ข้อมูลเพิ่มเติม วัดต่อแพ
วัดต่อแพ
ตั้งอยู่ที่บ้านต่อแพ ตำบลแม่เงา ห่างจากตลาดขุนยวมประมาณ 7
กิโลเมตร โดยก่อนที่จะถึงตลาดมีทางแยกจากทางสาย 108
ตรงข้ามกับวัดม่วยต่อ ไปประมาณ 5
กิโลเมตร เป็นทางลาดยางตลอด เป็นวัดเก่าแก่อยู่ทางฝั่งขวาของลำน้ำยวม
มีวิหารขนาดใหญ่แบบพม่า
สร้างอย่างวิจิตรสวยงามมากซึ่งภายในวิหารมีผ้าม่านเก่าแก่ทำด้วยกำมะหยี่ประดับลูกปัด
มุกและทับทิม จำนวน 164 เม็ดและมีธรรมาสน์สร้างในพ.ศ.
2464
นอกจากนี้ยังมีเจดีย์ทรงมอญอีกด้วย
ตามประวัติเล่าว่าบริเวณนี้แต่เดิมเคยเป็นที่พัก และรวมไม้ซุง
นักต่อแพเหล่านี้ได้พร้อมใจกันสร้างวัดขึ้นมาแล้วให้ชื่อว่า วัดต่อแพ
แต่เดิมบริเวณวัดนี้เป็นวัดร้างสันนิฐานว่าเป็นวัดของชาวลวะหรือละว้าที่สร้างมาเป็นเวลานานแล้ว
ภายหลังเมื่อมีคนอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้
จึงพบวัดต่อแพซึ่งมีซากเจดีย์เก่ามีต้นไม้ใหญ่ขึ้นกลางเจดีย์แต่ในตอนนั้น
ยังไม่มีใครกล้าเข้ามายังบริเวณนี้เพราะเล่ากันว่ามีผีดุมาก
ต่อมาชาวบ้านได้นิมนต์เจ้าอาวาสวัดต่อแพเก่า
(ปัจจุบันเป็นมี่ตั้งศูนย์เด็กเล็ก) ให้มาทำการบูรณะวัด
โดยมีศรัทธาบ้านเมืองปอน บ้านขุนยวมและบ้านต่อแพร่วมกันสร้างศาลาการเปรียญขึ้นมาเมื่อราวปี
พ.ศ. 2461
ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วว่า วัดต่อแพเป็นวัดเก่าแก่ที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อน
ภายหลังจึงได้รับการสร้างขึ้นใหม่ ดังมีหลังฐานปรากฏในแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศว่า
วัดต่อแพและหมู่บ้านต่อแพเป็นเมืองโบราณ
เมื่อโครงการสำรวจชุมชนโบราณของศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ได้เข้าไปทำการสำรวจจึงทราบว่า
ต่อแพเป็นเมืองเก่าของจังหวัดแม่ฮ่องสอนและเป็นหนึ่งในสามของเมืองเก่าที่ปรากฏในแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศดังกล่าว
อนึ่ง
มีบางตำราได้กล่าวถึงประวัติของวัดว่าสถานที่แห่งนี้เดิมเป็นที่พักและรวมซุงไม้
มีนักต่อแพมาชุมนุมกันมาก
นักต่อแพเหล่านั้นจึงร่วมใจกันสร้างวัดขึ้นมาและให้ชื่อว่าวัดต่อแพ
สถาปัตยกรรมที่ดีเด่นของวัดต่อแพ
คือศาลาการเปรียญซึ่งเป็นอาคารสถาปัตยกรรมพม่าผสมไทใหญ่ที่สวยงามที่สุดในอำเภอขุนยวม
ตัวอาคารซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกนั้นได้รับการก่อสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง
มีความกว้างประมาณ 30 เมตร และยาวประมาณ 25
เมตร
หลังคาซึ่งมีหลายชั้นแยกออกจากกันเป็นหลังๆ
และมุงด้วยสังกะสีที่ได้รับการสลักลวดลายอย่างสวยงาม
ปัจจุบันนี้สภาพโดยทั่วไปของศาลาการเปรียญยังสมบูรณ์ดี
เนื่องจากได้รับการดูแลเอาใจใส่จากพระคณะพิสิฐศ์พรหมคุณ
ท่านจากอาวาสวัดอย่างสม่ำเสมอ
วัดต่อแพมีวัตถุโบราณล้ำค่าหลายอย่าง เช่น
ผ้าม่านประดับพลอดกว้าง 2
เมตร ยาว 3 เมตร
ตู้พระธรรมซึ่งนำมาจากเมืองมะละแหม่ง แกะสลักอย่างสวยงามจำนวน 2
ใบและพระพุทธรูปล้ำค่าอีกหลายองค์ นอกจากนี้
ภายในบริเวณวัดยังมีอาคารที่เก่าแก่อีกหลายหลัง คือ
จองซอนหรือศาลาสรงน้ำพระซึ่งใช้เป็นที่สรงน้ำพระในเทศกาลสงกรานต์ของชาวไทใหญ่
ตลอดจนวิหารและเจดีย์เก่าแก่ สร้างขึ้นราวปี พ . ศ . 2463
และถานหรือส้วมพระสงฆ์สมัยโบราณที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรพิสดาร
มีหลังคาลดชั้นและลวดลายแกะสลักไม้ปัจจุบันนี้ยังใช้งานได้ดี
อนึ่ง วิหารและเจดีย์ของวัดต่อแพซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน
คือที่บริเวณด้านหน้าของศาลาการเปรียญนั้น
องค์เจดีย์จะตั้งอยู่ด้านทิศเหนือและวิหารจะตั้งอยู่ด้านทิศใต้
สำหรับองค์เจดีย์
ซึ่งได้กล่าวถึงแล้วข้างต้นว่ามีมาแต่เดิม
ต่อมาจึงได้รับการบูรณะให้มีสภาพสมบูรณ์ขึ้น
สิ่งที่แปลกประหลาดเกี่ยวกับเจดีย์นี้
คือต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่กลางองค์เจดีย์และไม่มีใครกล้าตัดออก
หรือแม้แต่จะนำช้างนี้มาเลี้ยงในบริเวณนั้น เพราะเล่ากันว่ามีผีดุ
ชาวบ้านบางคนกล่าวว่า เวลานำช้างมาเลี้ยงทีไร
ช้างจะแตกตื่นวิ่งหนีไปเสียทุกครั้งต่อมา
เมื่อมีศาลาการเปรียญขึ้นมาเป็นอาคารหลังแรกของวัดต่อแพในปี พ.ศ.
2461 (เจดีย์ยังไม่ได้รับการบูรณะ)
ได้มีปรากฏการณ์บางอย่างเกิดขึ้นคือ
ทุกวันขึ้น
14, 15 ค่ำ
จะมีดวงไฟส่องสว่างลอยออกมาจากเจดีย์องค์ดังกล่าว แต่ไม่มีใครสนใจ จนวันหนึ่ง
มีเณรไปเล่นที่รอบเจดีย์โดยขุดคุ้ยกองอิฐเก่าที่ฐานเจดีย์นั้น ก็ได้พบผอบเงิน
เมื่อแกะดูข้างในมีพระธาตุเม็ดเล็กๆ ขนาดข้าวสาร มีแสงระยิบระยับไปหมด
เจ้าอาวาสทราบดังนั้น จึงสั่งให้เก็บไว้ที่องค์เจดีย์ตามเดิม
ครั้นข่าวการพบพระธาตุได้กระจายไปยังที่ต่างๆ ทั้งในหมู่บ้าน
ต่างบ้านจนไกลไปถึงเมืองมะละแหม่งและร่างกุ้งในสหภาพพม่า
ก็มีผู้คนมาทำบุญกันมากมาย
อีกทั้งถวายเงินเข้าวัดเป็นจำนวนมากจึงมีผู้คิดจะสร้างเจดีย์องค์ใหม่เพื่อครอบองค์เก่า
แต่ไม่มีใครกล้าตัดต้นไม้ที่ขึ้นกลางเจดีย์
แม้ว่าจะมีหมอผีหลายคนรับอาสาทำพิธีตัดให้ แต่ก็ไม่สำเร็จสักคน
ทั้งนี้เนื่องจากเวลาที่ทำพิธีอยู่นั้น
เมื่อหมอผีนำขวานไปฟันติดกับต้นไม้แล้วมี
การจุดธูปเทียนบอกกล่าวพร้อมกับอธิฐานว่า
ถ้าอนุญาตให้ตัดต้นไม้ขอให้ขวานติดอยู่ดังเดิม แต่ครั้นรุ่งเช้า
ขวานก็จะกระเด็นไปตกที่อื่นอยู่เช่นนั้นเสมอ
จนวันหนึ่งเจ้าอาวาสฝันว่าเจ้าของเจดีย์จะอนุญาตให้ตัดต้นไม้ก็ต่อเมื่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำยวมซึ่งอยู่ติดกับวิหารให้ก่อน
เจ้าอาวาสจึงเรียกชาวบ้านมาช่วยกันสร้างสะพานและทำพิธีอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อทำพิธีเสร็จเจ้าของเจดีย์ก็มาเข้าฝันเจ้าอาวาสอีกว่า
บัดนี้พวกผีสิงสถิตอยู่ในเจดีย์ได้ข้ามแม่น้ำยวมไปอยู่ดอยคูเวียงซึ่งเป็นวัดร้างอีกแห่งหนึ่งบนเขาแล้ว
ชาวบ้านจึงได้ออกเงินกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ จากนั้น
การตัดไม้ก็สำเร็จลงและเจดีย์องค์ใหญ่ก็ถูกสร้างขึ้นครอบเจดีย์องค์เก่าดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
และภายหลังได้มีการสร้างวิหารขึ้นอีก
สำหรับเจดีย์และวิหารของวัดต่อแพซึ่งสร้างขึ้นใหม่นี้สร้างตามแบบศิลปะพม่าผสมกับไทใหญ่
โดยองค์เจดีย์มีฐานกว้างประมาณ 12x12 เมตร
แต่ละทิศมีซุ้มพระประจำ และมีความสูงประมาณ 20 เมตร
แต่ละทิศมีซุ้มพระประจำ และมีสิงห์ทั้ง 4 มุม อนึ่ง
ฉัตรทองซึ่งมีระฆังห้อยหลายชั้นนั้นเมื่อลมพัดจะเกิดเสียงดังกังวานไปทั่ว
อนึ่งวิหารของวัดมีหลังคาสูงคล้ายวิหารที่วัดลำปางหลวง จังหวัดลำปาง
และมีเสากลม ตัวเพดานเขียนลวดลายอย่างสวยงาม ทางเข้าวิหารอยู่ทางทิศใต้
นับว่าสิ่งก่อสร้างทั้ง 2
ซึ่งได้แก่ วิหารและเจดีย์ของวัดต่อแพ
ต่างก็เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านต่อแพ ตลอดจนชาวอำเภอขุนยวมโดยทั่วกัน
สำหรับความงดงาม อาจกล่าวได้ว่า
วิหารของวัดเป็นวิหารที่สวยงามที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็ว่าได้
การเดินทางไปยังวัดต่อแพ
ตั้งอยู่ที่บ้านต่อแพ ตำบลแม่เงา ห่างจากตลาดขุนยวมประมาณ
7 กิโลเมตร
โดยก่อนที่จะถึงตลาดมีทางแยกจากทางสาย 108 ตรงข้ามกับวัดม่วยต่อ
ไปประมาณ 5 กิโลเมตร
เป็นทางลาดยางตลอด
กิจกรรมที่น่าสนใจในวัดต่อแพ
ชมวัดเก่าที่สวยงามด้วยศิลปะแบบพม่าและไทใหญ่
สิ่งน่าสนใจอื่นๆในวัดต่อแพ
·
เจดีย์องค์ใหญ่
·
วิหาร
·
อาสนสงฆ์
·
ผ้าม่านโบราณ
ช่วงเวลาที่เหมาะสม
สำหรับการมาท่องเที่ยววัดต่อแพ
ตลอดทั้งปี
คำแนะนำในการท่องเที่ยว
วัดนี้มีสิ่งก่อสร้างเช่นเจดีน์ วิหาร ที่มีความสวยงาม
มีวัตถุโบราณที่สวยงามและทรงคุณค่า ที่น่าสนใจ