรที่ 84 มีร้านขายอาหาร และเครื่องดื่ม ผู้ที่เมารถควรรับประทานยาแก้เมารถไว้ล่วงหน้า
การเดินทางไปน้ำตกทีลอซุ
รถยนต์ จากอำเภออุ้มผางใช้เส้นทางสายอุ้มผาง-แม่สอด ถึงหลักกิโลเมตรที่ 161 มีทางแยกซ้ายที่บ้านแม่กลองใหม่ไปด่านเดลอ หรือจุดตรวจ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เป็นระยะทาง 30 กิโลเมตร (สำหรับนักท่องเที่ยวที่ขับรถเข้าน้ำตกทีลอซูต้องติดต่อขอรับใบอนุญาตเข้าที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง (สป. 7) ได้ที่ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และอนุรักษ์อุ้มผางก่อนทุกครั้ง นักท่องเที่ยวต้องยื่น สป. 7 ที่ด่านเดลอ) จากนั้นเดินทางไปตามถนนลูกรังอีก 26 กิโลเมตร ถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 3 ชั่วโมง เส้นทางช่วงนี้เป็นทางดิน ควรใช้รถปิคอัพ หรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีสมรรถนะสูงเท่านั้น ในฤดูฝนรถอาจเข้าไม่ได้ และจากที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร
จึงถึงตัวน้ำตกทีลอซู
ล่องแพ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อผ่านบริษัททัวร์ที่จัดล่องแพในอำเภออุ้มผางได้ โดยติดต่อได้ที่ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และอนุรักษ์อุ้มผาง โทร. 0 5556 1338
น้ำตกทีลอจ่อ หรือ น้ำตกสายฝน ห่างจากอำเภออุ้มผาง 3 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายอุ้มผาง-บ้านปะละทะ ถึงแยกขวามือมีทางเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะพบน้ำตก ชั้นแรก มีความสูงประมาณ 80 เมตร อยู่บนหน้าผาสูงชัน ชั้นที่ 2 ไหลจากหน้าผาสูงชันตกลงสู่แม่น้ำแม่กลอง สายน้ำแตกกระจายเป็นฝอยดูเหมือนสายฝน ทำให้บริเวณโดยรอบได้รับความชุ่มชื้นมีพืชประเภทมอส และตะไคร่น้ำขึ้นปกคลุมเขียวชอุ่มตลอดทั้งปี น้ำตกทีลอจ่อนี้สามารถล่องเรือยางจากตัวอำเภอ อุ้มผางไปตามลำน้ำแม่กลองถึงน้ำตกได้ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที
น้ำตกเซปละ อยู่ในเขตบ้านเซปละ ตำบลแม่ละมุ้ง ห่างจากบ้านปะละทะ 3 กิโลเมตร เป็นน้ำตกภูเขาหินปูนที่ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความกว้าง 10 เมตร ยาว 50 เมตร กระแสน้ำที่ตกลงกระทบโขดหินทำให้ดูคล้ายกับก้อนเมฆสีขาวที่มีความสวยงาม
น้ำตกทีลอเร มีพื้นที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เป็นน้ำตกที่อยู่บนโตรกผา มีลักษณะเป็นเพิงผาคล้ายถ้ำ ริมลำน้ำแม่กลอง โดยมีลำน้ำสายใหญ่ไหลผ่านหน้าผาสูงชันตกลงสู่ลำน้ำแม่กลอง มีความสูง 80 เมตร ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม น้ำตกทีลอเรเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินทางลักษณะการผจญภัย และศึกษาธรรมชาติ ควรใช้เส้นทางสายอุ้มผาง-บ้านปะละทะ เริ่มต้นจากหมู่บ้านกระเหรี่ยงปะละทะด้วยการล่องเรือยางไปตามลำน้ำแม่กลองใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 วัน หมายเหตุ นักท่องเที่ยวต้องเตรียมอุปกรณ์ในการพักค้างแรมระหว่างทาง 1 คืน และต้องเตรียมอาหารไปเอง
ดอยหัวหมด อยู่ในเขตบ้านอุ้มผาง เป็นภูเขาหินปูนที่ทอดเป็นแนวยาวหลายลูกติดต่อกัน มีความยาว 30 กิโลเมตร กว้าง 2 กิโลเมตร บนภูเขานี้จะไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น แต่จะมีต้นหญ้าเตี้ย ๆ ขึ้นอยู่ทั่วไป เช่น ปรง ดอกเทียน และดอกไม้ป่าที่ขึ้นปกคลุมจะออกดอกบานสะพรั่งในช่วงฤดูฝนรวมทั้งมีโขดหินเป็นระยะ หากมองจากด้านล่างขึ้นไปจะเห็นเหมือนพรม สีเขียวแซมด้วยโขดหิน ต้นไม้ และดอกไม้เป็นแห่ง ๆ หากขึ้นไปบนยอดเขาจะมองเห็นหมู่บ้านอุ้มผาง และทิวเขาสลับซับซ้อนกัน โดยรอบมีทิวทัศน์สวยงาม มีจุดชมวิวเหมาะที่จะดูพระอาทิตย์ขึ้น-ตก และดูทะเลหมอกในยามเช้า (ในช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาวจะมีทะเลหมอกที่สวยงาม) การเดินทาง ใช้เส้นทางอุ้มผาง-บ้านปะละทะ ประมาณ 10 กิโลเมตร ถึงดอยหัวหมด มีจุดที่สามารถชมทิวทัศน์ดังกล่าวได้สวยงาม 2 จุด จุดแรก บริเวณกิโลเมตรที่ 9 โดยต้องเดินขึ้นภูเขาไปประมาณ 20 นาที จุดที่ 2. บริเวณกิโลเมตรที่ 10 มีทางแยกซ้ายไปลานจอดรถ และเดินเท้าไปอีก 5 นาที ควรไปถึงดอยหัวหมดก่อน พระอาทิตย์ขึ้นราว 05.00-06.00 น. อากาศบนดอยค่อนข้างเย็น มีลมพัดตลอดเวลา
ถ้ำตะโค๊ะบิ อยู่ในเขตบ้านแม่กลอง ลักษณะถ้ำมีทางเดินกว้างลงไปเป็นชั้น ๆ ข้างในมีทางแยกหลายทางเป็นถ้ำขนาดใหญ่ เพดานถ้ำสูง มีหินงอก หินย้อยสวยงาม และสามารถเดินทะลุถ้ำมาออกที่บ้านแม่กลองใหม่ ความลึกของถ้ำประมาณ 3 กิโลเมตร การเดินทาง จากอำเภออุ้มผางใช้เส้นทางสายแม่กลองใหม่-น้ำตกทีลอซู ไปประมาณ 3 กิโลเมตร
สถานที่พัก
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางได้จัดสถานที่ตั้งเต็นท์ไว้ นักท่องเที่ยวจะนำเต็นท์ไปเอง เสียค่ากางเต็นท์ 20 บาท/คน/คืน หรือติดต่อขอเช่าเต็นท์ได้ที่เขตฯ และเตรียมอาหารมาเอง โดยทางเขตฯ มีอุปกรณ์สำหรับการทำอาหารให้ ติดต่อรายละเอียดได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก 63170
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร ถึงจังหวัดตาก รวมระยะทาง 410 เมตร โดยก่อนถึงตาก 7 กิโลเมตร ให้แยกเข้าสู่เส้นทางหลวงหมายเลข 105 สายตาก-แม่สอด สู่อำเภอแม่สอดระยะทาง 88 กิโลเมตร แล้วเดินทางต่อโดยใช้เส้นทางหมายเลข 1090 สายแม่สอด-อุ้มผาง ระยะทาง 164 กิโลเมตร เข้าสู้อำเภออุ้มผางรวมระยะทาง 689 กิโลเมตร
กิจกรรมในอำเภออุ้มผาง
เส้นทางศึกษาวิถีชีวิตชาวเขา
บ้านกะเหรี่ยงปะละทะ เป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงที่เก่าแก่ ตั้งอยู่ริมลำน้ำแม่กลอง ในเขตอำเภออุ้มผาง เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการพัฒนา มีไฟฟ้าใช้ สถานีอนามัย และโรงเรียน ชาวกะเหรี่ยงที่นี่ยังนิยมการแต่งกายแบบวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนเอง แต่ละบ้านจะมีหูกทอผ้า (เครื่องทอผ้า) ใช้กันเองในหมู่บ้าน สัตว์ที่เลี้ยงไว้ เช่น หมู และไก่ เพื่อสำหรับใช้เป็นอาหาร และเลี้ยงช้างไว้เป็นพาหนะในการเดินทาง และขนส่ง ชาวกะเหรี่ยงส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม การเดินทาง จากอุ้มผางสามารถใช้เส้นทางอุ้มผาง-บ้านปะละทะ ประมาณ 27 กิโลเมตร ถึงหมู่บ้านกะเหรี่ยงปะละทะ และจากบ้านปะละทะสามารถเดินป่า หรือขี่ช้างไปบ้านกระเหรี่ยงโคทะ และน้ำตกทีลอซูได้ ทั้งยังเป็นจุดล่องเรือยางตามลำน้ำแม่กลองไปน้ำตกทีลอเร
บ้านกะเหรี่ยง ทิโพจิ เป็นหมู่บ้านที่มีวัฒนธรรม และยังคงดำเนินวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมด้วยการสร้างบ้านที่หลังคามุงด้วยวัสดุธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น ใบไม้ และเปลือกไม้ หมู่บ้านกะเหรี่ยงอยู่ในป่าลึก ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น การทำนา การทอผ้า และการเลี้ยงช้างไว้เป็นพาหนะ การเดินทาง ต้องเดินเท้า หรือนั่งช้างเข้าไปเท่านั้น
บ้านกะเหรี่ยงฤาษีเลตองคุ เป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงที่นับถือฤาษี มีประเพณีที่แตกต่างจากกะเหรี่ยงทั่ว ๆ ไป งานประเพณีที่สำคัญคือ การจุดไฟบูชาอาจารย์ฤาษีในราวเดือนธันวาคมของทุกปี ฤาษีจะพำนักในวัด และมีของสำคัญคือ งาช้างโบราณมีอายุกว่า 400 ปี แกะสลักเป็นรูปพระพุทธเจ้านั่งปางสมาธิโดยรอบจากโคนถึงปลายงา การเดินทาง ใช้เส้นทางสายอุ้มผาง-แม่กลองใหม่ ถึงบ้านกะเหรี่ยงเปิ่งเคลิ่น จากจุดนี้ไปเป็นเส้นทางลำลองโดยต้องเดินเท้าเข้าไปเป็นระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร ไปจนถึงบ้านกระเหรี่ยงฤาษีเลตองคุ นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และต้องทำหนังสือขออนุญาตก่อนล่วงหน้า 1 เดือน ได้ที่ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 347 โทร. 0 5556 1008 (ไม่แนะนำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเอง)
เดินป่า และนั่งช้าง
ท่าทราย-น้ำตกทีลอซู นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือยางไปตามลำน้ำแม่กลองเริ่มจากอุ้มผางไปขึ้นที่ท่าทราย ใช้เวลา 3 ชั่วโมง แล้วเดินเท้าไปน้ำตกทีลอซู เส้นท่าทราย-น้ำตกทีลอซู ใช้เวลา 3 ชั่วโมง หรือจะนั่งเรือไปขึ้นที่แก่งมอกีโด้ แล้วจะเดินเท้า หรือจะนั่งช้างไปน้ำตกทีลอซู ใช้เวลา 4 ชั่วโมง หรือสามารถที่จะเดินเท้าจากบ้านเดลอถึงน้ำตกทีลอซู ระยะทาง 25 กิโลเมตร ใช้เวลา 7 ชั่วโมง
ปะละทะ-โคทะ-ทีลอซู เริ่มต้นเดินทางจากบ้านปะละทะเข้าน้ำตกทีลอซู ระยะทาง 25 กิโลเมตร ใช้เวลา 6 ชั่วโมง ระหว่างทางแวะพักค้างแรมที่บ้านโคทะได้ เป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงกลางป่าที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเลี้ยงช้าง
น้ำตกทีลอเร-บ้านปะละทะ เป็นเส้นทางเดินกลับจากน้ำตกทีลอเร ผ่านน้ำตกนิรนาม ห้วยดินแดง น้ำตกเซปละ บ้านเซปละถึงบ้านปะละทะแล้วต้องเดินผ่านป่าทึบ สลับกับการขึ้นเขาลงเขา อาจพบเห็นสัตว์ป่าได้ ควรนั่งช้างสลับกับการเดินป่า ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลา 8-10 ชั่วโมง หมายเหตุ นักท่องต้องเตรียมอุปกรณ์ในการพักค้างแรมในป่า 1 คืน และเตรียมอาหารไปเอง
หมายเหตุ นักท่องเที่ยวที่สนใจเส้นทางเดินป่าสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และอนุรักษ์อุ้มผาง โทร. 0 5556 1338
ล่องแก่งแม่น้ำแม่กลอง
อุ้มผาง-น้ำตกทีลอซู
เริ่มต้นจากตัวอำเภออุ้มผาง ไปตามลำห้วยอุ้มผางออกสู่แม่น้ำแม่กลอง ผ่านธรรมชาติที่สวยงาม ถึง น้ำตกทีลอจ่อ เป็นน้ำตกที่ไหลมาจากยอดผาสูงชัน น้ำตกแตกกระเซ็นเป็นละอองคล้ายสายฝน และเป็นจุดพักเล่นน้ำอีกแห่งหนึ่ง โดยล่องเรือผ่านธารน้ำร้อนจนถึง แก่งตะโค๊ะบิ สายน้ำจะไหลเชี่ยวเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว ผ่านผาเลือด ผาผึ้ง ผาบ่อ ถึงท่าทราย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์ที่มีสภาพดี มีสมรรถนะสูง ใช้เวลาไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ประมาณ 45 นาที และจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ต้องเดินเท้าไปน้ำตกทีลอซู ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ในช่วงฤดูฝนเส้นทางรถยนต์จะปิดตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-30 พฤศจิกายนของทุกปี นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างแรมได้ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง โดยติดต่อผ่านชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และอนุรักษ์อุ้มผาง โทร. 0 5556 1337
บ้านกะเหรี่ยงปะละทะ-น้ำตกทีลอเร เริ่มต้นจากบ้านปะละทะผ่านบ้านกะเหรี่ยงโคทะ ริมสองฝั่งน้ำสมบูรณ์ด้วยต้นไม้ใหญ่ การเดินทางอาจพบสัตว์ป่าได้ การเดินทางไปน้ำตกทีลอเรจะต้องล่องแก่งผ่านแก่งต่าง ๆ แก่งแรกที่พบคือ แก่งเลเกติ เป็นแก่งใหญ่ และยาวติดต่อกันหลายกิโลเมตร ผ่านน้ำตกเล็ก ๆ ไปจนถึง แก่งคนมอง สายน้ำไหลเชี่ยว ลำน้ำเต็มไปด้วยโขดหิน จนถึงแก่งสุดท้ายคือ แก่งกะซอจิ๊เล ล่องเรือไปจนถึงเวิ้งน้ำไหลโค้งเข้าสู่เพิงผาคล้ายถ้ำริมน้ำ มีสายน้ำใหญ่ตกจากหน้าผาเขาหินปูนสูงชันลงสู่ลำน้ำแม่กลองสวยงาม คือ น้ำตกทีลอเร เป็นจุดปลายทางของการล่องแก่งเรือยางในการผจญภัยในลำน้ำแม่กลอง ความยากระดับ 3-4 หมายเหตุ นักท่องเที่ยวต้องเตรียมอุปกรณ์ในการพักค้างแรมในป่า 2 คืน และเตรียมอาหารไปเอง
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการล่องแพ เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนพฤษภาคม การล่องแพช่วงฤดูฝนจะมีอันตรายมาก เนื่องจากมีกระแสน้ำเชี่ยว และระดับน้ำลึกทำให้การบังคับแพลำบากจึงไม่ควรล่องแพหน้าฝนอย่างเด็ดขาด
การเตรียมตัวสำหรับการล่องแพ แม้ว่าการล่องแพตามฤดูกาลที่แนะนำจะไม่มีอันตรายจากธรรมชาติ เนื่องจากกระแสน้ำไม่เชี่ยว และระดับน้ำไม่ลึก อีกทั้งลำห้วยแม่กลองไม่กว้างมาก ฝั่งทั้งสองอยู่ห่างจากแพข้างละ 8-10 เมตรเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวควรจะระวังในขณะล่องแพ และเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อการล่องแพที่สนุกสนาน และปลอดภัย ดังนี้
- สวมเสื้อผ้า และรองเท้าแบบสบาย ๆ ไม่ควรหนา และรัดจนเกินไป
- สวมหมวกกันแดด
- ควรมีเสื้อชูชีพโดยเฉพาะคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น
- เตรียมเชือกมนิลายาวประมาณ 30-50 เมตร เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน
- กระเป๋ากันน้ำ หรือถุงพลาสติกสำหรับใส่กล้องถ่ายรูป
- ถุงสำหรับใส่เศษขยะเพื่อนำมาทิ้งบนบก
การติดต่อล่องแพสามารถติดต่อได้กับบริษัททัวร์ สถานที่พักในอำเภออุ้มผาง หรืออาจติดต่อผ่านบริษัทนำเที่ยว ต่าง ๆ ได้ ค่าใช้จ่ายในการล่องแพอาจเปลี่ยนแปลงไปตามจำนวนคน และระยะเวลาการล่องแพ
ข้อควรปฏิบัติในการเดินทางท่องเที่ยวอุ้มผาง
การเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง หรือน้ำตกทีลอซู นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องดำเนินการขออนุญาตก่อน โดยผ่านการประทับตรา สป. 7 จากกรมป่าไม้ (แบบฟอร์มดังกล่าวสามารถติดต่อผ่านชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และอนุรักษ์อุ้มผาง) เพราะพื้นที่นี้ไม่ใช่พื้นที่ท่องเที่ยว เป็นการอนุญาตให้เข้าไปในฐานะผู้ศึกษาธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเทศกาลวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเขตอำเภออุ้มผางโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่น้ำตกทีลอซูเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดปัญหาความแออัดในแหล่งธรรมชาติ ตลอดจนปัญหาเรื่องขยะรวมถึงห้องสุขาไม่เพียงพอ และถนนเสียหาย
น้ำตกทีลอซู
ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ห่างจากที่ทำการเขตฯ 3 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร เกิดจากลำห้วยกล้อท้อ ลำน้ำทั้งสายตกลงสู่หน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลแรงตลอดปี ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมาก ติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก
|
การเดินทางไปน้ำตกเปรโต๊ะลอซูกับทีมงาน
Trekkingthai |
เป็นทริปเข้าป่าอุ้มผางในเขตรอบนอกที่ไม่ไกลจากหมู่บ้านนัก
แต่น่าจะมีศักยภาพเป็นที่ท่องเที่ยวใหม่ได้ครับ
ทางทีมงานจะได้ประสานกับทางเขตรักษาพันธุ์ฯ
หมู่บ้านข้าง ๆ
น้ำตกนี้ และ
พี่ชูศักดิ์
แค้มป์สุขเสถียร
เพื่ออำนวยการสร้างทริปนี้ออกมาให้เป็นจริง
ในแบบคนไปมีความสุขและธรรมชาติที่ผ่านไปก็มีความสุขกับเราด้วย
น้ำตกนี้ก็ชาวบ้านเขารู้มานานและก็ไป
ๆ มา ๆ กันปกติ
แต่นักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นก็ไม่มีเอาเลยครับ
....
ผู้ที่เปิดภาพความงามระดับต้น
ๆ
ของไทยอีกแห่งหนึ่งให้พวกเราได้รู้คือทีมนายโอ๊ต
ที่ได้ไปมาเมื่อปีก่อนนะครับ
ทำให้รู้ว่า น้ำตกใหญ่
ๆ อย่างนี้
มีให้ค้นหาและน่าไปเยือนมาก
ดูภาพการเดินทางของเขาได้ที่นี่
เชื่อว่าสำหรับคนเดินป่าแล้ว
เห็นภาพแบบนี้
ก็อดใจไม่ไหวแล้วใช่ไหมล่ะ
เช่นเดียวกับการเป็นทริปช่วงแรก
อื่น ๆ จะมีเงื่อนไขอยู่บ้างในการจัดเพื่อว่าคนที่จะไปจะได้เข้าใจ
และคัดกรองไปในตัวครับ
นั่นคือ
1. ราคาจะถูกกว่าทริปต่อ
ๆ ไป หลังจากทริปมีจัดการที่ลงตัวเป๊ะ
ๆ แล้ว
2.
ความสนุกตื่นเต้นจะเยอะ
เพราะยังมีคนไปถึงน้อย
และโปรแกรมแม้มีการเปลี่ยนแปลงบ้างแต่ก็น่าจะใกล้เคียง
ส่วนที่เปลี่ยนแปลงจะปรับที่เส้นทางให้ไม่น่ากลัวจนเกินไป
และเดินในเส้นที่กระชับ
คือสั้นแต่สวยขึ้นเท่าที่จะสามารถทำได้
เพราะเท่าที่ทราบ
หากเดินในเส้นทางเดียวกันเปี๊ยบ
บางช่วงอาจจะเสี่ยงไปสักหน่อยสำหรับนักท่องเที่ยว
3.
คนไปพกหัวใจนักสำรวจและผจญภัยไปด้วยจะดีมาก
ไม่เหมาะกับมือใหม่ด้วยประการทั้งปวง
แต่ถ้าคุณอยากไปจริง ๆ
ทราบเงื่อนไขแล้ว
ก็ไม่มีปัญหา
ไม่ปิดกั้นครับ
ยินดีต้อนรับเสมอ
โปรแกรมการเดินทาง
สำหรับ 3 วัน
เวลา 1 ทุ่ม
ออกเดินทางไปอุ้มผาง
ด้วยรถตู้
เดินทางถึงอุ้มผางก็ตอนเช้าตรู่พอดี
นัดเจอที่ สนง เทรคกิ้งไทยดอทคอมนะครับ
(คลิกดูแผนที่ได้จากข้างบน)
เนื่องจากระยะทางยาวไกล
ดังนั้นพยายามมาให้ตรงเวลานะจ๊ะ
เดี๋ยวไปช้าก็จะขึ้นเขาสาย
วันที่ 1-3
ของการเดินป่าเที่ยวน้ำตกเปรโต๊ะลอซู
(หรือชื่อของท้องถิ่นอื่น
ๆ ก็มีอีก
แต่คงต้องสรุปกันอีกทีหลังจบทริปว่าควรเรียกว่าอะไรให้สอดคล้องกับชาวกระเหรี่ยงที่นั่น
การเดินวันแรกต้องลุยข้ามน้ำ
ซึ่งเมื่อไปถึงอุ้มผางแล้วคงต้องต่อรถกันไปอีกสักพักหนึ่ง
พร้อมเจ้าหน้าที่นำทาง
ก็จึงต้องเตรียมตัวข้ามน้ำให้พร้อม
ด้วยชุดที่เหมาะสม และก่ารป้องกันของในเป้เปียก
ส่วนเป้ด้านนอกน่าจะต้องเปียกบ้างพอสมควร
วันนี้หลังจากเดินป่าสักค่อนวัน
ข้ามน้ำไปมา กลางหน้าฝน
น้ำคงไม่น้อยแน่ ๆ
เราก็จะมองเห็นน้ำตกที่สุงเอามาก
ๆ แห่งนี้แล้วล่ะครับ
หาที่ตั้งแค้มป์พักแรม
ซึ่งอุปกรณ์การนอนที่น่าจะเหมาะสมก็คงเป็นเปลและฟลายชีตกันฝน
หลับให้สบาย
พรุ่งนี้เราจะขึ้นเขากัน
ในช่วงวันที่สองถึงสาม
เส้นทางคงปรับเปลี่ยนไม่เหมือนกับที่ทีมเพื่อน
ๆ ในเว็บไปกันมา
โดยตั้งใจให้ขึ้นไปในเส้นทางที่มีความเสี่ยงน้อยหน่อย
อาจจะไปได้ไม่ไกลและใกล้กว่าบ้าง
แต่ถ้าได้เห็นวิวสวย ๆ
ตามสมควรก็น่าเพียงพอ
เพราะบางจุดของเดิม
เสี่ยงจนอาจกล่าวได้ว่า
ไปได้ไม่กี่คณะ
ตามคำบอกเล่าของคนที่ไปนะครับ
วันนี้ตั้งเป้าของไฮไลต์ที่สันเขาหรือจุดพักแรมที่ใกล้จุดชมวิวครับ
ซึ่งเมื่อปรับเส้นทาง
ตรงนี้อาจจะยังบอกไม่ได้ชัดเจนว่าคืนที่สองเนี่ยเราจะไปนอนตรงไหนกัน
ส่วนวันที่สามก็เดินทางกลับออกมาจากจุดพักแรม
แล้วก็อาบน้ำ
ทานข้าวแยะ ๆ
ก่อนหลับสนิท
เพราะน่าจะเหนื่อย
มาถึงกทม
ก็คงเช้ามืดล่ะครับเพื่อน
ๆ
เพราะเส้นทางยาวไกลพอสมควรนะ
สำหรับเส้นทางต่าง ๆ
หลังจากทริปสำรวจเสร็จแล้วก็จะเอาภาพมาให้ชม
ใครที่ตกทริปสำรวจครั้งแรกไป
หรือ
สนใจหลังจากได้ชมภาพแล้วก็เตรียมลางานแล้วไปถึกด้วยกันได้เลย
*_*
จำนวนที่รับ 6-9 คน
ราคา คนละ 3200 บาท
ค่าน้ำมันมันบานปลายทำให้ค่าใช้จ่ายบานกว่าเดิมไปบ้าง
แต่ก็เรียกว่าไปเอง
ขับรถไปก็ราคาไม่หนีจากนี้เท่าไหร่แล้วครับ
สำหรับการเดินทางไปอุ้มผาง..
ราคานี้รวม ...
ค่าเดินทาง อาหารรวม 9
มื้อ ค่าเข้าเขตฯ
เจ้าหน้าที่นำทาง
ค่าตอบแทนสตาฟ
ทีมแบกของท้องถิ่น
ค่ารถรับส่งท้องถิ่น
มีประกันอุบัติเหตุมูลค่า
300,000 บาท
เตรียมไปเองด้วย
1. เปล
ไม่มียินดีจัดเปลสยามนอนให้สบายให้นอนกัน
2. ถุงนอน
มีส่วนตัวไปดีกว่า
แต่ถ้าไม่มี
ยืมทางเราได้ครับ
3.
ชุดที่เหมาะสมกับการเดินขึ้นเขา
แขนยาว
แนะนำให้งดใช้กางเกงยีนส์
(บนภูฝนตกบ่อย กางเกงยีนส์จะหนัก
ทำให้คุณหนื่อยกว่าเพื่อน
ๆและยังเสียดสีเนื้ออีกต่างหากเมื่อขึ้นทางชัน
) แต่ใครคิดว่าถนัด
จะนำไป
ก็ไม่ว่ากันนะครับ
อันนี้ก็แนะนำไว้แบบกลาง
ๆ
บางท่านบอกฉันเดินของฉันได้
ก็ไม่มีปัญหาล่ะครับ
ก็ถือว่าเป็นความชำนาญเฉพาะตัวนะจ๊ะ
4. ไฟฉาย
กลางค่ำกลางคืนต้องเดินไปห้องน้ำจะได้ปลอดภัย
และเผื่อเดินป่ากลางคืนด้วยถ้าจำเป็น
สำหรับทริปสำรวจอย่างนี้
เราขอแนะนำเป็นไฟฉายคาดหัวเพื่อความคล่องตัวในการเดินเท้าและใช้มือจับยึดสิ่งอื่น
ๆ ได้
5. ยาประจำตัว
เตรียมไปให้พร้อม
6 อันนี้สำคัญ "รองเท้าแบบมีดอกยางที่ดีครับ"
เคลียร์ ๆ ก็คือ ดอยางหนา
จะเป็นแบบแตะรัดส้นหรือผ้าใบก็ได้
แต่ต้องมีดอกยาง
จะได้ไม่ลื่น กันลื่น
ส่วนถุงกันทากนั้นก็น่าจะมีใส่ไป
แต่ตามข้อมูลที่ทราบมาก็มีในปริมาณไม่แยะ
อีกอย่างหากฉุกเฉิน
เราจะมีการข้ามน้ำ
และไต่หิน
ค่อนข้างแน่นอน
ดังนั้นควรมีกางเกงที่พับขาง่าย
และถุงมือไปด้วย
7 หน้าฝน
เอาเสื้อกันฝนไปด้วยล่ะ
8
จะไปคนเดียวก็ไม่มีปัญหานะครับ
เป็นคำถามยอดฮิตครับว่าไปคนเดียวจะมีปัญหาอะไรไหม
ก็ตอบเลยว่าไม่มีอ่ะ
สนใจติดต่อโทร จองทริปสำรวจ
ที่โปรแกรมอาจจะวกวนหน่อย
ก็ทำให้พิจารณากันได้ประมาณนี้
แต่คนจัดน่ะเตรียมตัวไปนะครับ
ทำการบ้านไปเพื่อให้สมาชิกเดินป่ากันสนุก
ได้เพื่อนใหม่กลับมาตามคอนเซ็ปต์ของเว็บไซต์ครับผม
โทรจองได้ที่
คุณรุ่งรัตน์ โทร 09-501-5704
หรือ คุณหนึ่ง 07-015-7074 /09-148-7598
|
|