พระที่นั่งวิมานเมฆ
เขตดุสิต จังหวัดกรุงเทพฯ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้รื้อพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ ซึ่งปลูกไว้ที่เกาะสีชัง
แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จ มาปลูกใหม่ที่ สวนดุสิต และได้ทรงวางศิลาฤกษ์ ในวันที่
30 สิงหาคม 2443
มาแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2444 รวมเวลาทั้งสิ้น7
เดือน พระที่นั่งวิมานเมฆ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างขึ้นในวัง สวนดุสิต นี้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฯ
กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงกำกับการออกแบบ
มีน้ำล้อมรอบคล้ายกับตั้งอยู่กลางเกาะ มีคลองร่องไม้หอมอยู่ทางทิศตะวันออก
คลองรางเงินอยู่ทางทิศตะวันตก อ่างหยกอยู่ทางทิศใต้
และคลองคาบแผ่นกระจกอยู่ทางทิศเหนือ น้ำจะมีสีเขียวเหมือนหยก
ซึ่งเกิดโดยธรรมชาติ อาคารสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง เป็นรูปตัว L
คือสร้างเป็นรูปสองแฉกตั้งฉากกัน ด้านทิศใต้ขนานกับอ่างหยก
ด้านทิศตะวันออกขนานกับคลองร่องไม้หอม แต่ละด้านยาว 60
เมตร เป็นอาคารสามชั้น ยกเว้นส่วนที่ประทับ ซึ่งเรียกว่า "แปดเหลี่ยม"
นั้นสร้างเป็นสี่ชั้น ชั้นที่อยู่ติดดิน ก่อด้วยอิฐ
ส่วนที่อยู่เหนือขึ้นมาเป็นเรือนไม้ มีห้องทั้งสิ้นจำนวน 31
ห้อง ส่วนกว้างที่สุดวัดได้ 35 เมตร
ส่วนกว้างทั่วไป 15 เมตร ส่วนสูงวัดถึงเพดานชั้นสี่ สูง
20 เมตร หากวัดถึงยอดปลายแหลมของหลังคาได้ 25
เมตร ที่ปลายสุดด้านขนานกับอ่างหยก ทางทิศติดคลองรางเงินนั้น
มีโรงเฟิน เป็นเรือนต้นไม้ สำหรับพระราชวัง ดุสิต ภายในมีน้ำพุ มีอัฒจันทร์
3 แห่ง ด้านทิศตะวันออก จากพระที่นั่งอภิเษก ดุสิต
ข้ามคลองร่องไม้หอมมา ตรงไปจรดอัฒจันทร์ ทางขึ้น พระที่นั่งวิมานเมฆ
ทางเดินปูด้วยหินขนาดใหญ่ ด้านทิศใต้ ตรงข้ามกับเรือนต้น
ซึ่งตั้งอยู่อีกด้านหนึ่งของอ่างหยก และบริเวณ "แปดเหลี่ยม"
มีอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ ยื่นออกไปเป็นมุขศาลาท่าน้ำ ที่ริมอ่างหยก
ในปี พ.ศ. 2525
ฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ครบรอบ 200 ปี สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ ทรงสำรวจพบว่า พระที่นั่งวิมานเมฆ ยังอยู่ในสภาพดี มีศิลปวัตถุ
ตลอดจนภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ประดับอยู่เป็นจำนวนมาก
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ซ่อมแซมโดยรักษาสภาพเดิมไว้ให้ได้ดีที่สุด
และจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ครั้นเมื่อเสร็จ พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้จัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5
ตุลาคม พ.ศ. 2525
ในปัจจุบัน องค์พระที่นั่งชั้นสอง
จัดแสดงเครื่องเงินฝีมือประณีต ในแบบต่างๆ เครื่องลายครามนานาชนิด รวมทั้งชุด
จ.ป.ร. ที่สวยงาม เครื่องถมปัด ธารพระกร เครื่องกระเบื้อง ตลอดจนงาช้าง
และเขาสัตว์ที่ทรงสะสมไว้ ชั้นสาม จัดแสดงเครื่องแก้วเจียระไน เครื่องเบญจรงค์
เครื่องของเล่นขนาดเล็ก เครื่องลายคราม เครื่องถม ตลอดจน
ได้จัดตกแต่งท้องพระโรง ห้องทรงพระอักษร ห้องเสวย
และหมู่ห้องไทยไว้อย่างพร้อมมูลด้วย ชั้นสี่ จัดเป็นหมู่ห้องพระบรรรทม
ประกอบด้วยห้องสำคัญ 4 ห้อง
คือห้องทรงงาน ห้องพระบรรทม ห้องแต่งพระองค์ และห้องสรง ทุกๆ
ห้องได้จัดแสดงเครื่องใช้ส่วนพระองค์ ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้เคยทรงในอดีตสมัย
การเดินทาง
อยู่ในเขตพระราชวังดุสิตหลังพระที่นั่งอนันตสมาคม
ประตูหน้าที่จำหน่ายบัตรอยู่ด้านถนนราชวิถีใกล้กับแยกถนนพิชัย