ประวัติและนามของวัด
วัดไตรมิตรวิทยาราม
เป็นวัดโบราณสร้างเมื่อสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐาน เดิมมีชื่อว่าวัดสามจีนใต้
มีคำเล่ากันว่าวัดสามจีน เดิมมีอยู่สามวัดคือ วัดสามจีนอยู่ในคลอง
บางอ้อด้านตรงข้ามกับเทเวศร์วัดหนึ่ง วัดสามจีนเหนือบาง
ท่านก็ว่าอยู่ที่บางขุนพรหม บางที่ก็ว่าอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี
สำหรับวัดที่อยู่บางขุนพรหม ได้แก่ วัดสังเวชวิศยารามส่านที่อยู่จังหวัดนนทบุรีได้แก่
วัดโชติการาม อำเภอเมืองนนทบุรี และวัดสามจีนใต้
ไดแก่ วัดไตรมิตรวิทยาราม
เหตุที่เรียกว่าวัดสามจีน ก็เนื่องด้วยเหตุว่ามีชาวจีน ๓ คนได้
ช่วย กันก่อสร้างขึ้นมาจึงได้นามว่า
วัดสามจีน
การเปลี่ยนนามวัด
ในปี
พ.ศ. ๒๔๘๒ ได้เปลี่ยนนามวัดสามจีนใต้มาเป็นวัดไตรมมิตรวิทยารามทั้งนี้
เพื่อจะเฉลิมเกียรติคุณ
ของท่านผู้แรกสร้างให้ยั่งยืนวัฒนายิ่งขึ้น และเป็นการเชิตชู
อุตสาหะวิริยะของท่าผู้สร้างและคณะกรรรมการ ปรับปรุงวัด พระเดชพระคุณท่านเจ้า
ประคุณสมเด็จพระวันรัต ( เฮง เขมจารีมหาเถร)
วัดมหาธาตุ ฯ ได้เมตตาคิดคันนาม ที่เป็นมงคลมาเฉลิมเพิ่ม
ความสง่าให้แก่วัดสามจีนใต้ โดยเปลี่ยนเป็น
ไตรมิตรวิทยารามและกรมสามัญศึกษาได้เปลี่ยนนามโรงเรียนมัธยมวัดสามจีนใต้
เป็น โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัยตามนามวัดที่ได้เปลี่ยนใหม่
เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๘๒
ปูชนียวัตถุ
พระพุทธทศทลญาณ
พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ปูนปั้น
ลงรักปิดทองประชาชนทั่วไปเรียกว่าหลวงพ่อโม
บ้างหลวงพ่อวัดสามจีน
มีประชาชนมาบนบานกันเสมอ ๆ ด้วยพวงมาลัยดอกมะลิ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เคยทรงเสด็จพระราชดำเนินมานมิสการ
และได้ตรัสอกย่องว่า เป็นพระพุทธรูปที่มีพระพุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก หลวงพ่อโม
อดีตเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม
เคยได้ทำพระเครื่องแจก ครั้งหนึ่ง ได้ทำเป็นรูป
พระพุทธทศพลญาณสร้างด้วยเนื้อชิน เรียกชื่อว่า หลวงพ่อโตวัดสามจีน
ปรากฏว่าเป็นที่นิยมนับถือของคนทั่งไปว่า ศักดิ์สิทธินัก ปัจจุบันนี้
หายากแล้วพระพุทธสุโขทัยไตรมิตร ประดิษฐานอยู่ที่พระวิหาร
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปทองคำ