รูปเหมือน
หลวงพ่อทวด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
รูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก วัดห้วยมงคล
ประจวบคีรีขันธ์
รูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
ที่ประดิษฐานอยู่ที่ วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน
จ.ประจวบคีรีขันธ์
คงจะมีน้อยคนที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อเสียงกิตติคุณของหลวงพ่อทวด
ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วประเทศถึงความศักดิ์สิทธิ์
ตลอดจนอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ
มีผู้ให้ความเคารพเลื่อมใสมาเป็นเวลานาน
และรู้จักกันเป็นอย่างดี ในนาม สมเด็จหลวงพ่อทวด
เหยียบน้ำทะเลจืด
ในประวัติของหลวงพ่อทวด กล่าวไว้ว่า หลวงพ่อทวด หรือสมเด็จพะโคะ
มีชื่อเดิมว่าปู เป็นลูกชายของนายหูและนางจัน
เกิดในปลายสมัยพระมหาธรรมราชา (อาจจะเป็นปี พ.ศ. 2125 หรือ
2131) ตอนเด็กชายปูยังเป็นทารก
มีเรื่องเล่าเป็นปาฏิหาริย์เอาไว้ว่าหลังจากนางจันเลิกอยู่ไฟก็ออกเกี่ยวข้าวทันที
วันหนึ่งนางไปเก็บข้าวก็เอาลูกชายไปด้วย
และได้ผูกเปลใต้ต้นหว้า งูตะบองสลาได้ขึ้นมานอนบนเปลนั้น
เมื่อพ่อกับแม่มาเห็นงูก็เลื้อยหายไป
แต่ได้คายแก้ววิเศษเอาไว้ให้
จนเมื่อเด็กชายปูอายุได้ 7 ขวบ
ผู้เป็นพ่อได้ฝากกับท่านสมภารจวงซึ่งเป็นพี่ชายของนางจันผู้เป็นแม่
(หลวงลุง) วัดกุฏิหลวง (วัดดีหลวง)
เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือ เด็กชายปูมีความเฉลียวฉลาดมาก
สามารถเรียนหนังสือขอมและไทยได้อย่างรวดเร็ว
เมื่ออายุได้ 10
ขวบ
ก็บวชเป็นสามเณรและผู้เป็นพ่อได้มอบแก้ววิเศษไว้เป็นของประจำตัว
ต่อมาสามเณรปูได้ไปศึกษาต่อกับพระชินเสนที่วัดสีหยัง
(สีคูยัง)
ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงมากมาจากกรุงศรีอยุธยา
เมื่ออายุได้ 20 ปีบริบูรณ์
ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่นครศรีธรรมราช ณ สำนักพระมหาเถรปิยทัสสี
ต่อมาก็ได้เข้ารับการอุปสมบท มีฉายาว่า "ราโมธฺมมิโก"
แต่คนทั่วๆ ไปเรียกว่า "เจ้าสามีราม"
และได้ศึกษาอยู่ที่วัดท่าแพ วัดสีมาเมือง และวัดอื่นๆ
อีกหลายวัด
เมื่อเห็นว่าการศึกษาที่นครศรีธรรมราชเพียงพอแล้ว
จึงได้ขอโดยสารเรือสำเภาเดินทางไปกรุงศรีอยุธยา
ขณะเดินทางถึงเมืองชุมพรได้เกิดคลื่นลมทะเลปั่นป่วน
เรือไม่สามารถแล่นฝ่าคลื่นลมไปได้ ต้องทอดสมออยู่ถึง 7 วัน
ทำให้เสบียงอาหารและน้ำหมด
บรรดาลูกเรือจึงตั้งข้อสงสัยว่าการที่เกิดอาเพศในครั้งนี้เป็นเพราะเจ้าสามีราม
จึงตกลงใจให้ส่งเจ้าสามีรามขึ้นเกาะ
ได้นิมนต์ให้เจ้าสามีรามลงเรือมาด
ขณะที่นั่งอยู่ในเรือมาดนั้นท่านได้ห้อยเท้าซ้ายแช่ลงไปในทะเล
ก็บังเกิดอัศจรรย์ น้ำทะเลบริเวณนั้นเป็นประกายใสแวววาว
ลูกเรือตักน้ำขึ้นมาดื่มก็รู้สึกว่าเป็นน้ำจืดจึงช่วยกันตักไว้จนเพียงพอ
นายสำเภาจึงนิมนต์ให้ขึ้นสำเภาอีก
และตั้งแต่นั้นเจ้าสามีรามก็เป็นอาจารย์ของเจ้าสำเภาอินสืบมา
ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวมาสักการะบูชาหลวงพ่อทวดจำนวนมาก
อภินิหารที่ท่านสามีรามเหยียบน้ำทะเลจืด
เป็นที่โจษขานมาถึงบัดนี้
และเหตุการณ์ตอนนี้มีเล่าเสริมพิสดารขึ้นว่า ตอนแรกนายอิน
เจ้าของสำเภาเชื่อมั่นว่าพระสามีรามเป็นกาลกิณี
เรือจึงต้องพายุเพราะก่อนมาไม่เคยเป็น
เมื่อคลื่นสมสงบจึงคิดจะเอาเจ้าสามีรามปล่อยเกาะ
แต่พอได้เห็นปาฏิหาริย์จึงขอขมาโทษ
ในยุคสมัยนี้
เกือบจะไม่มีชาวไทยคนใดเลย
ที่จะไม่ได้ยินหรือได้ฟังกิตติศัพท์เล่าลือเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทวด
เหยียบน้ำทะเลจืด ความศักดิ์สิทธิ์อันนี้
บ้างก็เป็นเรื่องของการคลาดแคล้วจากอุบัติเหตุสยองจากไฟไหม้หรือจากภัยพิบัติต่างๆ
และหลวงพ่อทวดไม่ใช่จะคุ้มครองเฉพาะในด้านอุบัติเหตุเท่านั้น
แม้แต่ในทางโชคลาภก็ให้ผลอย่างดีที่สุด เหรียญรุ่นต่างๆ
ของหลวงพ่อทวด จึงเป็นที่นิยมของเซียนพระอยู่ไม่น้อย
เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล
เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
และด้วยความเคารพศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อทวด
ภาครัฐและเอกชนจึงได้ร่วมกันสร้าง "หลวงพ่อทวด"
องค์ใหญ่ที่สุดในโลกขึ้น ณ "วัดห้วยมงคล"
รูปเหมือนหลวงพ่อทวด
องค์ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ สร้างด้วยเนื้อโลหะผสม
ที่งดงามอลังการมาก โดยมีหน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5
เมตร บนฐานสูง 3 ชั้น ชั้นล่างกว้าง 70 เมตร ยาว 70 เมตร
นอกจากนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ได้พระราชทานพระราชานุญาตให้คณะกรรมการจัดสร้างอัญเชิญพระนาภิไธยย่อ
ส.ก. ขึ้นประดิษฐานที่หน้าองค์รูปหล่อองค์หลวงพ่อทวดด้วย
นอกจากนี้ที่วัดห้วยมงคลแห่งนี้ยังมีหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดแกะสลักจากไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่อายุกว่าพันปี
ที่ฝังอยู่ในทรายใต้แม่น้ำยม จังหวัดแพร่ ลึกกว่า 10 เมตร
ชาวบ้านเชื่อกันว่าต้นไม้ที่แก่นสูง 1 คืบขึ้นไป จะมีรุกขเทวดาสถิตอยู่เพื่อดูแลปกป้องคุ้มครองคนที่มาสักการบูชา
เมื่อนำต้นตะเคียนทองมาทำรูปเคารพ
เช่นแกะเป็นหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
จึงมีอานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์เป็นทวีสิทธิ์
ดลบันดาลให้ผู้กราบไหว้ได้มีความสุขความเจริญปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ วัดห้วยมงคล
ไม่เพียงจะเป็นที่เคารพสักการบูชาและเป็นที่พึ่งทางใจของเหล่าพุทธศาสนิกชนเท่านั้น
แต่ยังเป็นสถานที่พักผ่อนที่สงบ เพราะบริเวณรอบๆ
ที่ประดิษฐานรูปเหมือนของหลวงพ่อทวดนั้น
ได้จัดเป็นสวนหย่อมสวยงาม
ในแต่ละวันจึงมีทั้งพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวเดินทางไปนมัสการกราบไหว้
และชื่นชมความงดงามและยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อทวดจำนวนมาก
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
"วัดห้วยมงคล"
นั้นแต่เดิมใช้ชื่อว่า "วัดห้วยคต" ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านห้วยคต
ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามใหม่จาก
ห้วยคต เป็น ห้วยมงคล ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นทั้งชื่อหมู่บ้าน
วัด โรงเรียน และโครงการต่างๆ อีกมากมาย
กว่า 40 ปีแล้ว ที่หมู่บ้านห้วยมงคล
เป็นที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จมาเยี่ยมประชาชนด้วยโครงการต่างๆ
ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับพสกนิกรได้มีฐานะดีขึ้น
และโครงการต่างๆก็ดำเนินไปได้ด้วยดี
เพราะมีส่วนราชการให้การดูแล
รวมทั้งทรงอุปถัมภ์วัดห้วยมงคลไว้ให้เป็นที่พึ่งทางใจสำหรับชาวบ้าน
โดยปัจจุบันมีพระครูปภัสสรวรพินิจ หรือพระอาจารย์ไพโรจน์
ปภัสสโร เป็นเจ้าอาวาส |